มหาวิทยาลัยธุรกิจนอกสหรัฐฯ คัดนักศึกษาเข้มงวดมากขึ้นกล้าแข็งทางวิชาการมากขึ้น และเป็นที่ชื่นชมในด้านคุณธรรม

ปีนี้ Queen's University ในแคนาดาครองอันดับหนึ่งในการจัดอันดับโปรแกรม MBA นอกสหรัฐฯ ที่ดีที่สุดในโลกของ BusinessWeek โดยสามารถเบียด INSEAD จากฝรั่งเศสตกจากบัลลังก์อันดับหนึ่ง ที่เคยครองมาตลอดนับตั้งแต่นิตยสารฉบับนี้เริ่มจัดอันดับมหาวิทยาลัยธุรกิจนอกสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2000 เป็น ต้นมา

INSEAD ต้องตกไปอยู่อันดับที่ 3 เนื่องจากบริษัทยักษ์ใหญ่ โดยเฉพาะในภาคการเงิน ที่เคยรับบัณฑิต MBA ของ INSEAD เข้าทำงาน มีความพึงพอใจน้อยลง เช่นเดียวกับนักศึกษา และอีกสาเหตุที่สำคัญคือ ถูกคู่แข่งไล่ตามทัน

นั่นคือ International Institute for Management Development (IMD) จากโลซานน์, สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งผงาดขึ้นมาเป็นอันดับ 2 IMD รับนักศึกษาเพียง 1 คนจากผู้สมัครทุกๆ 8 คนและมีนักศึกษาหลากหลายถึง 35 ประเทศ หลักสูตร เข้มข้นมาก โดยนักศึกษาต้องเรียนวันละ 18 ชั่วโมง แต่นักศึกษา ก็ยังชื่นชม IMD ทั้งในเรื่องการมีสปิริตของทีมเวิร์ก คุณธรรมและบริการแนะนำงานให้แก่บัณฑิต ซึ่งสามารถหางานเงินเดือนงามกว่าบัณฑิตที่จบจากสถาบันอื่นๆ ส่วนบริษัทชอบบัณฑิต IMD ที่มีวุฒิภาวะสูง และมีการตัดสินใจทางธุรกิจที่ดี

จากการสำรวจของ BusinessWeek พบว่า มหาวิทยาลัยธุรกิจนอกสหรัฐฯ ต่างปรับปรุงหลักสูตรและคุณภาพของคณาจารย์ รวมทั้งเพิ่มความหลากหลายของนักศึกษา ทำให้มหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงมากขึ้นในระดับโลก อย่างเช่นที่ Queen ทำ MBA ที่เจาะกลุ่มนักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อเปลี่ยนให้พวกเขากลายเป็นผู้จัดการทั่วไป ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูง นับเป็น การเจาะตลาด niche ที่ได้ผล บริษัทที่รับบัณฑิตจาก Queen เข้าทำงานชื่นชมในการคิดเชิงวิเคราะห์และคุณธรรมของบัณฑิต

บริษัท 75% พอใจบัณฑิต MBA จาก มหาวิทยาลัยนอกสหรัฐฯ ว่ามีคุณภาพเท่าเทียม หรือบางครั้งดีกว่าบัณฑิต MBA จากสหรัฐฯ เสียอีก โดยเฉพาะในด้านการคิดเชิงวิเคราะห์และคุณธรรม

อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจพบว่า มหาวิทยาลัยนอกสหรัฐฯ ทุกแห่งยังคงถูกนักศึกษาตำหนิ เรื่องบริการแนะนำงานแก่บัณฑิตที่ยังไม่เพียงพอและไม่ได้ผล แม้ว่า 72% ของบัณฑิตจะได้รับการเสนองานภายใน 3 เดือนหลังจบการศึกษาก็ตาม

มีเพียง ESADE จากบาร์เซโลนาเท่านั้น ที่ได้ปรับปรุงคุณภาพของบริการแนะนำอาชีพของตน ซึ่งทำให้สถาบันแห่งนี้ เข้าอันดับเป็นครั้งแรกในปีนี้ นอกจากนี้ยังเป็นเพราะบริษัทระบุว่า บัณฑิต MBA ของที่นี่มีความสามารถด้านการวิเคราะห์และทักษะการสื่อสารเป็นอันดับหนึ่ง และยังมีความเป็นผู้นำและผู้ประกอบการสูงที่สุด

ESADE ยังยกระดับการคัดเลือกนักศึกษาอย่างเข้มข้น จากการรับแต่นักศึกษาในประเทศโดยไม่กำหนดคุณสมบัติที่เข้มงวด มาเป็นการรับนักศึกษาที่มีประสบการณ์การทำงาน 5 ปี และพูดได้อย่างน้อย 2 ภาษา และยังจัดทำวารสารเพื่อตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิจัยของนักศึกษา ซึ่งไม่เคยมีมหาวิทยาลัย ธุรกิจใดทำมาก่อน ซึ่งส่งให้ชื่อเสียงของ ESADE ขจรขจายไปทั่วโลก

MBA นอกสหรัฐฯ เคยถูกมองว่าเป็นเพียงหลักสูตรที่คับแคบอยู่แต่ในท้องถิ่น ของตนเอง และไม่มีความเป็นสากลเท่าสหรัฐฯ แต่ขณะนี้ทุกสิ่งทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว และนักศึกษาทั่วโลกต่างเห็นว่า MBA นอกสหรัฐฯ เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากขึ้น ยิ่งเมื่อนักศึกษาต่างชาติพบความยาก ลำบากมากขึ้นในการขอวีซ่าในสหรัฐฯ และมีโอกาสน้อยลงอีกในการที่จะทำงานอยู่ในสหรัฐฯ ก็เป็นโอกาสอันดีที่ MBA นอกสหรัฐฯ จะผงาดขึ้นมาเป็นคู่แข่งที่สำคัญ