Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มีนาคม 2545








 
นิตยสารผู้จัดการ มีนาคม 2545
เยี่ยมบ้านสถาปนิก             
 


   
search resources

Halldor Gunnlogsson




"เป็นเรื่องยากมากที่จะสร้างบ้านให้กับตัวเอง เพราะความรับผิดชอบที่คุณควรจะได้ให้ลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมด้วยนั้น ตอนนี้คุณต้องแบกรับไว้เองทั้งหมด มันเหมือนคุณกำลังทำธุรกิจที่ยากแสนเข็ญเป็นครั้งแรกนั่นเอง"

Halldor Gunnlogsson เคยพูดไว้ในนิตยสาร Arkitekten เมื่อปี 1953 เมื่อครั้งที่เขาบรรยายถึงงานสร้างบ้านส่วนตัวที่เว็ดเบค ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ประสบความสำเร็จในการสร้างบ้านสำหรับครอบครัวเดี่ยว ที่วงการยกย่องด้านความคิดสร้างสรรค์เชิงสถาปัตยกรรมอย่างยิ่ง

หลังจากนั้นไม่กี่ปี Gunnlogsson มีโอกาสเล่นบทบาทของลูกค้าและสถาปนิกในเวลาเดียวกันอีก เมื่อเขาสร้างบ้านของตัวเองอีกหลังหนึ่งที่ Rungsted Kyst ซึ่งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลทางตอนเหนือของกรุงโคเปนเฮเกน

บ้านหลังนี้ตั้งอยู่บนที่ดินแปลงยาวแคบๆ เป็นบ้านสถาปนิกที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของวงการสถาปัตยกรรมทั่วโลก ทั้งสถาปนิก นักศึกษา และตัวแทนนิตยสารจากทั่วทุกมุมโลกพากันหลั่งไหลเข้าเยี่ยมชมกันไม่ขาดสาย

ที่สำคัญคือ ตัวบ้านและสวนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกคุ้มครอง (protected heritage) ไปเรียบร้อยแล้ว

คุณค่าของบ้านสถาปนิกหลังนี้ที่ทำให้ผู้ไปเยือนทุกคนยอมลงทุนดั้นด้นไปเยี่ยมชม เห็นจะเป็นการออกแบบที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างสถาปัตยกรรมญี่ปุ่น อเมริกัน และสแกนดิเนเวียน

สถาปนิกญี่ปุ่นที่มีโอกาสเข้าเยี่ยมชมให้ความสนใจบ้านหลังนี้เป็นพิเศษ ไม่ใช่เพราะ หวงแหนที่ Gunnlogsson เอาแรงบันดาลใจในสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นมาออกแบบ หากแต่ถอนหายใจแล้วพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "น่าเสียดายที่ในญี่ปุ่นไม่มีใครสร้างบ้านอย่างนี้อีกแล้ว"

น่าเสียดายเช่นกันที่ Halldor Gunnlogsson เสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ปี 1985 Lillemor Gunnlogsson ภริยาม่ายของเขาเล่าว่า ปัจจุบันเธอยังพำนักอยู่ที่นี่และเรียกบ้านนี้ว่าเป็น "บ้านของผู้แสวงหาตัวเองโดยแท้จริง"

เมื่อเข้าไปสัมผัสแล้ว ผู้มาเยือนจะไม่แปลกใจเลย เพราะเป็นบ้านที่ไม่มีห้องเด็ก ไม่มี ห้องรับแขก ตัวบ้านออกแบบเหมือนเป็นระเบียงมหึมามีหลังคาคลุม ด้านหน้าเป็นประตูกระจกแบบเลื่อนเปิดออกรับลมทะเลพอดี ไม่ว่าจะอยู่ตรงมุมใดของบ้านก็จะได้เห็นทะเลอยู่แค่เอื้อมเสมอ

ฝั่งตรงข้ามก็เป็นประตูกระจกแบบเลื่อนเปิดออกสู่สวนเล็กๆ มีสนามหญ้าที่ได้รับการตัดแต่งดูแลอย่างดี ทำให้แลดูตัดกับสวนดอกไม้ป่าที่อยู่ด้านหลังโดยสิ้นเชิง

ห้องครัวที่เป็นรูปยาวแคบตามลักษณะของที่ดินที่ปลูกสร้างนั้นเล่า ก็ซ่อนตัวอยู่หลังประตูบานเลื่อนได้อย่างมิดชิด แต่ครัวและห้องน้ำไม่ได้มัวซัวอย่างที่คิด เพราะเจ้าของออกแบบ ให้แสงแดดลอดผ่านเข้ามาในห้องได้อย่างเรียบง่าย กลมกลืน และประณีตสวยงามนั่นเอง

ทั้งหมดนี้คือ เหตุผลที่บ้านหลังนี้และสวนสวยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกคุ้มครอง (protected heritage)

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us