กลุ่มแสนสิริและพลัสฯ โชว์ตัวเลขปิดการขาย สิริสาทร สวนพลู และสิริสุขุมวิท ซอย 13 ทำให้สามารถปิดการขายโครงการคอนโดมิเนียมเพิ่มเป็น 9 แห่ง สร้างยอดขาย ที่ปิดโครงการแล้ว 5,200 ส่วนโครงการ ที่ยังเปิดขายมียอดขายเฉลี่ยกว่า 85%
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหา-ชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดคอนโดมิเนียมมีการแข่งขันกันอย่างคึกคัก สำหรับกลุ่มบริษัทแสนสิริ และ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ จำกัด ปัจจุบันมีส่วนแบ่งในตลาดคอนโดมิ-เนียมหรูกว่า 30% และมีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าตลาดคอนโดมิเนียมระดับกลางถึงระดับบนสามารถเติบโต ได้อย่างมีเสถียรภาพ
โดยปัจจุบันกลุ่มบริษัทแสนสิริสามารถเปิดการขายโครงการคอนโด-มิเนียมหรูไปแล้วทั้งหมด 9 โครงการ จากที่มีการทยอยเปิดตัวมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสิ้น 21 โครงการ โดยล่าสุดได้ปิดการขาย 2 โครงการ ได้แก่ โครงการบ้านสิริสาทร สวนพลู และโครงการบ้านสิริสุขุมวิท ซอย 13 สำหรับโครงการที่ยังเปิดขายอยู่นั้น ส่วนใหญ่ขายเกือบหมดแล้ว โดยมียอดขายแต่ละโครงการเฉลี่ยมากกว่า 85%
สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมที่ได้ปิดการขายเรียบร้อยแล้ว ได้แก่ โครงการบ้านราชดำริ โครงการคอนโด มิเนียมที่หรูที่สุดบนถนนราชดำริ, โครง การบ้านแสนเพลิน หัวหิน รีสอร์ตตาก อากาศ ที่ใช้เวลาขายเพียง 2 สัปดาห์ก็สามารถปิดการขายทั้งโครงการ, โครงการบ้านสิริฤดี บริเวณซอยร่วม ฤดี, โครงการบ้านสิริสาทร บริเวณซอย เย็นอากาศ, โครงการสิริทเว็นตี้โฟว์ บริเวณซอยสุขุมวิท 24, โครงการ 49 PLUS บริเวณซอยสุขุมวิท 49, โครง การพลัส 38 บริเวณซอยสุขุมวิท 38 และอีกสองโครงการที่มีการปิดการขายจากการจัดงาน Better Living Campaign ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาคือ โครงการบ้านสิริสาทร สวน พลู และโครงการบ้านสิริ สุขุมวิท ซอย 13 ทั้งนี้เฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม ทั้ง 9 แห่งนี้ มีมูลค่าโครงการขายรวม ประมาณ 5,200 ล้านบาท
สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมของกลุ่มบริษัทแสนสิริและพลัสฯได้ทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปี 2546 โดยเปิดไปแล้วทั้งสิ้น 21 โครง การ มีจำนวนยูนิตรวมทั้งสิ้น 2,688 ยูนิต มูลค่าการขายรวมประมาณ 12,200 ล้านบาท จากผลของความสำเร็จในการพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้มี ลูกค้าสนใจจองซื้อเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ จากการสำรวจข้อมูลผู้ซื้อโครงการคอนโดมิเนียมของแสนสิริและผู้ซื้อทั่วไป พบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ มีการศึกษาข้อมูลของสินค้า รวมถึงข้อมูลของผู้ประกอบการก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อโครงการ ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้มีการตัดสินใจเลือกซื้อโครงการ คอนโดมิเนียมโดยอาศัยความน่าเชื่อถือ ที่นอกเหนือจากปัจจัยพื้นฐานด้าน ทำเลที่ตั้ง ดีไซน์รูปลักษณ์และคุณภาพ มาตรฐานที่ดีของการก่อสร้าง
ก่อนหน้านี้กลุ่มบริษัทแสนสิริและพลัสฯ ประสบความสำเร็จอย่างงดงามจากการจัดแคมเปญทางการตลาดเพื่อการขายโครงการคอนโดมิเนียมที่เรียกว่า "Better Living Campaign" ซึ่งเปิดตัวตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมถึงสิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยในช่วงระยะเวลา 45 วันจากการจัดงานดังกล่าวสามารถสร้าง ยอดขายคอนโดมิเนียมเป็นมูลค่ารวมกว่า 1,000 ล้านบาท จากจำนวนที่พักอาศัยทั้งสิ้น 200 ยูนิต
"การพัฒนาคอนโดมิเนียมต้องอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยว ชาญ ไม่ใช่ว่าใครมีเงินลงทุนแล้วจะทำได้ซึ่งหากไม่สามารถตอบสนองความต้องการด้านการอยู่อาศัยได้อย่างแท้จริง ก็ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน แล้ว" นายเศรษฐา กล่าว
|