แบงก์ชาติเตรียมพิจารณาอนุมัติยกระดับสถาบันการเงินขึ้นเป็นแบงก์ เพิ่มเติม 3 ราย หลังจากที่ส่งเรื่องให้กระทรวงคลังพิจารณาแล้ว 3 ราย ระบุส่วนใหญ่มีคุณสมบัติพร้อม ที่เหลือยังคงขาดเอกสารเล็กน้อยที่แบงก์ชาติขอเพิ่มเติม คาดพิจารณาเสร็จภายใน 30 พ.ย.2547นี้และส่งต่อให้คลังพิจารณาอีก 2 เดือนทันครบกำหนด 31 ม.ค.2548 แน่

นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่าการสายเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการพิจารณาการยกระดับขึ้นเป็นธนาคารพาณิชย์ของสถาบันการเงินภายใต้แผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (มาสเตอร์แพลน) ว่าขณะนี้คณะกรรมการพิจารณาคำขออนุญาตจัดตั้งเป็นธนาคารพาณิชย์ (กพพ.) ตามแผนแม่บทการเงิน (มาสเตอร์แพลน) ได้มีการพิจารณาเพิ่มอีก 3 ราย จากก่อนหน้านี้ ธปท.ได้ส่งเรื่องไปให้กระทรวงการคลังพิจารณาอนุมัติไปแล้ว 3 ราย รวมเป็น 6 ราย

"ในการขอยกระดับมีทั้งขอยกระดับขึ้นเป็นธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ ธนาคารพาณิชย์เพื่อรายย่อย ธนาคารพาณิชย์ที่เป็นบริษัทลูกของธนาคารต่างประเทศ และสาขาธนาคารต่างประเทศ เพื่อดำเนินการตามนโยบายสถาบันการเงิน 1 รูปแบบ หรือ One Presence โดยหลักการแล้วส่วนใหญ่จะผ่านเกณฑ์การพิจารณาของ ธปท. มีเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่ต้องขอเอกสารเพิ่มเติม เพื่อยืนยันส่งข้อมูลไปที่กระทรวงการคลัง และขณะนี้อยู่ในกระบวนการที่จะส่งรายชื่อไปให้คลังเพิ่มเติมอีกหลายราย" รองผู้ว่าการ ธปท.กล่าว

อย่างไรก็ตาม คาดว่า กพพ. จะพิจารณาให้ความเห็นชอบแผนเบื้องต้นในการขอยกระดับเป็นธนาคารพาณิชย์ของสถาบันการเงิน ได้ทันภายในวันที่ 30 พ.ย.2547 นี้ ซึ่งเป็นกรอบเวลาที่กำหนด จากนั้น กพพ.จะส่งเรื่องให้กระทรวงการคลังพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน จนถึงวันสุดท้ายที่กำหนดไว้คือวันที่ 31 ม.ค.2548

นางธาริษา กล่าวต่อถึงโครงการให้ความช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้าน (อีซีเอส) ที่ธนาคาร เพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ปล่อยกู้ให้กับรัฐบาลพม่าลงทุนในโครงการสื่อสารผ่านดาวเทียมบรอดแบนด์เป็นจำนวนเงิน 4,000 ล้านบาท ว่าสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ไม่ได้อยู่ในความดูแลของ ธปท. ซึ่งเป็นเรื่องของกระทรวงการคลังที่ดูแลกำกับ ส่วน ธปท.จะเข้าไปตรวจสอบปีละครั้งเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีผลกระทบต่อ ธสน. หรือไม่