|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ช.การช่างจับมือพันธมิตร "มิตซุย คอร์ปอเรชั่น" ยื่นประมูลแอร์พอร์ตลิงค์ โครงการสนามบินสุวรรณภูมิ "ปลิว" เล็งโดดประมูลโครงการขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์) ของรัฐ คาดสามารถคว้างานประมูลได้ประมาณ 3-6 หมื่นล้านบาท จากมูลค่าโครงการกว่า 7 แสนล้านบาท ส่วนแนวปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 8 พันล้านบาท เหตุต้นทุนวัสดุก่อสร้างพุ่ง ขณะที่แนวโน้มปีหน้าตั้งเป้าไม่ต่ำกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท เตรียมดันบริษัทน้ำประปาไทยเข้าตลาดหุ้นปี 48
นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) (CK) เปิดเผยว่า บริษัทได้ ร่วมมือกับมิตซุย คอร์ปอเรชั่น จากประเทศญี่ปุ่น เข้ายื่นซองประมูลงานโครงการระบบรถไฟฟ้าใต้ดินเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิ (แอร์พอร์ตลิงค์) ซึ่งมีมูลค่าโครงการกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมีการยื่นซองเสนอราคาใน วันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ และประมาณเดือนธันวาคมจะสามารถสรุปโครงการได้
สำหรับการก่อสร้างแอร์พอร์ตลิงค์ ช.การช่างจะเป็นผู้ดูแลในด้านระบบโยธา ส่วนพันธมิตรจะดูแลในด้านงานระบบ ซึ่งบริษัทจะเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด เมื่อโครงการแล้วเสร็จทางการรถไฟแห่งประเทศไทยจะเป็นผู้ชำระคืนทั้งหมด โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน คาดว่าโครงการดังกล่าวจะใช้เวลาการก่อสร้างประมาณ 33 เดือน
นอกจากนี้ การที่รัฐบาลมีนโยบายลงทุนในโครงการระบบขนส่ง และสาธารณูปโภคพื้นฐานขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์) มูลค่าประมาณ 5-7 แสนล้านบาทในช่วง 5 ปีข้างหน้า จะส่งผลดีต่อยอดรายได้ของบริษัทที่จะเข้าไปร่วมประมูลงานก่อสร้าง โดยบริษัทฯตั้งเป้าว่าโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาลจะทำให้ยอดรายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถเข้าประมูลงานได้ประมาณ 10-20% หรือทำให้มีรายได้ เพิ่มขึ้นประมาณ 3-6 หมื่นล้านบาท ในอนาคต
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2547 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 8 พันล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาที่มีรายได้จำนวน 8 พันล้านบาท โดยสาเหตุที่ทำให้ผลการดำเนินงานในปีนี้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากลดการประมูลงาน เพราะกังวลว่าราคาวัสดุก่อสร้างอาจปรับตัวเพิ่มขึ้นเหมือนในปีที่ผ่านมา
ส่วนงานที่อยู่ในมือของช.การช่าง ปัจจุบันมีงานในมือ (แบล็กล็อก) ประมาณ 2.35 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้จำนวน 8 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือจะรับรู้รายได้ในปี 2548 ประมาณ 12,000 ล้านบาท และเชื่อว่าในปี 48 บริษัทจะสามารถประมูลงานของรัฐบาล อาทิ งานประปา งานระบบไฟฟ้า เป็นต้น
สำหรับเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นในปี 2548 ที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างถนน,ระบบราง, รถไฟฟ้า และระบบน้ำ คาดว่าจะมีประมาณ 3-4 แสนล้านบาท ส่วนในปี 2549 คาดว่าจะมีมูลค่าโครงการใกล้เคียงกัน โดยในส่วนนี้ช.การช่าง ตั้งเป้ามีรายได้จากการประมูลงานประมาณ 10-20%
นายปลิวกล่าวว่า ที่มาของรายได้ของช.การช่าง ส่วนใหญ่จะมาจากโครงการรัฐคิดเป็น 90% และงานของภาคเอกชน 10% ทำให้เห็นแนวโน้มว่ารายได้ที่จะเข้ามาในช่วงกลางปี 2548 และในช่วงต่อไปในอนาคตจะเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนการลงทุนของภาครัฐ โดยเป้าหมาย รายได้ที่ตั้งไว้ในปี 2548 1.2 หมื่นล้านบาท ไม่ได้รวมกับแนวโน้มรายได้ที่เกิดขึ้นจากเมกะโปรเจกต์ที่คาดว่าหากเริ่มมีการประมูลจะเริ่มรับรู้รายได้ในช่วงกลางปี 2548 เป็นต้นไป และอาจผลักดันให้รายได้ของบริษัทขยายตัวก้าวกระโดด
นอกจากนี้ ช.การช่าง ยังมีแผนนำบริษัท น้ำประปาไทย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูก เข้าจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วย
|
|
|
|
|