Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน27 ตุลาคม 2547
วิโรจน์ฟ้องแล้วอุ๋ย-ธปท.             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย
โฮมเพจ ธนาคารกรุงไทย

   
search resources

ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารแห่งประเทศไทย
วิโรจน์ นวลแข
ปรีดิยาธร เทวกุล, ม.ร.ว.




"วิโรจน์ นวลแข" ส่งตัวแทนยื่นฟ้องธปท.และผู้ว่าฯ ธปท.แล้ว เรียกค่าเสียหาย 201 ล้านบาท เป็นค่าเสียโอกาสจากการประกอบอาชีพและนั่งเอ็มดีกรุงไทยต่ออีกวาระ พร้อมทั้งขอให้ศาลปกครองประกาศเจ้าปัญหาของแบงก์ชาติกรณีการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงของแบงก์พาณิชย์ ระบุเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ชัดเจน คาดศาลใช้เวลา 1 สัปดาห์พิจารณาจะประทับรับฟ้องหรือไม่

วานนี้ (26 ต.ค.) นายวัชราสน์ มาศกสิน และทีมทนายความซึ่งได้รับมอบอำนาจจากนายวิโรจน์ นวลแข อดีตกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทยได้ยื่นฟ้องธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1 และ ม.ร.ว.ปรีดียาธร เทวกุล ผู้ว่าฯธปท. เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 2 ต่อศาลปกครองในความผิดเป็นเจ้าพนักงานกระทำผิดฐานละเมิดออกคำสั่งโดยมิชอบสั่งปลด และขอให้สั่งให้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ขอให้ผู้ถูกฟ้องทั้ง 2 ได้ร่วมกันชำระค่าเสียหายจำนวน 51,223,314 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จนกว่าจะชำระเสร็จฟ้องคดี

ทั้งนี้ ค่าเสียหายดังกล่าวเป็นค่าเสียหายตามข้อตกลงในค่าตอบแทนการดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทยของนายวิโรจน์ที่ได้ทำไว้กับธนาคารกรุงไทย และผู้ฟ้องคดียังขอให้ผู้ถูกฟ้องทั้ง 2 ร่วมกันชำระค่าเสียหายเกี่ยวกับความเสียหายชื่อเสียงของผู้ฟ้องคดี อีกจำนวน 150 ล้านบาท ซึ่งศาลปกครองได้รับคำฟ้องของนายวิโรจน์ ไว้เพื่อพิจารณาว่าจะประทับรับฟ้องเพื่อมีคำพิพากษาหรือไม่ โดยคาดว่าจะมีคำสั่งออกมาภายในสัปดาห์นี้

พร้อมกันนี้ นายวิโรจน์ ได้ขอให้ศาลปกครองเพิกถอนประกาศ ธปท.ลงวันที่ 27 กรกฎาคม 2547 เรื่องการแต่งตั้งกรรมการที่เป็นผู้บริหารและผู้บริหารระดับสูงของธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขอให้ศาลฯ เพิกถอนประกาศธปท. ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2547 เรื่องการแต่งตั้งกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทย

อย่างไรก็ตาม ทนายความของนายวิโรจน์ยังได้ยื่นเอกสารอีกจำนวน 13 รายการ เช่นเอกสารเกี่ยวกับการสรรหาผู้บริหารของธนาคารกรุงไทย และเอกสารอื่นให้ศาลปกครองเพื่อใช้ประกอบคำฟ้องด้วย

คดีดังกล่าวนี้มีที่มาจากกรณีที่นายวิโรจน์ นวลแข หมดวาระจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2547 ซึ่งธนาคารกรุงไทยได้เปิดรับสมัครบุคคลทั่วไปเข้ารับตำแหน่งต่อจากนายวิโรจน์ผ่านกระบวนการสรรหาโดยมี นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานกรรมการสรรหา โดยนายวิโรจน์ ได้ลงสมัครอีกครั้งและได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหาให้เป็นกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทยอีกวาระ โดยมีผลวันที่ 1 ตุลาคม 2547

