Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน11 ตุลาคม 2547
"บัวหลวง"เร่งฟ้องลูกหนี้ก่อนสิ้นปีหวั่นทรัพย์ค้ำประกันลดค่าตามเกณฑ์             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารกรุงเทพ

   
search resources

ธนาคารกรุงเทพ, บมจ.
Banking




แบงก์กรุงเทพเร่งฟ้องลูกหนี้เอ็นพีแอลกว่า 4 พันล้านบาทภายในสิ้นปี จากลูกหนี้ ที่ยังไม่ปรับโครงสร้างทั้งหมด 5 พันล้านบาท หวั่นสำรองเพิ่มตามเกณฑ์แบงก์ชาติ พร้อมจัดกลุ่ม เอ็นพีเอรอขายให้กับบบส. มั่นใจปีนี้ขายเอ็นพีเอได้ตามเป้า 6-7 พันล้านบาท

นายสุวรรณ แทนสถิตย์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยถึงการแก้ปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ในช่วงปลายปีว่า ธนาคารจะรีบดำเนินการฟ้องศาลสำหรับลูกหนี้เอ็นพีแอลที่ยังไม่ได้ปรับโครงสร้างหนี้ให้ได้ 4,000 ล้านบาท จากลูกหนี้ที่ยังไม่ได้ปรับโครงสร้างหนี้ทั้งหมด 5,000 ล้านบาท เนื่องจากหากธนาคารไม่รีบดำเนินการให้ทันในสิ้นปีนี้ ธนาคารจะต้องประสบปัญหาเรื่องการตั้งสำรองเพิ่มตามประกาศ ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ระบุว่า หลักทรัพย์การค้ำประกันหนี้เสียจะถูกลดมูลค่าลงปีละ 25% ทั้งนี้ ลูกหนี้ที่ฟ้องส่วนใหญ่จะมีมูลหนี้ขนาดเล็ก และขนาดกลาง ซึ่งแต่ละรายมีมูลหนี้ไม่สูงนัก

ส่วนลูกหนี้ที่ไม่ได้ปรับโครงสร้างอีก 1,000 ล้านบาทที่ยังไม่สามารถฟ้องศาลได้นั้น ส่วนใหญ่ เป็นลูกหนี้รายย่อยมาก บางรายมีหนี้ไม่ถึง 30,000-50,000 บาท ซึ่งทำให้ขั้นตอนการฟ้องทำได้ลำบาก แต่สำหรับลูกหนี้ขนาดใหญ่นั้น ธนาคารได้เข้าไปแก้ไขได้เกือบหมดแล้ว และจะไม่เป็นปัญหาต่อธนาคาร โดยเฉพาะหนี้บริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเคมี กัลไทย (ทีพีไอ) ที่มั่นใจว่าจะแก้ปัญหาจบภายในปลายปีนี้

อย่างไรก็ตาม ธนาคารไม่มีความต้องการที่จะขายหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ไปให้บริษัทบริหาร สินทรัพย์ (บบส.) รายใดบริหาร แม้ว่ารัฐบาลจะมีการแก้กฎหมายเพื่อเปิดทางให้ บบส.รัฐเข้ามาซื้อได้ก็ตาม โดยธนาคารจะขอแก้ไขปัญหาหนี้เสียต่างๆ ด้วยตัวเอง ซึ่งถือเป็นนโยบายดั้งเดิมที่ธนาคารได้ปฏิบัติมาตลอด นอกจากนี้ ปัจจุบันธนาคารมีทีมแก้ปัญหาหนี้ที่มีศักยภาพเพียงพอต่อการบริหารเอ็นพีแอลในธนาคาร ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องขายออกไป

นายสุวรรณ กล่าวต่อว่า แต่ในส่วนสินทรัพย์ รอการขาย (เอ็นพีเอ) ธนาคารมีความต้องการจำหน่ายออกไปในบางส่วนเพื่อลดภาระการบริหาร รวมถึงเป็นการช่วยระบายเอ็นพีแอลไปในตัวด้วย โดยขณะนี้กำลังพิจารณาคัดแยกทรัพย์สินออกเป็นกอง มูลค่ากองละ 1,000 ล้านบาท ซึ่งมีทรัพย์ สินขนาดใหญ่ กลาง และเล็กคละกันไปเพื่อเสนอขายให้แก่ บบส.รัฐที่จะสามารถรับซื้อได้ในปีหน้า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะมีการจำหน่ายเอ็นพีเอออกไปเท่าไร เนื่องจากต้อง รอความชัดเจนในเรื่องราคารับซื้อก่อน

ก่อนหน้านี้ทราบว่าหากเป็นทรัพย์สินเกรดเอ จะลดราคารับซื้อ 10% เกรดบีลดลง 20% และเกรด ซีลดลง 30% ซึ่งหากสามารถสรุปราคาซื้อขายได้ ธนาคารก็ยินดีขายออกไปในจำนวนมากๆ แต่จะค่อย ทยอยขายไป เนื่องจาก บบส. ของรัฐมีกำลังบริหาร ทรัพย์สินที่จำกัด ซึ่งในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าหมายว่าจะจำหน่ายเอ็นพีเอให้ได้ 6,000-7,000 ล้านบาท จากเมื่อต้นปีที่มีทั้งหมด 26,000 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us