ไทยออยล์ (TOP) เทรดวันนี้ ผู้บริหารไทยออยล์-โบรกเกอร์มั่นใจเหนือจอง คาดนักลงทุนสนใจมาก กระตุ้นบรรยากาศโดยรวมสดใส หนุนหุ้นกลุ่มแบงก์ เจ้าหนี้กลับมาเก็งกำไร โดยเฉพาะ TISCO ดันกำไรต่อหุ้นสูงสุด ปลุกความเชื่อมั่นในหุ้นไอพีโอกลับคืนมา หุ้นกลุ่มหลักทรัพย์พลอยรับอานิสงส์ไปด้วย เหตุหุ้นไทยออยล์ทั้งฮอตทั้งมาร์เกตแคปใหญ่ดันวอลุ่มโบรก-เกอร์คึกคัก
วันนี้(26 ต.ค.) หุ้นบริษัท ไทยออยล์ จำนวน 2,026,527,873 หุ้น พาร์ 10 บาท เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์(ตลท.)เป็นวันแรกในกลุ่มทรัพยากร หมวดพลังงาน และใช้ชื่อย่อในกระดาน "TOP" และเนื่องจากมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกินจำนวน 107.79 ล้านหุ้น บล.ภัทรจะทำหน้าที่ซื้อหุ้นคืนในตลาดหลักทรัพย์ (Stabilization) ระหว่างวันที่ 26 ต.ค.ถึง 21 พ.ย. ราคา 32 บาท หรือไม่สูงกว่าราคาเสนอซื้อสูงสุดในขณะนั้น หรือไม่สูงกว่าราคาซื้อ ขายครั้งสุดท้ายในขณะนั้น แล้วแต่ ราคาใดจะต่ำกว่ากัน ซึ่ง ตลท.จะขึ้นเครื่องหมาย "ST" ไว้
ผู้บริหาร-โบรกฯมั่นใจเหนือจอง
นายปิติ ยิ้มประเสริฐ กรรมการอำนวยการ บริษัทไทยออยล์ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า คาดว่าหุ้น TOP จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน และมั่นใจว่าราคาหุ้นจะสามารถปรับตัวสูงกว่าราคาจอง เนื่องจากในช่วงที่กระจายหุ้นนั้นได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างมาก สาเหตุเพราะบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี เป็นโรงกลั่นน้ำมันที่มีขนาดใหญ่ที่สุด รวมถึงบริษัทมีบริษัทลูกหลายบริษัทซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับแนวโน้มของธุรกิจก็มีอัตราการเติบโตที่สูง ดังนั้นจึงเชื่อว่าภายในปีนี้จะมีรายได้ดีกว่าปีก่อน
เงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวน 32,566 ล้านบาท ได้วางแผนใช้เงินลงทุนในปี 47-49 ประมาณ 2,430 ล้านบาท ถึง 2,880 ล้านบาท ในการเพิ่มกำลัง การผลิตหน่วยการกลั่นน้ำมันดิบที่ 3 จาก 220,000 ตันต่อปี เป็น 270,000 ตันต่อปี รวมถึงการซื้อหุ้นใน บริษัทไทยพาราไซลีนและบริษัทไทยลู้บเบส
นายวรุตม์ ศิวะศิริยานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่า คาดว่าราคา หุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าราคาจอง เนื่องจากนักลง ทุนมีความต้องการหุ้นจำนวนมาก และส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจาก TOP ถือเป็นหุ้นที่มีมาร์เกตแคปขนาดใหญ่ ประมาณ 70,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีนักลงทุนต้องการหุ้น TOP จำนวนมาก แต่ก็มีนักลงทุนที่ถือหุ้นไทยออยล์ ในราคาต้นทุนที่ 10 บาทซึ่งก็อาจจะเทขายทำกำไรออก มาเช่นกัน
ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยประเมินราคาหุ้น TOP ที่เหมาะสมปีนี้อยู่ที่หุ้นละ 45 บาทโดยจะมีค่าพี/อีเรโชที่ 7.3 เท่าจากค่าพี/อี เรโช กลุ่มพลังงานที่อยู่ในระดับ 8-9 เท่าและบริษัทได้ประเมินรายได้ในปีนี้อยู่ที่ 187,000 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ 12,560 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิ 6,633 ล้านบาท
กระตุ้นหุ้นไอพีโอ/SETคึก
