เป็นอีกปีหนึ่งของโรงแรมดุสิตธานี โรงแรมสัญชาติไทยที่มีประวัติอันยาวนานกว่า 30 ปี ต้องลุกขึ้นมาปรับปรุงตนเองให้มีรูปลักษณ์สวยงาม และดูกระฉับกระเฉง รองรับกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ แต่ผสมผสานกันอย่างลงตัวกับบรรยากาศของความเป็นไทย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของโรงแรมมาโดยตลอด

2 ห้องพักในรูปแบบใหม่ "ดุสิตคลับ รูม" และ "ดุสิตแกรนด์ รูม" จึงถูกปรับปรุง ใหม่ให้มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางขึ้น พร้อม ด้วยอุปกรณ์ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย สำหรับใช้ในงานธุรกิจ เพื่อให้ผู้เข้าพักสามารถทำงานไปด้วยอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ที่มีจุดเชื่อมต่อบริเวณโต๊ะทำงานและข้างเตียง โต๊ะทำงานขนาดใหญ่ที่สามารถวางคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงาน ตู้นิรภัยที่สามารถเก็บโน้ตบุ๊ก โทรทัศน์สีจอ LCD ในห้องนอน

ลูกค้ายังสามารถใช้บริการห้องประชุมที่ดุสิตคลับเลาจน์ และบิซิเนส เซ็นเตอร์ได้ฟรี 1 ชั่วโมง พร้อมบริการเลขานุการส่วนตัวตลอดการเข้าพัก

ทางโรงแรมยังปรับปรุงห้องอาหารเทียร่า ชั้น 22 ให้เป็นห้องอาหารฝรั่งเศส "เด ซองส์" ปรับปรุง ลอบบี้เลาจน์ของโรงแรม และ "My Bar" รวมทั้งกำลังปรับปรุง "แชมเปญบาร์" ให้มีความ ทันสมัยมากขึ้น

ธุรกิจโรงแรมอยู่ในภาวะการแข่งขันที่รุนแรง โรงแรมใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างมากมาย ในขณะที่แบรนด์ดังจากต่างประเทศก็กำลัง เข้ามา การเข้าไปอยู่ในใจของลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญที่สุด โรงแรม เครือดุสิตธานีจึงพยายามสร้างความแตกต่าง ด้วยการประกาศเปิดตัวโรงแรมในเครือด้วยแบรนด์ใหม่ "โรงแรม D2" (D2 hotel) โดยใช้คอนเซ็ปต์ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่เป็นจุดขาย

ดังนั้นการออกแบบและตกแต่งโรงแรมเป็นสไตล์โมเดิร์น ที่ยังมีความเป็นไทยร่วมสมัย โรงแรม D2 แห่งแรกนั้นตั้งอยู่บนถนนช้างคลาน บริเวณไนท์บาร์ซ่า พร้อมเปิดบริการในเร็วๆ นี้ มีห้องพักทั้งหมด 130 ห้อง เป็นห้องดีลักซ์ 102 ห้อง และห้องสวีต 27 ห้อง ห้องเพนต์เฮาส์สวีตอีก 1 ห้อง และยังมีแผนเปิดโรงแรม ในเครือ D2 ในกรุงเทพฯ อีกแห่งในปีหน้าด้วย

ปัจจุบันดุสิตธานีมีโรงแรมและรีสอร์ตในเครือ ทั้งในและต่างประเทศ เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ดูไบ และพม่า รวมทั้งสิ้นกว่า 20 แห่ง