Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน14 ตุลาคม 2547
TPIPLกำไรวูบ2.2พันล.             
 


   
www resources

โฮมเพจ ทีพีไอโพลีน
โฮมเพจ บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรีอยุธยา

   
search resources

ทีพีไอ โพลีน, บมจ.
Cement
กรุงศรีอยุธยา, บล.




"ทีพีไอโพลีน" กำไรสุทธิไตรมาส 3 วูบกว่า 2.2 พันล้านบาท "ประชัย" อ้างขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน ผสมโรงกับราคาขายปูนซีเมนต์ที่ปรับตัวลดลงเล็กน้อย และต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตเม็ดพลาสติกที่ถีบตัวสูงขึ้น โบรกเกอร์ระบุต้นทุนที่สูงขึ้นส่วนหนึ่งอาจจะมาจากการผลักภาระค่าใช้จ่ายด้านกฎหมาย ในการดำเนินคดีทางศาล เพื่อเจรจาปรับหนี้ที่ยังคงยืดเยื้อ

นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) (TPIPL) เปิดเผยว่า ผลการดำเนิน งานในไตรมาส 3 ปี 2547 บริษัทฯและบริษัทย่อย มีกำไรจากการดำเนินธุรกิจปกติจำนวน 514 ล้านบาท ลดลง 50.67% จากจำนวน 1,042 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของ ปีที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิจำนวน 141 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียว กันของปีก่อนที่กำไรสุทธิ 2,359 ล้านบาท ลดลงกว่า 2,218 ล้านบาท หรือคิดเป็น 94.02% โดยมีสาเหตุหลักมาจากผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน รวมทั้งระดับราคาขายปูนซีเมนต์ที่ลดลงเล็กน้อยและต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตเม็ดพลาสติกที่สูงขึ้น

ส่วนกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ของปีนี้อยู่ที่ 0.18 บาทต่อหุ้น ขณะที่ช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 4.84 บาทต่อหุ้น

สำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปี2547 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไร สุทธิจำนวน 2,968 ล้านบาท หรือกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 3.88 บาท ลดลง 22.28% เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิจำนวน 3,819 ล้านบาท หรือกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 7.80 บาท ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

โดยบริษัทฯมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและรายการตัดจำหน่าย (EBITDA) จำนวน 4,726 ล้านบาท ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2547 คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 8.69% จากจำนวน 4,348 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากยอดขายปูนซีเมนต์คอนกรีตผสมเสร็จและเม็ดพลาสติกเพิ่มขึ้นตามความต้องการในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้นตามการขยายตัวของภาวะเศรษฐกิจในประเทศ โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2547 มีมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้นเท่ากับ 43.63 บาท

ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรีอยุธยากล่าวว่า กำไรจากการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 3 ที่ลดลงกว่า 27% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกัน แต่ถ้าคิดเป็นกำไรสุทธิแล้วจะลดลงประมาณ 71% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เกิดจากกำไรการดำเนินงานปกติที่ลดลง 27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 383 ล้านบาท จากที่ TPIPL มีหนี้ที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศ 70%

ทั้งนี้ สาเหตุหลักที่ทำให้ TPIPL มีกำไรจาก การดำเนินงานลดลง เกิดจากกำไรขั้นต้นที่ลดลงจาก 34.7% มาเป็น 31.1% ในไตรมาส 3 ซึ่งคาดว่าเกิดจากค่าใช้จ่ายพลังงานที่เพิ่มขึ้น และธุรกิจ LDPE สัดส่วนรายได้ 27% ของรายได้รวมโดยคาดว่ายังมีผลขาดทุนต่อเนื่องจากราคา Ethylene ที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่มากกว่าราคาผลิตภัณฑ์

นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายการดำเนินงานต่อ ยอดขายที่เพิ่มขึ้น คาดว่าเป็นค่าใช้จ่ายทางกฎหมาย ในการดำเนินการทางศาลเพื่อการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ที่ยังคงยืดเยื้อต่อไป

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่งกล่าวว่า แม้ผลประกอบการของ TPIPLจะปรับตัวลดลงมาก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสูงถึง 2,358 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน และระดับราคาขายปูนซีเมนต์ที่ลดลง แต่ก็ยังเชื่อว่าผลประกอบการไตรมาส 4 จะสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากระดับราคาปูนซีเมนต์ดีขึ้น รวมถึงความต้องการของผู้บริโภคที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น

"แม้ว่าไตรมาส 3 ผลประกอบการของบริษัทจะลดลงอย่างมาก แต่เชื่อว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 4 รวมถึงผลการดำเนินงานทั้งปี จะออกมาสดใส เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคขยายตัว ในขณะที่ต้นทุนราคาวัตถุดิบลดลง โดยเฉพาะราคาปูนซีเมนต์ ซึ่งส่งผลดีต่อบริษัทเป็นอย่างมาก โดยคาดว่าทั้งปี TPIPL จะสามารถทำกำไรได้อยู่ที่ 4,070 ล้านบาท" ส่วนราคาที่แนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้น TPIPL ได้ โดยประเมินราคาที่เหมาะสมอยู่ที่ 50 บาท

ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน ได้ออกบทวิเคราะห์ โดยระบุว่า เตรียมปรับประมาณการรายได้ของTPIPL ใหม่ ภายหลังจากที่ได้เข้าพบผู้บริหารจากเดิมที่ตั้งราคาเป้าหมายที่ 41-44 บาทต่อหุ้น เนื่องจากผลประกอบการไตรมาส 3 ลดลงค่อนข้างมาก

สำหรับการเคลื่อนไหวราคาหุ้น TPIPL เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา เปิดตลาดเช้าที่ 27.75 บาท หลังจากตลาดรับรู้ข่าวผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ที่ปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก ส่งผลให้ราคาหุ้นลดลงต่อเนื่อง โดยปรับตัวต่ำสุดที่ 26.25 บาท ก่อนที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ปิดตลาดที่ 26.75 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือลดลงกว่า 5.31% มูลค่าการซื้อขาย 176.46 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us