กว่า 3 ปีแล้ว ที่วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล ไม่ได้ออกแคมเปญโฆษณาผ่านสื่อทีวี
ถึงเวลาแล้วที่เจ้าของบัตรพลาสติกที่ดีที่สุด ต้องออกมาตอกย้ำตลาด ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังไม่เข้าที่เข้าทาง
เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา วีซ่าประสบความ สำเร็จในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ถือบัตรที่มักนิยมใช้บัตรเพื่อซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย
มา เป็นใช้บัตรเพื่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จากยอดการใช้จ่ายผ่านบัตร
ส่วนใหญ่มักจะผ่านซูเปอร์มาร์เก็ต ปั๊มน้ำมัน โรงภาพยนตร์ ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นจากเดิมอย่างมาก
ดังนั้น การที่จะนำเสนอความเป็นจริงให้กับลูกค้าได้ทราบถึงความหลากหลายของการใช้บัตรวีซ่า
เพื่อซื้อสิ่งของและบริการต่างๆ ในชีวิตประจำวัน กลยุทธ์ที่ดีที่สุดก็คือการออก
ภาพยนตร์โฆษณาเพื่อตอกย้ำให้ผู้ถือบัตรเห็นว่าแค่มีวีซ่าบัตรเดียวก็เกินพอ
"เรามีความมั่นใจต่อแคมเปญโฆษณา แม้ในช่วงที่มีสัญญาณชี้ถึงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในไทยและทั่วโลก
เราคาดว่าจะได้รับผลกระทบไม่มากนักเพราะผู้บริโภคยังต้องซื้อสินค้าและบริการอยู่"
สมบูรณ์ ครบธีรวงศ์ ผู้จัดการวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล ประจำประเทศ ไทยและอินโดจีน
กล่าว
โฆษณาของวีซ่าชุดนี้มี 2 เวอร์ชั่น เวอร์ชั่นแรกใช้ชื่อ Dining Out โดยได้จางซิยี่
นางเอกสาวจากภาพยนตร์ Crouching Tiger, Hidden Dragon มานำแสดง โดยเธอจะเปลี่ยนเหตุการณ์ปกติภายในร้านอาหารและชำระเงินด้วยบัตรวีซ่าให้เป็นเรื่องไม่ธรรมดา
เวอร์ชั่นต่อมาใช้ชื่อ Going Out ซึ่งได้ลิฟ ไทเลอร์ นักแสดงสาวสวยจาก
The Lord of the Rings มานำแสดง ด้วยการนำเสนอ การเตรียมตัวไปเที่ยวนอกบ้านเพื่อสื่อให้คนดูรู้สึกถึงความสะดวกในการใช้บัตรวีซ่า
เช่น ซื้อ ตั๋วภาพยนตร์ หรือป๊อปคอร์น
การออกโฆษณาในรอบ 3 ปีครั้งนี้ บริษัทเห็นว่าการใช้จ่ายผ่านบัตรพลาสติกในชีวิตประจำวันยังคงได้รับความนิยมในอนาคต
เนื่องจากผู้บริโภคเห็นประโยชน์ที่วีซ่าให้มากกว่าเงินสด "เราเห็นลู่ทางการเติบโตโดยรวมของบัตรที่สดใส
เพราะกว่า 90% ของการใช้จ่าย เพื่อการบริโภคในเอเชียยังคงใช้เงินสดอยู่"
สมบูรณ์กล่าว
แคมเปญโฆษณาชุดนี้ได้รับการสร้าง สรรค์ขึ้นหลังจากที่วีซ่าได้ทำการวิจัยผู้บริโภคทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยมุ่งค้นหาความต้องการและความใฝ่ฝันของ ผู้บริโภค
ผลปรากฏออกมาว่าผู้บริโภคต้องการ สิ่งใหม่ๆ จากบัตร เช่น ความสะดวกสบาย ความยืดหยุ่น
และเครือข่ายร้านค้าผู้รับบัตรที่ครอบคลุม
ความท้าทายในการสร้างสรรค์ครั้งนี้อยู่ที่การทำโฆษณาให้ออกมาตรงประเด็นและ
โดนใจผู้บริโภคในประเทศต่างๆ ทั่วภูมิภาคนี้ เสน่ห์ของดารานำและพล็อตหักมุม
ทำให้เกิดพลังและอารมณ์ขันในระดับที่สูงพอที่ผู้ชม หลากหลายวัฒนธรรมจะรู้สึกชื่นชอบได้เหมือน
กัน ผู้ชมจะได้รู้สึกว่าชีวิตเต็มไปด้วยสิ่งไม่คาด ฝันและความเป็นไปได้ที่ไร้ขีดจำกัด
แม้ว่าวีซ่าจะเป็นผู้นำทางด้านบัตรชำระเงิน ที่มีส่วนแบ่งตลาดเกือบ 60%
ทั่วโลก และในเอเชียเป็นตลาดที่เติบโตรวดเร็วที่สุดของ บริษัท คือ มีการใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้นเฉลี่ย
ปีละ 30-40% ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะหยุดเสนอกิจกรรมที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นวีซ่า
เพราะนั่นหมายถึงการประมาทคู่แข่ง และอาจเป็นความบกพร่องและความหายนะต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคต