"ซิโน-ไทย รีซอร์เซส ดีเวลลอปเม้นท์" แจงความคืบหน้าแผนฟื้นฟูกิจการ ฟุ้ง 6 เดือนที่ผ่านมาสามารถเพิ่มกำลังการผลิตหินอุตสาหกรรมเพื่อการก่อสร้างและหินเคมีได้จาก 2 หมื่นตันเป็น 4-5 หมื่นตันต่อปี พร้อมตั้งเป้าเพิ่มเป็น 1 แสนตันต่อปี เล็งนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปขายลาว เขมร เพิ่มรายได้ในอนาคต

นายอุ้มยศ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย รีซอร์เซส ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)( STRD) เปิดเผยว่า การแก้ไขปัญหาฐานะการเงินและผลการดำเนินงานและการฟื้นฟูกิจการของบริษัทในช่วงระหว่างวันที่ 1 เมษายน-30 กันยายน 2547 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเหมืองหินอุตสาหกรรมเพื่อการก่อสร้าง บริษัทได้มีการศึกษาพัฒนาผลิตภัณฑ์ของหินอุตสาหกรรม เพื่อให้มีมูลค่าทางการตลาดเพิ่มสูงขึ้น โดยได้ให้บริษัท เอสจีเอส (ประเทศไทย) นำหินอุตสาหกรรม ไปทดสอบคุณสมบัติทางเคมี ซึ่งผลทดสอบได้ผลออกมาว่ามีองค์ประกอบของแคลเซียมคาร์บอร์เนต Ca CO3 มากกว่า 90% คุณสมบัติดังกล่าวสามารถนำไปใช้เป็นวัตถุดิบของการผลิตหินเคมี-ปูนขาว ในเบื้องต้นจากการสำรวจทางกายภาพพบว่ามีปริมาณไม่ต่ำกว่า 10 ล้านตัน

สำหรับด้านการผลิต บริษัทได้มีการปรับปรุงเป้าหมายการผลิตจากเดิมที่เคยผลิตได้ประมาณเดือนละ 2 หมื่นตัน ได้เพิ่มขึ้นเป็น 4-5 หมื่นตันต่อเดือน โดยมีเป้าหมายผลิตสูงสุด 1 แสนตันต่อเดือนในอนาคต โดยปรับปรุงเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และได้เพิ่มสายการผลิตหินอุตสาหกรรมเพื่อการก่อสร้างและหินเคมีเพื่อผลิตวัตถุดิบเป็นหินขนาด 2-4 นิ้ว ซึ่งมีต้นทุนต่อหน่วยต่ำกว่าการผลิตหิน 1 นิ้ว และ 3/4 นิ้ว ป้อนโรงงานผลิตปูนขาว แต่เดิมผลิตเฉพาะหินขนาด 1 นิ้ว, 3/4 นิ้ว, 3/8 นิ้ว และหินฝุ่น นอกจากนี้ ได้พัฒนาเปิดหน้าเหมืองเป็น 2 หน้าเหมือง พร้อมทั้งได้เพิ่มเครื่องจักรในการผลิตหินบริเวณหน้าเหมือง

โดยในเบื้องต้นใช้วิธีการให้ผู้รับเหมาภายนอกที่มาดำเนินการส่วนหนึ่ง และดำเนินการเองโดยการเช่าเครื่องจักรเข้ามาเสริม แต่ต่อไป ในอนาคตเมื่อมีการผลิตสูงขึ้นถึง 100,000 ตัน บริษัทฯมีแผนที่จะดำเนินการซื้อเครื่องจักรเข้ามาทำการผลิตแทนการใช้ผู้รับเหมาและการเช่า ทั้งนี้ เป็นนโยบายโดยรวมที่จะควบคุมค่าใช้จ่ายและลดต้นทุนต่อหน่วยลงทุน

สำหรับด้านการขาย การตลาด และราคา บริษัทได้มีการขยายฐานลูกค้าในท้องถิ่น งานโครงการก่อสร้างของรัฐบาลและได้เพิ่มฐานลูกค้าประจำที่ซื้อจำนวนที่แน่นอนในแต่ละเดือน ได้แก่ โรงงานผลิตปูนขาว โรงงานผลิตคอนกรีตสำเร็จรูป เป็นต้น สำหรับราคาขายนั้น บริษัทได้ปรับราคาขายลูกค้าปลีกเพิ่มขึ้น 10-15% ราคาลูกค้าประจำประมาณ 8-10% ส่วนราคาหินพิเศษ 2-4 นิ้ว มีราคาประมาณ 100 บาท ต่อตัน ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าท้องตลาด

ส่วนแผนการฟื้นฟูกิจการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการค้าน้ำมันสำเร็จรูป บริษัทได้ดำเนินการค้าน้ำมันสำเร็จรูป โดยเป็นผู้ค้าน้ำมัน (Jobbers) ตามมาตรา 10 แห่ง พ.ร.บ. การค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2545 ที่จำหน่ายน้ำมันเบนซินออกเทน 91 เบนซิน ออกเทน 95 และดีเซลหมุนเร็ว โดยขายส่งให้แก่ผู้ค้าน้ำมันอิสระ (Jobbers) ภายในประเทศ โดยผู้ค้าน้ำมันอิสระจะขายน้ำมันสำเร็จรูปให้กับสถานีบริการน้ำมันอีกทอดหนึ่ง ตามมาตรา 10 บริษัทสามารถค้าน้ำมันได้ไม่เกิน 120 ล้านลิตร ต่อปี

ปัจจุบันบริษัทอยู่ในระหว่างดำเนินการขออนุญาตเป็นผู้ค้าน้ำมันต่อกระทรวงพาณิชย์ ตามมาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ.การค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2545 ซึ่งสามารถค้าน้ำมันได้มากกว่า 120 ล้านลิตรต่อปี ทั้งนี้ บริษัทจะเพิ่มธุรกิจจากการค้าขายภายในประเทศโดยมีแผนที่จะติดต่อซื้อขาย น้ำมันสำเร็จรูปจากต่างประเทศผ่านผู้ค้ารายใหญ่ โดยนำเข้ามาเก็บในคลังน้ำมันภายในประเทศ ซึ่งบริษัทจะดำเนินการเช่าคลังน้ำมันและท่าเรือ เพื่อใช้ในธุรกิจค้าน้ำมันสำเร็จรูปที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศ เก็บไว้เพื่อจำหน่ายแก่ลูกค้ารายใหญ่ภายในประเทศต่อไป นอกจากนี้แล้วบริษัทมีแผนที่จะนำน้ำมันสำเร็จรูปขายให้ประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง ได้แก่ ลาว และเขมร ต่อไปด้วย

ส่วนการฟื้นฟูกิจการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับแร่ดีบุกบริษัทอยู่ในระหว่างการศึกษาหาประทานบัตรเหมืองแร่ดีบุกแหล่งใหม่ ซึ่งยังไม่มีรายได้จากการทำธุรกิจแร่ดีบุก