แหล่งข่าวจากฝ่ายวาณิชธนกิจ บล. ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า คาดว่า TOP จะสามารถสร้างความ เชื่อมั่นในหุ้นจองให้กลับมาได้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้หุ้นจองหลายบริษัทที่เข้ามาซื้อขายแล้วราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่าราคาจองตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาซื้อขาย นอกจากนี้ยังจะมีหุ้น อสมทที่จะเข้ามาซื้อขายเป็นหุ้นตัวต่อไป
"ที่ผ่านมาหุ้นจองหลายบริษัทราคาลงมาต่ำกว่า จองติดต่อกันหลายบริษัท ซึ่งถ้าหุ้นจองราคายังปรับ ตัวต่ำกว่าจองอีกนักลงทุนจะขาดความเชื่อมั่นที่จะลงทุนต่อไป เชื่อว่าหุ้นไทยออยล์จะสามารถเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้กลับมาได้"
นางสาววิริยา ลาภพรหมรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน จำกัด เปิดเผยว่า คาดว่าหุ้น TOP จะช่วยทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวสูงขึ้น เพราะเป็นหุ้นที่มีมาร์เกตแคปใหญ่ โดยราคา หุ้นปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 48 บาท
แบงก์-บล.ร่วมดันดัชนี
นายวีระชัย ครองสามสี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ฟาร์อีสท์ จำกัด กล่าวว่า หุ้นที่มีความเกี่ยวเนื่องน่าจะได้รับความสนใจด้วยอาทิ PTT ที่ถือเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ รวมทั้งสถาบันการเงินเจ้า หนี้ที่มีการแปลงหนี้เป็นทุน และนำหุ้นออกมาขายไอพีโอคาดว่าจะมีแรงเก็งกำไรเข้ามาอีกครั้ง
ในสัปดาห์นี้กลุ่มธนาคาร ซึ่งคาดว่าจะมีแรงซื้อ เข้ามาต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน หลังจากที่ BBL ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีในอัตราหุ้นละ 0.75 บาท ซึ่งถือเป็นแบงก์ใหญ่แห่งแรกที่จ่ายเงินปันผลเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี ส่งผลให้เกิดการคาดการณ์ว่าแบงก์ อื่นอาจจะมีการประกาศจ่ายเงินปันผลเช่นกันทั้งในส่วนของ SCB และ KBANK ที่ผลการดำเนินงานออกมาดีขึ้นกว่าปีก่อน
"สัปดาห์นี้คิดว่าตลาดน่าจะปรับขึ้นได้ต่อ ซึ่งหากดัชนีสามารถยืนเหนือ 660 จุดได้ ก็จะมีแนวต้านที่ 667-675 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 650-652 จุด" นายวีระชัยกล่าว
บล. เอเพ็กซ์ ระบุว่า สถาบันการเงินที่ถือหุ้น TOP ในสัดส่วนที่สูงคือ TMB, BBL, KBANK, TISCO, SCB, SICCO, BAY, SCIB และ BT โดย TISCO จะมีกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นสูงสุด ประมาณ 0.66 บาท รองลงมา คือ SICCO 0.37 บาท BBL 0.33 บาท KBANK 0.28 บาท
นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยง นักวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.ฟิลลิป กล่าวว่า TOP จะสร้างความคึกคักให้กับ ตลาดหุ้นค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลให้มูลค่าการซื้อขาย ต่อวันน่าจะปรับตัวสูงขึ้นตาม นอกเหนือจากกลุ่มเจ้าหนี้ที่ได้รับผลดีจากการเข้าตลาดของ TOP แล้ว กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ที่มีรายได้หลักจากการเป็นนาย หน้าซื้อขายหลักทรัพย์ก็จะได้รับอานิสงส์นั้นด้วย แต่ทั้งนี้คงต้องดูเป็นรายตัวไป เพราะแม้ว่าหุ้นจะได้รับความสนใจอย่างไร แต่หากปัจจัยลบยังคงปกคลุมความมั่นใจอยู่นักลงทุนก็ยังอาจจะชะลอการลงทุนได้ ยังคงแนะนำให้เก็งกำไร ในส่วนที่คาดว่าจะประกาศผลดำเนินงานไตรมาส3/47 ออกมาค่อนข้างดี
|