"ก้องเกียรติ" เลิกดันอาร์ทีเอเข้าตลาด ระบุตอนนี้อยู่ระหว่างคืนเงินนักลงทุนที่ใส่เงินเข้ามา 300 ล้านบาทก่อนหน้านี้ในราคา ส่วนลด จากนั้นช่อง 5 กลับสู่สถานะเดิม พ้อรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ปั้นช่อง 5 ให้เป็นมืออาชีพเหมือน อสมท อย่างที่หวัง ยันไม่กระทบผลการดำเนินงาน ASP เหตุไม่ใส่ไว้ในประมาณการ

นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทอาร์ทีเอ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เอกชนผู้เข้ามาบริหารเวลาของสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 กล่าวว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการคืนเงินให้กับนักลงทุนที่ใส่เงินเพิ่มทุนเข้ามาจำนวน 330 ล้านบาท ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) รวมทั้งผู้บริหารของบริษัทลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หลังจากที่พิจารณาสถานการณ์แล้วว่า อาร์ ที เอ น่าจะต้องยกเลิกแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลัก ทรัพย์ โดยการคืนเงินให้กับนักลงทุนจะไม่เต็มจำนวน ซึ่งถือว่าเป็นความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนต้องทราบอยู่แล้วก่อนการเข้ามาลงทุน ซึ่งหลังจากที่คืนเงิน เพิ่มทุนไปแล้วเท่ากับว่าสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 จะกลับไปอยู่ในสถานะเดิม

อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกเสียดาย ที่ช่อง 5 ไม่ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยก่อนหน้าที่จะเข้ามารับงานนี้ได้วางเป้าหมายไว้ว่าจะทำให้ช่อง 5 เป็นเหมือน อสมท คือมีการบริหารงานแบบมืออาชีพ และมีความโปร่งใส ก่อนหน้านี้จึงได้มีการดึงคนนอกเข้ามาเป็นกรรมการ ทั้ง อธิบดีกรมสรรพากร และรองอธิบดีกรมสรรพสามิต ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ แต่เมื่อเรื่องนี้ต้องยุติ กรรมการที่เคยเชิญเข้ามาก็ต้องลาออกไป

นายก้องเกียรติกล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นอุทาหรณ์ และเป็นจุดอ่อนขององค์กรที่เมื่อเปลี่ยนผู้นำ ทุกอย่างก็เปลี่ยนหมด ทำให้ไม่มีความต่อเนื่องในการบริหารงาน ซึ่งจะทำให้องค์กรไม่สามารถเติบโตแบบมืออาชีพได้

"เรื่องนี้แล้วแต่นโยบายของผู้ถือหุ้น ซึ่งดูจากตอนนี้แล้วคิดว่าคงต้องยกเลิกการเข้าจดทะเบียน ส่วนผมเองก็ขอยกธงขาว เพราะไม่ถนัดงานที่ต้องยืดเยื้อ ส่วนใหญ่ผมทำในภาคเอกชนมาตลอด มีอะไรตัดสินใจได้เลย ตอนนี้คงต้องเคลียร์เรื่องคืนเงินให้เร็วที่สุด แต่ในใจก็ยังเสียดายว่าช่อง 5 จะไม่มีการบริหารที่เป็นมืออาชีพ ผมเคยวางไว้ว่าจะปั้นช่อง 5 ให้เหมือน อสมท แต่เมื่อผู้นำเปลี่ยน นโยบายเปลี่ยนก็คงต้องเป็นไปอย่างนั้น" นายก้องเกียรติกล่าว

ทั้งนี้ การที่อาร์ ที เอ ยกเลิกการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบล.เอเซียพลัสแต่อย่างใด เนื่องจากบริษัทไม่ได้นับรวมดีลนี้อยู่ในประมาณการ เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่ยังไม่มีความแน่นอน และที่ผ่านมาบริษัทก็ได้รับค่าที่ปรึกษาเป็นรายเดือนมา ตามปกติ เพียงแต่จะไม่ได้ในส่วนของค่าธรรมเนียม การเป็นอันเดอร์ไรต์เท่านั้น โดยในปีนี้ บล.เอเซียพลัสมีงานด้านวาณิชธนกิจประมาณ 90 ดีล และมีทีมงานเพิ่มขึ้นเป็น 40 คน ดังนั้นคาดว่าสัดส่วนรายได้ของงานวาณิชฯน่าจะปรับตัวดีขึ้นในปีนี้