Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน28 ตุลาคม 2547
RATCHกำไรพุ่ง1.9พันล้านบาทราคาหุ้นดิ่งสวนผลประกอบการ             
 


   
search resources

ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง, บมจ.
Energy




ข่าวร้ายรุมเร้าตลาดหุ้น ฉุดหุ้น RATCH ร่วง 0.25 บาท สวนทางผลประกอบการที่โชว์ผลกำไรกว่า 1.9 พันล้านบาท ในไตรมาส 3 หรือเพิ่มขึ้นกว่า 19.65% เนื่องจากค่าซ่อมบำรุงลดลง และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัท ไตร เอนเนอจี้ ขณะที่ดอกเบี้ยจ่ายลดลงกว่า 36 ล้านบาท

แม้ผลประกอบการของ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (RATCH) จะออกมาสวยในไตรมาส 3 แต่มรสุมที่ยังคงรุมเร้าตลาดหุ้น โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นแรงกดดันให้ดัชนีตลาดหุ้นทรุดลงกว่า 21.53 จุด หรือลดลงกว่า 3.32% โดยเมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา ดัชนีปิดที่ 626.85 จุด ส่งผลให้ราคาหุ้น RATCH ร่วงตามดัชนีตลาดหุ้น โดยเปิดตลาดอยู่ที่ 36.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท จากนั้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะที่ 37 บาท ขานรับกับผลประกอบการที่ออกมาดีตามที่คาดหมายก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงต่อเนื่องตามดัชนีตลาดหุ้น และราคาต่ำสุดที่ 36 บาท ก่อนที่จะกระเตื้องในช่วงท้ายตลาดปิดที่ 36.25 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือลดลง 0.68% มูลค่าการซื้อขาย 114.17 ล้านบาท

นายบุญชู ดิเรกสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (RATCH) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัท และบริษัทย่อยตามในไตรมาส 3 ของปี 2547 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน มีกำไรสุทธิ 1,897.52 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.31 บาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิ 1,585.83 ล้านบาท กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 311.69 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19.65%

สำหรับสาเหตุที่ทำให้กำไรสุทธิในไตรมาส 3 ของปี 2547 เพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทได้รับรู้ส่วนแบ่งกำไรในกิจการร่วมค้า จำนวน 66.25 ล้านบาท ประกอบด้วย รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัท ไตร เอนเนอจี้ จำกัด จำนวน 84.55 ล้านบาท, รับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัท ราชบุรีเพาเวอร์ จำกัด จำนวน 18.30 ล้านบาท เนื่องจากอยู่ในระหว่างดำเนินการโครงการ

ส่วนรายได้ค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าราชบุรี (Availability Payment : AP) ไตรมาสที่ 3 ปี 2547 จำนวน 3,113 ล้านบาท ต่ำกว่าไตรมาสที่ 3 ปี 2546 ที่มีรายได้ค่า AP จำนวน 3,282.12 ล้านบาท เป็นจำนวน 169.12 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5.15% สาเหตุหลักเนื่องจากอัตราค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนในไตรมาสที่ 3 ปี 2547 ต่ำกว่าไตรมาสที่ 3 ปี 2546 ซึ่งเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า

ในส่วนค่าซ่อมแซมบำรุงรักษาเครื่องจักร ไตรมาสที่ 3 ปี 2547 ต่ำกว่างวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 346.80 สาเหตุหลักเนื่องจากในไตรมาสที่ 3 ปี 2546 มีค่าใช้จ่ายในการซ่อมอุปกรณ์ของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม ชุดที่ 1-3 เป็นเงินจำนวน 363.38 ล้านบาท แต่ในไตรมาสที่ 3 ปี 2547 ไม่มีการหยุดซ่อมโรงไฟฟ้า

สำหรับดอกเบี้ยจ่ายในไตรมาสที่ 3 ปี 2547 อยู่ที่ 305.20 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของ ปีก่อนอยู่ที่ 341.59 ล้านบาท ลดลงเป็นจำนวน 36.39 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10.65% โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะยาวตามสัญญาเงินกู้ฉบับแก้ไข ครั้งที่ 2 เท่ากับ MLR-2.5% ซึ่งในไตรมาสที่ 3 ปี 2547 อัตราดอกเบี้ย MLR เฉลี่ยเท่ากับ 5.75% ต่ำกว่าไตรมาสที่ 3 ปี 2546 ซึ่งเท่ากับ 5.90% นอกจากนี้ ได้มีการชำระคืนเงินต้นทุกสิ้นไตรมาส

ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้า ของ RATCH ในไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 10,544.12 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่ 10,206.23 ล้านบาท จากการจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลง อีกทั้งไม่มีค่าใช้จ่ายด้านซ่อมบำรุงเหมือนในไตรมาส 3 ของปีก่อน จึงทำให้บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 20.95% เทียบกับปีก่อนที่ 19.36% จึงมีกำไรขั้นต้น 2,209.11 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ 118.69 ล้านบาท ดอกเบี้ยจ่ายลดลงต่อเนื่องมา ที่ 305.20 ล้านบาท เพราะมีการคืนหนี้ตามกำหนด จึงมีกำไรสุทธิ 1,897.52 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.31 บาท

ในปี 2547 นี้ ฝ่ายวิจัยได้ประมาณการรายได้ ที่ 38,445.31 ล้านบาท กำไรขั้นต้นประมาณไว้ที่ 21.05% จากการเจรจาปรับลดอัตราดอกเบี้ยกับ เจ้าหนี้ ดอกเบี้ยจ่ายทั้งปีจึงลดมาอยู่ที่ 1,202.45 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทมีกำไรทั้งปีที่ 6,875.02 ล้านบาท กำไรต่อหุ้นที่ 4.74 บาท ราคาเหมาะสม ที่ระดับ P/E 10 เท่า จะอยู่ที่ 47.40 บาทต่อหุ้น โดยบริษัทยังคงแนะนำให้ซื้อ

ขณะที่ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก กล่าวว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 บอง RATCH เป็นไปตามคาด และคงประมาณการกำไรทั้งปี 2547 ที่คาดว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิ 6,866 ล้านบาท ซึ่ง 9 เดือนแรก บริษัทมีกำไรสุทธิ 4,959 ล้านบาท คิดเป็น 72% ของประมาณการของเรา

RATCH เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีกำลังการผลิต 3,907.5 เมกะวัตต์ ที่สำคัญมีรายได้แน่นอนจากสัญญาซื้อขาย ไฟฟ้าเป็นเวลา 20 ปีกับ กฟผ. และมีแผนขยายกำลังผลิตไฟฟ้าต่อเนื่อง ล่าสุดได้เข้าซื้อหุ้น 37.5% ของโรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้ ส่งผลให้บริษัทมีกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น (ตามสัดส่วนการถือหุ้น) 262.5 เมกะวัตต์ ซึ่งทำให้บริษัทรับรู้รายได้เป็นส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้ปีละประมาณ 300 ล้านบาท

นอกจากนี้ปี 47 กำไรจะขยายตัวในอัตราที่สูงกว่าปี 46 เพราะกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งหรือความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าปี 47 จะสูงกว่า บวกกับการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากไตรเอนเนอจี้ สำหรับโครงการในอนาคตที่สำคัญ RATCH เข้าร่วมทุน 25% ในโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าหินกูดของ Union Power ที่ย้ายมาสร้างในพื้นที่ของโรงไฟฟ้าราชบุรี โดยมีกำลังผลิต 1,400 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ประมาณไตรมาส 2 ปี 2551 แนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐาน 45 บาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us