Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน6 ตุลาคม 2547
SEAFCOเตรียมปรับแผนลงทุนรับเมกะโปรเจกต์ดันรายได้กระฉูด             
 


   
www resources

โฮมเพจ ซีฟโก้

   
search resources

Construction
ซีฟโก้, บมจ.




บอร์ด SEAFCO เตรียมปรับแผนลงทุนใหม่รองรับเมกะโปรเจกต์ 5-7 แสนล้านบาท ของรัฐบาลในช่วง 5 ปีข้างหน้า ที่คาดว่าจะทำให้ยอดรับรู้รายได้ของบริษัทเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้จำเป็น ต้องลงทุนในเครื่องจักรเพิ่ม "ณรงค์" เผยอาจต้องลงทุนซื้อเครื่องจักรใหม่ หรือซื้อเครื่องจักรมือสอง พร้อมเปิดทางพันธมิตร ต่างประเทศร่วมเป็น Joint Venture ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้คาดกำไรกระฉูดเฉียด 100 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีกำไรสุทธิเพียง 35 ล้านบาท

นายณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรม-การผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน)(SEAFCO) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทเตรียมจัดประชุมขึ้น เพื่อปรับแผนการดำเนินธุรกิจและ การลงทุนใหม่ หลังจากที่รัฐบาลได้มีนโยบายลงทุนในกิจการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์) ระบบขนส่งราง และโครงสร้างพื้นฐาน คมนาคมรองรับการขยายตัวธุรกิจ ซึ่งทำให้บริษัทมีความจำเป็นต้องลงทุน ซื้อเครื่องจักรใหม่ หรือซื้อเครื่องมือสองเพื่อลดต้นทุน และอาจจะมีการร่วมลงทุนกับพันธมิตรต่างประเทศ (Joint Venture) เพื่อเข้าร่วมทำธุรกิจในโครงการของรัฐที่คาดว่าจะมีประมาณ 5-7 แสนล้านบาท ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ซึ่งในส่วนนี้จะเกี่ยวข้องกับการขุดเจาะเสาเข็มประมาณ 10% และบริษัทถือเป็นเจ้าตลาดในด้านนี้ โดยมีส่วนแบ่งตลาด (มาร์เกตแชร์) ประมาณ 40-50% ทำให้เห็นถึงความจำเป็นต้องลงทุนเพิ่มเพื่อรองรับการขยายงานที่ดาดว่าจะเพิ่มขึ้นตาม

นอกจากนี้ การปรับแผนการลงทุนจะทำให้สะท้อนถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัท ที่คาดว่าจะมีรายได้มากขึ้นจากการเข้าไปเป็น ซับคอนแท็กโครงการลงทุนโครงสร้าง พื้นฐานของรัฐ ซึ่งก่อนหน้าที่บริษัทจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้มีการประมาณการรายได้ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น จากโครงการรัฐ ซึ่งก่อนหน้าประเมินว่า ผลการดำเนินงานในช่วง 5 ปีคือ ระหว่างปี 2547-2551 รายได้รวมของ บริษัทจะขยายตัวเฉลี่ยประมาณ 15% ต่อปี โดยในปี 2547 ได้ตั้งงบลงทุนซื้อเครื่องจักรไว้ประมาณ 80 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากการระดมทุนผ่านตลาดหุ้น และได้สั่งซื้อเครื่องจักรแล้ว บางส่วน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอการ ส่งมอบ

ส่วนผลการดำเนินงานในปี 2547 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิประมาณ 100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียว กันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเพียง 35 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีกำไรสุทธิกว่า 54 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่า กำไรที่เกิดขึ้นทั้งปีในปี 2546

"ในไตรมาส 3 รายได้ของเราลด ลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 เนื่องจากเป็นช่วงที่อยู่ในฤดูฝน ทำให้มีงานเข้ามาน้อย แต่เชื่อว่าแนวโน้มทั้งปีหน้าจะสามารถทำได้ตามเป้าที่หลายฝ่ายได้คาดการณ์ไว้"

สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ราคาเหล็ก และคอนกรีตที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลกระทบกับการดำเนินงานของบริษัทน้อยมาก โดยเฉพาะในส่วนของราคาเหล็กที่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงถึง 70% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี เนื่องจากบริษัท มีการปรับราคากับคู่ค้า ซึ่งในจุดนี้ทำ ให้ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และการ รับงานของบริษัทจะเป็นการรับงานในช่วงสั้น 2-3 เดือน ทำให้สามารถคำนวณต้นทุนเฉลี่ยได้

อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์ที่ผ่าน มาบริษัทได้ลงนามสัญญาและรับใบสั่ง จ้างโครงการเพิ่มเติมอีก 6 โครงการ รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้นประมาณ 71.48 ล้านบาท แบ่งเป็น 1. โครงการอาคารชุด The Madison Condominium ถนนสุขุมวิท 41 กทม. บริษัทได้รับใบสั่งจ้างก่อสร้างเฉพาะงานเสาเข็มเจาะจากผู้รับเหมาหลัก คือ บริษัท เนาวรัตน์ พัฒนาการ มูลค่างานที่ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเงิน 29,139,800.00 บาท

ส่วนโครงการที่ 2 คือ โครงการวิทยาลัยดุสิตธานี ที่ถนนศรีนครินทร์ กทม. บริษัทได้ลงนามสัญญากับวิทยาลัยดุสิตธานี เฉพาะงานก่อสร้างเสาเข็มเจาะ มูลค่างานที่ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเงิน 10,700,000.00 บาท ระยะเวลาแล้วเสร็จ 60 วัน ซึ่งจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4 ของปี 2547 โครงการที่ 3 โครงการก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัย ถนนศรีนครินทร์ กทม. (ตรงข้ามโรงงานกรีนสปอต) บริษัทได้รับใบสั่งจ้างจาก บริษัท ก่อสร้างสหพันธ์ เฉพาะงานก่อสร้างเสาเข็มเจาะ มูลค่างานที่ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเงิน 13,516,800.00 บาท ระยะเวลาก่อสร้าง 90 วัน ซึ่งจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 1 ของปี 2548

โครงการที่ 4 ก่อสร้างอาคาร Service Apartment ถนนสุขุมวิท 33 กทม. ได้ลงนามสัญญากับ บริษัท ยูเอ็น เรสซิเด๊นท์ มูลค่างานที่ไม่รวม ภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเงิน 2,050,000.00 บาท ระยะเวลาแล้วเสร็จ 45 วัน ซึ่งจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4 ของปี 2547 โครงการที่ 5 โครงการอาคารชุดพักอาศัย 8 ชั้น ที่ถนนสุขุมวิท 31 กทม. ได้ลงนามสัญญากับ บริษัท บล๊อก ดีเวลลอปเม้นท์ มูลค่างานที่ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเงิน 5,881,700.00 บาท ระยะเวลาแล้วเสร็จ 60 วัน ซึ่งจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4 ของปี 2547 และ 6. โครงการอาคารอเนกประสงค์ โรงพยาบาลกรุงเทพ ซอยศูนย์วิจัย กทม. บริษัทได้ลงนามกับบริษัทกรุงเทพ ดุสิตเวชการ เฉพาะงานก่อสร้างเสาเข็ม เจาะ มูลค่างานที่ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเงิน 10,200,000.00 บาท ระยะเวลาแล้วเสร็จ 60 วัน ซึ่งจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4 ของปี 2547   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us