ถัดมาวันรุ่งขึ้น ทีเอ ออเร้นจ์จัดงานเปิดตัวเป็นการภายในให้กับพนักงานอย่างเป็นทางการ
คราวนี้เลือกเอาศูนย์ประชุมไบเทค รองรับกับพนักงานเกือบ 2,000 คน แถมพ่วงด้วยคนสนิทได้อีก
1 คน
งานนี้ "ไม่มีบัตรไม่มีสิทธิ" นอกจากแถบพลาสติกรัดข้อมือของพนักงานแล้วบัตรเชิญ
1 ใบ ที่แจกไปให้บุคคลภายนอก อย่างตัวแทนจำหน่ายบางรายก็เข้าได้ไม่เกิน 2
คนเท่านั้น
พนักงานทยอยเริ่มเดินทางมาในงาน ทันทีที่แสงอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าแสงเลเซอร์ยิงสาดขึ้นท้องฟ้า
เพื่อบอกถึงวาระแห่งการเฉลิมฉลอง จนกระทั่งเวลา 19.30 น. ประตูงานเริ่มเปิดขึ้น....
หลังผ่านการตรวจตราจากเจ้าหน้าที่ ค็อกเทลขนาดย่อมบรรจุในถ้วยพลาสติก คือ
ออเดิร์ฟถ้วยแรกก็ถูกเสิร์ฟ ก่อนเข้าไปสัมผัสกับบรรยากาศแบบเต็มๆ ภายในงาน
แม้จะเป็นงานเลี้ยงขอบคุณพนักงาน ที่ให้ดื่ม กิน เต้น กันอย่างเต็มที่
แต่ทีเอ ออเร้นจ์ไม่ได้มุ่งแต่เพียงความบันเทิงเท่านั้น แต่เป็นการสร้างความร่วมแรงร่วมใจการสร้างความเชื่อมั่นในตัวแบรนด์ออเร้นจ์
โดยมีทีมงานของ The bank จากอังกฤษ ส่งตรงมาสำหรับสร้างสรรค์บรรยากาศเหล่านี้โดยเฉพาะ
อุปกรณ์ภายในงาน ไม่เพียงแต่ไฟสปอตไลต์ พรมชั้นดี จอกระจกใสที่สามารถเปลี่ยนสภาพเป็นฉากสำหรับฉายสไลด์
และที่ขาดไม่ได้คือโทนสีของอุปกรณ์ ขาว ดำ ส้ม
อาหาร เครื่องดื่มจำนวนมาก ถูกจัดเตรียมไว้เต็มที่ ที่มีตั้งแต่อาหารไทย
จีน ฝรั่ง เวียดนาม เม็กซิกัน ญี่ปุ่น ไม่ได้เตรียมไว้เพียงแค่รสชาติของอาหารเท่านั้น
แต่บะหมี่ญี่ปุ่น ข้าวผัด กลับถูกบรรจุอยู่ในกล่องที่ติดอักษรคำว่า eat,
drink, enjoy แม้กระทั่ง ถังขยะ ยังต้องปะคำว่า Drop in
หลายคนอาจจะมองว่า ทีเอ ออเร้นจ์ ต้องใช้จ่ายเงินไปจำนวนไม่ต่ำกว่า 20
ล้านบาท สำหรับการเลี้ยงขอบคุณพนักงาน แต่สำหรับทีเอ ออเร้นจ์แล้วมันมีความหมายของการแสวงหาพลัง
ความร่วมแรงร่วมใจของพนักงาน สำหรับการเริ่มต้นที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
หลังจากดื่ม กิน 1 ชั่วโมงเต็มๆ ผู้บริหารของทีเอ ออเร้นจ์ ทยอยลุกขึ้นกล่าว
เริ่มจาก ริชาร์ด โมท, ศุภชัย เจียรวนนท์ และธนินท์ เจียรวนนท์ เนื้อหาล้วนแต่เป็นเรื่องของการปลุกเร้าพนักงานให้ร่วมแรงร่วมใจสำหรับก้าวต่อไปของทีเอ
ออเร้นจ์
"เราไม่ได้ใหญ่ที่สุด แต่เราจะเล็กอย่างมีคุณภาพ เราจะเป็นจิ๋วแต่แจ๋ว"
คำกล่าวสุดท้ายของธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์
ปิดฉากในรอบของผู้บริหารด้วยเสียงเพลงริชาร์ด โมท เลือกเอาเพลง Run และ
high จากอัลบั้มของ Light house family จากนั้นก็ถึงเวลาของความบันเทิง จิรพรรณ
อังศวานนท์ และสุรสีห์ อิทธิกุล ก็เริ่มบรรเลงพร้อมกับศิลปะเคลื่อนที่ ที่นำเข้ามาพร้อมกับเครื่องดื่ม
เบียร์ ไวน์ ที่เตรียมไว้ไม่อั้น จบลงเมื่อเวลาตีสอง พร้อมกับหมอนปะยี่ห้อออเร้นจ์หิ้วกลับไปคนละใบ