มหาวิทยาลัยธุรกิจที่มีชื่อเสียงด้อยกว่าเร่งยกระดับตัวเอง

มหาวิทยาลัยธุรกิจที่มีชื่อเสียงด้อยกว่าในยุโรปอย่าง IESE และ ESADE ของสเปน HEC Paris ของฝรั่งเศส และ Cambridge University's Judge Institute of Management กำลังแข่งกันดึงดูดนักศึกษาจากทั่วโลก และเร่งเสริมทีมคณาจารย์ที่มีคุณภาพ รวมทั้ง ร่วมมือกับสถาบันธุรกิจในประเทศอื่นๆ ซึ่งแม้แต่มหาวิทยาลัยธุรกิจชั้นนำของยุโรปอย่าง London Business School ยังยอมรับว่า มหาวิทยาลัยเบอร์สองเหล่านี้ กำลังจะกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว

การเปิดพรมแดนภายในหมู่สมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ทำให้มหาวิทยาลัยธุรกิจเบอร์สองของยุโรปเริ่มคิดที่จะผงาดขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยธุรกิจของโลก แทนที่จะดักดานอยู่แต่ในบ้านของตนแต่เพียงอย่างเดียว ทำให้จำนวนนักศึกษาจากประเทศอื่นๆ ที่เข้ามาเรียน MBA ในมหาวิทยาลัยเหล่านี้พุ่งขึ้นอย่างก้าวกระโดดมาตั้งแต่ปี 1990 และยังได้รับปัจจัยเสริมจากการที่นักศึกษาต่างชาติกำลังเจออุปสรรคมากมายในการเข้าไปเรียน MBA ในสหรัฐฯ หลังจากเหตุการณ์ 9-11 แม้ แต่นักศึกษาอเมริกันเองที่มองหาหลักสูตร MBA ที่มีความเป็นนานาชาติมากกว่า ก็ยังหันมาพิจารณามหาวิทยาลัยธุรกิจเบอร์สองของยุโรป และเห็นว่าการเรียน MBA ที่นี่จะเป็นการสร้างความแตกต่างให้แก่ตัวเองได้ นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยเบอร์สองยังเริ่มให้ทุนการศึกษา ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งใหม่สำหรับวัฒนธรรมการศึกษาในระดับสูงกว่าปริญญาตรีของยุโรป เพื่อช่วยดึงดูดนักศึกษาต่างชาติอีกแรงหนึ่ง

มหาวิทยาลัยเล็กๆ เหล่านี้ยังยืมวิธีดึงดูดอาจารย์เก่งๆ ของ มหาวิทยาลัยชั้นนำในยุโรปอย่าง LBS, INSEAD ของฝรั่งเศส และ IMD ของสวิตเซอร์แลนด์มาใช้คือการเพิ่มเงินทุนสนับสนุนการวิจัย ทำให้จำนวนอาจารย์จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นไปเป็น 40% จากเพียง 5% ในปี 1990

ด้านบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่อย่างฟอร์ด, นิสสัน ก็เริ่มเลือกที่จะส่งผู้บริหารมาเรียน MBA สำหรับผู้บริหาร (EMBA) ที่มหาวิทยาลัยเบอร์สองมากขึ้น เนื่องจากเห็นว่าเป็นโปรแกรมที่ครอบคลุมแบบ one-stop shop เนื่องจากมหาวิทยาลัยเหล่านี้ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ ทั่วทั้งยุโรป เอเชีย และละตินอเมริกา รวมทั้งสหรัฐฯ แล้วสร้างโปรแกรม EMBA ที่มีเนื้อหาที่ครอบคลุม การเกิดเรื่องอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องกับคุณธรรมของผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่หลายครั้งหลายคราวในช่วงก่อนหน้านี้ รวมทั้งการตกต่ำของ dot-com ซึ่งมักมีผู้บริหารดีกรี MBA จากสถาบันธุรกิจชั้นนำเข้า ไปเกี่ยวข้อง ยิ่งทำให้บริษัทหันมานิยม EMBA ของมหาวิทยาลัย เบอร์สองมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ความพยายามจะยกระดับตัวเองของมหาวิทยาลัยเกรดสอง ยังคงไม่พ้นอุปสรรคมากมาย ศิษย์เก่าที่ไม่คุ้นเคยกับวัฒนธรรมการให้ทุนการศึกษาและเงินบริจาคเพียงน้อยนิด ได้ขัดขวางการริเริ่มใหม่ๆ ทางด้านวิชาการของมหาวิทยาลัย และแม้ว่ารูปแบบการรับนักศึกษาแบบโบราณ และขั้นตอนที่ยุ่งยากจะถูกกำจัดไปแล้ว แต่ปัญหาในการรับนักศึกษาก็ยังคงอยู่ และยังมีปัญหาในเชิงวัฒนธรรม ซึ่งวัฒนธรรมยุโรปยังไม่ค่อยจะยกย่อง MBA มากเท่าในสหรัฐฯ และการศึกษาต่อด้านธุรกิจในระดับสูงกว่าปริญญาตรีก็เป็นนวัตกรรมของสหรัฐฯ ซึ่งยุโรปยังไม่คุ้นเคยเท่าใดนัก และคงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งที่ความนิยมใน MBA จะเพิ่มมากกว่านี้ในยุโรป