Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน11 ตุลาคม 2547
"วี.เค.กรุ๊ป"หวนคืนธุรกิจลุยบ้านจัดสรร             
 


   
search resources

องค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน - ปรส.
Real Estate
วี.เค.กรุ๊ป แลนด์, บจก.




ถึงเวลา!! วี.เค.กรุ๊ป แลนด์ รุกตลาดอสังหาฯอีกครั้ง หลังศาลสั่งให้กองทุนรวมแกมม่าแคปปิตอลยกฟ้อง เหตุสิทธิบริหารของ กองทุนฯต่อลูกหนี้ไม่ชอบธรรม รวมถึงกองทุนฯได้รับชำระหนี้ถึง 5 เท่าของราคาที่ซื้อจากปรส. เผยเตรียมนำที่ดิน 10 ไร่ในโครงการวี.เค.โฮม ที่ปลอดจากคดีพัฒนาโครงการทาวน์เฮาส์ต่อ ลุ้น 15 ต.ค. ศาลชี้ขาดโครงการ วี.เค.กรีน พาร์ค วอนรัฐบาลเข้ามาดูแลลูกหนี้ที่ถูกเอาเปรียบ

ในยุคปัจจุบันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้มีการฟื้นตัว อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจาก การขยายตัวของเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันลูกหนี้บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายราย ได้ผ่านพ้นกระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งมีหลายบริษัทที่ได้รับผลดีจากการแก้ไขหนี้ แต่ยังมีลูกหนี้อีกจำนวนมากที่ยังถูกละเลย โดยเฉพาะลูกหนี้บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายย่อยที่ยังติดอยู่กับเจ้าหนี้หรือกองทุนรวมต่างๆ ที่ได้เข้าไปประมูลมูลหนี้จากองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.)

บริษัท วี.เค.กรุ๊ป แลนด์ เป็นอีกบริษัทที่ทำธุรกิจอสังหาฯมากว่า 25 ปี ซึ่งมีความชำนาญในการพัฒนาที่ดินย่านพระราม 2 แต่ด้วยผลจากวิกฤตเศรษฐกิจทำให้ประสบปัญหาเรื่องเงินทุนขณะที่เจ้าหนี้เดิมของบริษัท คือบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ (บงล.) ซิทก้า จำกัด (มหาชน) ได้ถูกทางราชการให้ควบคุมกิจการ โดยมีปรส.เข้ามาดูแลเพื่อ ดำเนินการคัดและขายทรัพย์ออกไป ซึ่งปัจจุบันกองทุนรวมแกมม่าแคปปิตอล (จีอี แคปปิตอล) เป็นเจ้าหนี้

ล่าสุดศาลแพ่งธนบุรีได้มีการพิพากษาให้กองทุนรวมแกมม่าแคปปิตอล (โจทก์) ที่ฟ้องร้องบริษัทฯ ให้ยกฟ้องบริษัทวี.เค.กรุ๊ป แลนด์ โดยเป็นในส่วนของหนี้ในโครงการวี.เค.โฮม ทั้งนี้ศาลแพ่งธนบุรีได้มีความเห็นว่า มีเหตุผลพอให้เชื่อได้ตามคำพยานจำเลยทั้งเจ็ด ว่า โจทก์ได้รับเงินจากลูกหนี้แล้วไม่น้อยกว่า 60 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าจำนวนหนี้ที่โจทก์ฟ้องว่าเป็นยอดหนี้ ณ ก่อนวันโจทก์ทำสัญญาซื้อขายกับปรส.เอกสารหมาย จ.22 อยู่ถึง 6.109 ล้านบาท เป็นจำนวนที่เชื่อได้ว่ามากกว่าดอกเบี้ยที่เกิด และหากจะนำไปเทียบกับราคาที่โจทก์ซื้อมาจาก ปรส. เท่ากับโจทก์ได้รับชำระหนี้แล้ว 5 เท่า นับว่าโจทก์ได้รับกำไรจากทุนที่ลงมากมายแล้ว และศาลฯได้ให้โจทก์นำทรัพย์ที่จดจำนองอยู่ หรืออยู่กับบงล.ซิทก้า ให้ปลอดจำนองให้แก่ลูกหนี้

นายชนภัส เพชรดำรงสกุล ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร บริษัท วี.เค. กรุ๊ป แลนด์ เปิดเผยว่า คดีที่ชนะกับจีอี แคปปิตอลเป็นในส่วนของคดีเกี่ยวกับมูลหนี้โครงการ วี.เค.โฮม ทั้งนี้ทางบริษัทจะได้รับหลักทรัพย์คืนจากการที่ไปจดจำนองไว้ประมาณ 10 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินอยู่ด้านหน้าโครงการวี.เค.โฮม นอกจากนี้ในวันที่ 15 ตุลาคมนี้จะมีการพิพากษาในส่วนโครงการ วี.เค.กรีน พาร์คอีกคดีหนึ่ง

"จริงๆ แล้วการที่บริษัทชนะคดีเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งไม่ค่อยมีผลต่อภาพรวมเท่าไร แต่เจตนารมณ์ของบริษัท คือ ต้องการเป็นสื่อกลางให้กับบริษัทอื่นๆ ที่ประสบปัญหาที่คล้ายกับกรณี จีอี แคปปิตอลมาร่วมกัน เพื่อคาดหวังว่ารัฐบาลจะได้เข้ามาดูแลลูกหนี้เหล่านี้ หรือมีมาตรการเฉพาะออกมาเพื่อแก้ไขปัญหา"นายชนภัสกล่าว

อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่ดินจำนวน 10 ไร่นั้น ทางบริษัทฯจะนำมาพัฒนาเป็นโครงการในรูปแบบทาวน์เฮาส์ และพัฒนาเป็นโฮมออฟฟิศ สูง 3-4 ชั้น บนเนื้อที่ 56 ตร.ว. ราคาจะอยู่ระหว่าง 1.5-3 ล้านบาท เพื่อรองรับกลุ่มอุตสาหกรรมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ตามแผนเดิมจะก่อสร้าง 10 ยูนิต เพื่อทดสอบตลาด ซึ่งที่ดินทั้งหมด คาดว่าจะสร้างได้ประมาณ 100 ยูนิต โดยแหล่งเงิน ที่นำมาพัฒนาจะมาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัททั้งหมด

ทั้งนี้ หากมองไปแล้ว โครงการวี.เค.กรีน พาร์ค นับได้ว่าเป็นโครงการที่มีความสำคัญกับบริษัทฯอย่างมาก เนื่องจากนายวิชิต เพชรดำรงสกุล ต้องการผลักดันให้โครงการนี้สร้างชื่อเสียงให้กับบริษัทฯ ปัจจุบันได้พัฒนาไปแล้ว 20% ซึ่งเป็น เฟส 1 จำนวน 70 ยูนิต สำหรับที่ดินที่เหลือพัฒนาประมาณ 50 ไร่ วางแผนที่จะพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว เพื่อรองรับกำลังซื้อกลุ่มเป้าหมายลูกค้าระดับบีบวกขึ้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us