ทว่า ต่อเมื่อคณะกรรมการกรุงไทยได้ยื่นเสนอธปท.ให้ความเห็นชอบตามประกาศเพิ่มเติมของธปท.เรื่องการแต่งตั้งกรรมการที่เป็นผู้บริหาร และผู้บริหารระดับสูงของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งปรากฏว่า ธปท.ไม่เห็นชอบ โดยม.ร.ว.ปรีดิยาธร ระบุในหนังสือที่แจ้งต่อคณะกรรมการธนาคารกรุงไทยว่า นายวิโรจน์ไม่สามารถกลับเข้าดำรงตำแหน่งได้อีกวาระว่าเป็นเพราะ "...มีการบริหารงานที่แสดงถึงความละเลยการทำหน้าที่ตามสมควร ในการกลั่นกรองหรือตรวจสอบดูแลมิให้บุคคลที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาฝ่าฝืน หรือปฏิบัติไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือขาดจรรยาบรรณ หรือขาดความรอบคอบที่พึงมีในการปฏิบัติหน้าที่ อันอาจก่อให้เกิดความไม่เชื่อมั่นในธุรกิจสถาบัน การเงินโดยรวม หรืออาจก่อให้เกิดความเสียหาย ต่อชื่อเสียง ฐานะ หรือการดำเนินธุรกิจสถาบันการเงินอย่างมีนัยสำคัญ หรือต่อลูกค้าของธุรกิจ สถาบันการเงิน..." โดยเป็นข้อห้ามตามประกาศข้อที่ 4.2 (8) ของ ธปท.

ผลจากประกาศของธปท.ดังกล่าว นอกจากทำให้นายวิโรจน์หมดโอกาสเข้าทำงานในตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทยอีกวาระแล้วยังทำให้เขาหมดโอกาสที่จะเป็นผู้บริหารสถาบันการเงินอื่นอีก

นายวิโรจน์ นวลแข เข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทยเมื่อ 3 ปีที่แล้ว โดยผ่านกระบวนการสรรหาที่เป็นช่วงเวลาที่ธนาคารกรุงไทยซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ของรัฐขาดผู้นำ ที่จะทำให้ธนาคารกรุงไทยเป็นกลไก หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ หลังจากที่เศรษฐกิจเผชิญวิกฤตที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนหน้า

ผลงานของนายวิโรจน์ ได้รับการยอมรับจากวงการธนาคารพาณิชย์ โดยเขาได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงองค์กรครั้งใหญ่ตลอดช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา จนทำให้ธนาคารกรุงไทยมีผลกำไร สุทธิในช่วงครึ่งแรกของปีนี้เป็นจำนวน 7,000 ล้านบาท จากที่เคยมีผลขาดทุนสุทธิ 7,000 ล้านบาทในช่วงครึ่งแรกของปี 2544

ขณะนี้ ธนาคารกรุงไทยอยู่ระหว่างการสรรหากรรมการผู้จัดการคนใหม่ โดยคาดว่าจะได้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารนครหลวงไทย ที่ลงสมัครรับเลือก เพราะได้รับการทาบทามจากนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้มาสมัครโดยตรง ซึ่งนายสมคิดให้เหตุผลว่า นายอภิศักดิ์ เป็นตัวเลือกที่ดี มีคุณสมบัติความเหมาะสม และไม่มีเงื่อนไขซึ่งกระทรวงการคลังเชื่อว่า ไม่มีปัญหาเหมือนกับนายวิโรจน์ นวลแข

วานนี้ (26 ต.ค.) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รมว.คลังได้เดินทางไปที่ธปท.เพื่อหารือกับม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธปท.โดยรมว.คลัง กล่าวภายหลังการหารือว่า ได้พูดคุยกับผู้ว่าการธปท.ถึงเรื่องเงินทุนสำรองระหว่างประเทศโดยไม่มีประเด็นการสรรหากรรมการผู้จัดการธนาคาร กรุงไทยแต่อย่างใด

ด้านม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าวว่ายังให้ความเห็น ไม่ได้ ต้องรอเอกสารจากศาลก่อนจึงจะตัดสินใจอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us