Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน11 ตุลาคม 2547
DEผวาพิษน้ำมันฉุดกำลังซื้อเล็งขยายเวลาผ่อนชำระสินค้า             
 


   
www resources

โฮมเพจ ดี อี แคปปิตอล

   
search resources

Financing
ดี อี แคปปิตอล, บมจ.




DE ผวาพิษน้ำมันพุ่งฉุดกำลังซื้อ "ราชาเงินผ่อนฎ ปี'48 เตรียมงัดกลยุทธ์ขยายเวลาผ่อนชำระ ให้กับลูกค้าที่ผ่อนซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ากับบริษัท จากเดิม 24 เดือนเพิ่มเป็น 28 เดือน ส่วนแนวโน้มผลประกอบการ ไตรมาส 3 คาดสูงกว่าเป้า 5% ดันรายได้รวมทั้งปีสูงกว่าที่ประมาณการไว้เดิมที่คาดว่าจะมีรายได้เพียง 1,620 ล้านบาท

นายวัฒน ตรีคันธา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี อี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัญหาราคาน้ำมัน ที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการบริโภคของประชาชนทั่วไป และถ้าหากยังคงอยู่ในระดับสูงเช่นปัจจุบันไปจนถึงต้นปี 2548 อาจทำให้ความสามารถในการซื้อของประชาชนลดลง ซึ่งส่งผล กระทบโดยตรงกับการดำเนินธุรกิจ อย่างไรก็ตาม บริษัทได้เตรียมแผนรองรับไว้แล้ว โดยจะมีการขยายเวลาการชำระหนี้ให้กับลูกค้าที่ผ่อนชำระสินค้าเงินผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้าของบริษัท

สำหรับลูกค้าที่ผ่อนชำระสินค้ากับ ดีอี ภายใต้สินค้ายี่ห้อ Distar เดิมระยะเวลาการผ่อนชำระจะอยู่ที่ 24 เดือน บริษัทอาจเพิ่มเวลาการผ่อนชำระเป็น 28 เดือน เพื่อดึงลูกค้า

"แม้เศรษฐกิจอาจชะลอตัวจากปัญหาราคาน้ำมัน แต่ธุรกิจลีสซิ่งของเราน่าจะไปได้ดี เพราะเราอาจมีการขยับระยะเวลาการผ่อนชำระออกไป จากเดิม เพราะความสามารถในการเช่าซื้อสินค้าของลูกค้าอาจลดลง แต่ถ้าขยายเวลาการผ่อนชำระออกไป ก็จะทำให้ความสามารถการผ่อนมีมากขึ้น ซึ่งจุดนี้น่าจะดึงลูกค้าได้"

นอกจากนี้ การที่บริษัทเป็นผู้ผลิตสินค้าเอง และบางส่วนจ้างผลิต จึงทำให้สามารถควบคุมต้นทุนได้ แม้จะได้รับผลกระทบจากการที่ต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้น ตามราคาน้ำมันก็ตาม

ส่วนแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3 ของปีนี้ คาดว่าจะสูงกว่าที่ประมาณการไว้เดิมถึง 5% และทำ ให้ยอดขายรวมทั้งปีสูงกว่าที่ประมาณ การไว้เดิมที่ 1,620 ล้านบาท เนื่องจากภายหลังจากระดมทุนจากตลาดหลัก- ทรัพย์ ทำให้บริษัทมีเงินทุนในการขยายสาขามากขึ้น

สำหรับความคืบหน้าในการเปิด สาขา สแตนด์อะโลน ในปี 2548 ที่ตามแผนเตรียมเปิดในต่างจังหวัด 2 แห่งคาดว่าภายในต้นปีหน้าจะสามารถ เปิดสแตนด์อะโลน ที่ภาคใต้ 1 แห่ง ได้สำเร็จ โดยต้นทุนในการเปิดอยู่ที่ 40 ล้านบาทต่อแห่งต่อปี ส่วนครึ่งปีหลังจะเปิดอีก 1 แห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยสแตนด์ อะโลน ที่จะเปิดในภาคใต้อยู่ระหว่างเลือกว่าจะ เปิดที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี, หาดใหญ่, นครศรีธรรมราช หรือที่ภูเก็ต โดยการ เช่าตึกที่มีขนาดพื้นที่ 3 พันตารางเมตร เน้นกลุ่มลูกค้า C+ ถึง B ซึ่งมีรายได้ 1 หมื่นบาทขึ้นไป โดยคาดว่าสาขาที่เปิดจะสร้างรายได้ประมาณ 100 ล้านบาทต่อสาขาต่อปี

นายวัฒนกล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้ ตัดสินใจเปิดสแตนด์ อะโลนในภาคใต้ ก่อน เนื่องจากมีกำลังซื้อมาก และที่สำคัญกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทอยู่ใน ภาคใต้ และที่สำคัญราคายางพาราที่ยังคงสูง ทำให้ความสามารถในการผ่อนชำระลูกค้ามีมาก ขณะเดียวกันภาคใต้ก็ไม่ได้รับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของไข้หวัดนก

ปัจจุบันช่องทางการจำหน่ายสินค้าของบริษัทมี 2 ส่วนคือ ผ่านสาขา ซึ่งจะมีพนักงานบริษัทเป็นผู้ดำเนินการ ขายสินค้าให้กับผู้บริโภคโดยตรง และขายผ่านตัวแทน ซึ่งปัจจุบันมีสาขา 70 แห่ง และตัวแทน 329 แห่ง ตามแผน งานจากนี้ไปถึงปี 2550 จะเพิ่มจำนวน สาขาเป็น 150 สาขา และตัวแทนจะเพิ่มจาก 315 ราย เป็น 600 ราย ภายใน 2 ปีข้างหน้า   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us