Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน19 ตุลาคม 2547
SCBกำไร 1.5 หมื่นล.นำร่องกลุ่มธนาคาร             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารไทยพาณิชย์

   
search resources

ธนาคารไทยพาณิชย์, บมจ.
Banking




กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ทยอยประกาศผลงานงวด 9 เดือน 4 แบงก์แรกกำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน นำโด่งโดยแบงก์ไทยพาณิชย์ กำไรสุทธิกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 67% แต่เป็นกำไรจากการลงทุน 5.7 พันล้าน ด้านผู้บริหารเดินหน้าสานต่อนโยบายสถาบันการเงินครบวงจร เร่งผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาต่อเนื่อง ขณะที่ "ธนชาต-สแตนดาร์ดฯ" กำไรสุทธิ 395 ล้านบาท และ 652 ล้านบาทตามลำดับ ส่วนราคาหุ้นร่วงตามดัชนีตลาดรวม

คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB กล่าวถึงผลการดำเนินงานประจำงวดไตรมาส 3 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2547 ว่า ธนาคารมีกำไรสุทธิ 3,636.92 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 2.37 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 3,232.22 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 2.45 บาท

ขณะที่ผลการดำเนินงานสะสมงวด 9 เดือน กำไรสุทธิ 15,364.20 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อ หุ้น 8.72 บาท เทียบกับปีก่อนกำไรสุทธิ 9,203.62 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 7.33 บาท หรือกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 66.94% โดยมีผลจากกำไรจากเงินลงทุนจำนวนที่ ไม่เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจการเงินจำนวน 5,658 ล้านบาท รวมทั้งผลประกอบการของธนาคารปรับตัวดีขึ้นทั้งในส่วนของรายได้ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม

ตั้งสำรองฯสูง 81% ของเอ็นพีแอล

สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ณ สิ้นไตรมาส 3/2547 มีจำนวนทั้งสิ้น 84,368.37 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 14.67 ของสินเชื่อรวม ซึ่งธนาคาร มีสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสูงถึง 68,465 ล้านบาท หรือคิดเป็น 81.2% ของเอ็นพีแอล โดยธนาคารจะยังคงนโยบายการตั้งสำรองทั่วไปจำนวน 200 ล้านบาทต่อเดือน จนมีจำนวนสำรองส่วนนี้เท่ากับ 2% ของสินเชื่อที่ไม่ใช่เอ็นพีแอล

นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวเพิ่มว่า ธนาคารยังมุ่งดำเนินนโยบายการเป็นสถาบันการเงินที่ครบวงจรที่แท้จริง (Universal Banking Strategy) ซึ่งจะทำให้ธนาคารมีรายได้ทั้งประเภทรายได้ดอกเบี้ยและรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น ล่าสุดธนาคารได้เปิด ตัวบริการบริหารเงินสด (Business Cash Management) และยังมีแผนงานที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ๆ ของธนาคารออกมาอย่างต่อเนื่อง

ส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มเป็น 2.71%

ทั้งนี้ ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยรับจากเงินให้สินเชื่อจำนวน 5,497 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 271 ล้านบาท เนื่องจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของสินเชื่อ และอัตราผลตอบแทนสินเชื่อเฉลี่ย (Yield on loans) ที่สูงขึ้น รวมทั้งมีดอกเบี้ยรับพิเศษจากการปรับโครงสร้างหนี้ประมาณ 90 ล้านบาท ส่วนรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลรับจากเงินลงทุนมีจำนวน 917 ล้านบาท ลดลงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา 71 ล้านบาท เกิดจากการลดลงของเงินลงทุนในตราสารหนี้ และเงินปันผล

ด้านดอกเบี้ยมีจำนวน 1,464 ล้านบาท ลดลง 44 ล้านบาท ดอกเบี้ยจ่ายสำหรับเงินฝากลดลง 32 ล้านบาท เป็นผลส่วนใหญ่จากการขยายธุรกิจบริการ บริหารเงินสดทำให้เงินฝากระยะสั้นมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นโดยลำดับ ทำให้ดอกเบี้ยจ่ายลดลงแม้ธนาคารจะมียอดเงินฝากเพิ่มขึ้นมากในไตรมาสนี้

ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ในไตรมาส 3 ปีนี้มีจำนวน 2,950 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสก่อนที่มี 4,400 ล้านบาท ลดลง 1,450 ล้านบาท หรือคิดเป็น 33.0% ส่วนใหญ่เป็นผลจากกำไรจากการขายหลักทรัพย์ลดลง ส่วนค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยมีจำนวน 3,879 ล้านบาท ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนจำนวน 3,844 ล้านบาท โดยค่าใช้จ่ายพนักงานเพิ่มขึ้น 37 ล้านบาทจากค่าใช้จ่ายการฝึกอบรมพนักงานและจำนวนพนักงานที่เพิ่มขึ้น ค่าภาษีและค่าธรรมเนียมบริการเพิ่มขึ้นรวม 35 ล้านบาทจากธุรกรรมการเงินที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ค่าตอบแทนกรรมการ ลดลง 30 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายอาคาร สถานที่และอุปกรณ์ลดลง 16 ล้านบาท

อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานในไตรมาส 3/2547 เท่ากับร้อยละ 50.7 ลดลงจากร้อยละ 53.6 ในไตรมาส 2/2547 เนื่องจากรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นมากกว่าการเพิ่มขึ้นของ ค่าใช้จ่าย

กองทุนขั้นที่ 1 กว่า 6.3 หมื่นล้าน

ขณะที่เงินกองทุนตามกฎหมาย ณ 30 กันยายน 2547 มีจำนวน 87,183 ล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 15.6 ของสินทรัพย์เสี่ยง เป็นส่วนของเงินกอง ทุนชั้นที่ 1 จำนวน 63,107 ล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 11.3 ซึ่งยังไม่รวมกำไรของไตรมาส 3/2547 จำนวน 3,637 ล้านบาท

ธนชาตกำไรงวด 9 เดือนเพิ่ม 0.83%

ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ NBANK รายงานว่า ธนาคารกำไรสุทธิ 143.88 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.18 บาท เทียบกับปีก่อนกำไรสุทธิ 139.76 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.17 บาท ขณะที่งวด 9 เดือนกำไรสุทธิ 395.13 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.49 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่กำไรสุทธิ 391.87 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.48 บาท หรือกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 0.83%

ด้านคุณภาพสินทรัพย์ ธนาคารเอ็นพีแอล อยู่ที่ 2,049 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2546 จำนวน 120 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.2 โดยที่อัตราส่วนเอ็น พีแอลต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ร้อยละ 6.4 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปีก่อนซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 5.8 ในขณะที่ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญได้ลดลงจาก 1,286 ล้านบาท เป็น 1,219 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญดังกล่าวยังสูงกว่าหลักเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดไว้อีกจำนวน 777 ล้านบาท

ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง อยู่ที่ร้อยละ 27.7 มีเงินกองทุนรวมจำนวน 10,353 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 จำนวน 8,661 ล้านบาท และเงินกองทุนชั้นที่ 2 จำนวน 1,855 ล้านบาท

สำหรับรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผล ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิจำนวน 293 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนจำนวน 75 ล้านบาท หรือร้อยละ 34.2 เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยและเงิน ปันผลจากเงินลงทุนปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยในไตรมาสนี้มีเงินปันผลรับจำนวนหนึ่งจากหน่วยลงทุนกองทุน รวมในประเทศที่ธนาคารถือครองอยู่

สแตนดาร์ดฯกำไรเพิ่ม 82%

ขณะที่ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดนครธน จำกัด (มหาชน) หรือ SCNB กำไรสุทธิ งวด 9 เดือน จำนวน 652.81 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.93 บาท เทียบกับปีก่อนกำไรสุทธิ 357.50 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.51 บาท หรือกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 82.60% ขณะที่หนี้เอ็นพีแอลอยู่ที่ 1,412.51 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 3.37% ของสินเชื่อรวม

SCIB กำไรสุทธิเพิ่มเฉียด 150%

ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน)หรือ SCIB แจ้งว่า ธนาคารมีกำไรสุทธิ 1,390.43 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.6581 บาท เทียบกับปีก่อนกำไรสุทธิ 717.46 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.3396 บาท ขณะที่งวด 9 เดือน กำไรสุทธิ 5,092.18 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 2.4101 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่กำไรสุทธิ 2,060.23 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.9751 บาท หรือกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 147.17%

ด้านความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นพาณิชย์ 2 บริษัทวานนี้ (18 ต.ค.) คือ SCB และ SCIB ได้ปรับตัวลดลงตามดัชนีตลาดหลักทรัพย์ โดย SCB ปิดที่ 42.75 บาท ลดลงจากวันก่อน 0.50 บาท หรือ 1.16% มูลค่าการซื้อขาย 196.72 ล้านบาท ขณะที่ SCIB ปิดที่ 22.40 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ 0.90% มูลค่าการซื้อขาย 19.41 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us