|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ไทยอีเลคโทรนิค อุตสาหกรรม สางปมปัญหาหนี้จบตามแผนฟื้นฟูกิจการที่มีบริษัทพรีเมียร์แพลนเนอร์เป็นผู้บริหารแผน เผยศาลล้มละลายกลางไฟเขียวหลุดแผนฟื้นฟูเมื่อวันที่ 11 ต.ค. ที่ผ่านมา
บริษัท พรีเมียร์แพลนเนอร์ จำกัด ในฐานะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท ไทยอีเลคโทรนิค อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (TEIC) เปิดเผยว่า ผู้บริหารแผนได้ยื่นคำร้องต่อศาลให้มีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2547 และศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้บริษัทพ้นจากการฟื้นฟูกิจการ เนื่องจากบริษัทได้ดำเนินการสำเร็จตามแผนแล้วเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2547 ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมีผลให้อำนาจหน้าที่ในการจัดการกิจการและทรัพย์สินของบริษัทกลับเป็นของผู้บริหารของบริษัท และผู้ถือหุ้นของบริษัทกลับมีสิทธิตามกฎหมาย
ผู้บริหารแผนรายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการดำเนินงาน เพื่อฟื้นฟูกิจการของบริษัท ถึงวันที่ 30 กันยายน 2547 ว่า ได้มีการเพิ่มทุนและแปลงหนี้เป็นทุน และการชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ โดยมีระหว่างวันที่ 1 เมษายน-30 กันยายน 2547 ได้คืนเงินต้นจำนวน 14.27 ล้านบาท ชำระดอกเบี้ย 3.89 ล้านบาท รวม 18.16 ล้านบาท ทำให้มีภาระหนี้คงเหลือจำนวน 179.31 ล้านบาท กำหนดชำระคืนภายใน 10 ปี
สำหรับการปรับปรุงธุรกิจของบริษัทเพื่อให้เกิดความชัดเจน และมีฐานะทางการเงินมั่นคงตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทมีแผนที่จะระดมทุนเพิ่มเป็นจำนวน 109.6 ล้านบาท ดังที่ได้รายงานให้ทราบไปในไตรมาสที่แล้วนั้น บัดนี้ผู้บริหารแผนได้ดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทโดยออกหุ้นใหม่จำนวน 109.6 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และเสนอขายต่อผู้ถือหุ้นปัจจุบันและนักลงทุนอื่นๆ โดยผู้บริหารแผนได้ทำการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว 2 ครั้ง
โดยครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2547 ผู้บริหารแผนได้เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนทั้งหมดจำนวน 109.6 ล้านหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (ตามบัญชีผู้ถือหุ้นของบริษัท ณ วันที่ 19 เมษายน 2547) ในสัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 3 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 1 บาท โดยมีผู้ถือหุ้นเดิม 72 รายจองซื้อหุ้นรวม 80.12 ล้านหุ้น คิดเป็น 73.10% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายทั้งหมด โดยมีหุ้นคงเหลือจากจองซื้อของผู้ถือหุ้นในการเสนอขายคราวนี้ จำนวน 29.48 ล้านหุ้น
ส่วนการเพิ่มทุนครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2547 ผู้บริหาร แผนได้เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนส่วนที่เหลือจากการเสนอขายในครั้งที่ 1 จำนวน 29.48 ล้านหุ้นให้แก่นักลงทุนอื่นที่สนใจในราคาหุ้นละ 1 บาท โดยมีนักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อหุ้นรวม 13.94 ล้านหุ้น คิดเป็น 12.70% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายทั้งหมด โดยมีหุ้นคงเหลือจากจองซื้อของผู้ถือหุ้นในการเสนอขายคราวนี้ จำนวน 15.54 ล้านหุ้น
ในการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนทั้ง 2 ครั้งนี้ ส่งผลให้ทุนชำระแล้วของบริษัทมีจำนวนรวม 1,305.9 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนทั้งหมด 1,466.30 ล้านบาท ทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าสูงขึ้น 94.06 ล้านบาท และส่งผลให้บริษัทมีโครงสร้างทางการเงินและฐานะทางการเงินที่ดีขึ้น
อนึ่ง หุ้นที่เหลือจากจองซื้อของผู้ถือหุ้นในการเสนอขายครั้งที่ 2 จำนวน 15.54 ล้านหุ้นนั้น บริษัทจะรอเวลาที่เหมาะสมเพื่อเสนอขายให้กับบุคคลที่สนใจต่อไป
|
|
|
|
|