SNC เดินหน้าหาพันธมิตรต่างประเทศร่วมทุนธุรกิจแอร์ คาดสามารถปิดดีลร่วมทุน 3 รายได้ภายในปีนี้ ดันยอดขายโตก้าวกระโดด เผยขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไปภายในวันที่ 11-12 ตุลาคมนี้ ก่อนเปิดเทรดในวันที่ 21 ตุลาคม ส่วนแนวโน้มยอดขายในปีนี้คาดขยายตัว 100%

นายสมชัย ไทยสงวนวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ จำกัด (มหาชน) (SNC) เปิดเผยว่า นโยบายหลักของบริษัทยังคงให้ความสำคัญต่อการเป็นพันธมิตรร่วมลงทุนกับนักลงทุนต่างประเทศ เพื่อผลิตชิ้นส่วนแอร์ป้อนตลาดส่งออก โดยขณะนี้มีนักลงทุน 3 ราย จากสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และจีน ที่อยู่ระหว่างลงนามร่วมทุน คาดว่าจะสามารถ ได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ และจะทำให้ยอดขายชิ้นส่วน แอร์ของบริษัทโตแบบก้าวกระโดด โดยสัดส่วนการลงทุนจะอยู่ที่ 51 ต่อ 49

สำหรับการกระจายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชน ทั่วไป (ไอพีโอ) จำนวน 60 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1 บาท หรือคิดเป็น 30% ของทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท จะมีการเสนอขายระหว่างวันที่ 11-12 ตุลาคมนี้ และคาดว่าจะสามารถเข้าซื้อขายในตลาด หลักทรัพย์ได้ภายในวันที่ 21 ตุลาคม

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2547 คาดว่ารายได้จะขยายตัวเพิ่มขึ้น 100% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 470 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ที่มาจากกลุ่มผลิตชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศรถยนต์ 162 ล้านบาท กลุ่มชิ้นส่วน เครื่องปรับอากาศอาคาร 240 ล้านบาท และกลุ่มชิ้นส่วนระบบคอมเพรสเซอร์ 68 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2547 มียอดขาย 435 ล้านบาท

นายสมชัยกล่าวว่า การลงทุนในบริษัท เอส เอ็น ซี คอมพ์พาร์ท จำกัด ซึ่งทำธุรกิจผลิตชิ้นส่วนแบบเป็นชุดสำหรับเครื่องปรับอากาศภายในอาคารให้แก่ Mitsubishi Consumer เริ่มรับรู้รายได้ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา และการร่วมทุนกับบริษัทชั้นนำในการผลิตแอร์รถยนต์ในเกาหลี ที่มีสัดส่วนการถือหุ้นระหว่างบริษัทกับเกาหลี 51:49 ตั้งบริษัท เอส เอ็น ซี ไพยองซาน อีโวลูชั่น ซึ่งทำธุรกิจผลิตชิ้นส่วนสำหรับเครื่องปรับอากาศรถยนต์และในอาคาร คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ส่งผลให้แนวโน้มยอดขายของบริษัทในปี 2548 จะขยายตัวเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับปี 2547

"เรามั่นใจว่าหุ้นที่กระจายจะได้รับการตอบรับ จากนักลงทุน เนื่องจากแนวโน้มอุตสาหกรรมแอร์ยังมีโอกาสขยายตัวได้อีก และที่สำคัญชิ้นส่วนแอร์ที่เราผลิต ส่วนใหญ่จะเป็นการส่งออกไปต่างประเทศ โดยมีสัดส่วนกว่า 90% เมื่อเทียบกับขายในประเทศ 5-10% เท่านั้น"

นอกจากนี้ การที่รัฐบาลส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์ยานยนต์ในภูมิภาคอาเซียน (ดีทรอยต์ ออฟ เอเชีย) จะทำให้ความต้องการแอร์รถยนต์มากขึ้น โดยคาดว่าในปีนี้ยอดผลิตรถยนต์ในประเทศ จะอยู่ที่ 8 แสนคัน ส่วนปีหน้าคาดว่าจะเพิ่มเป็น 1 ล้านคัน ขณะที่การร่วมทุนกับบริษัทในเกาหลี ซึ่งเป็น บริษัทชั้นนำอันดับสองในเกาหลีที่มียอดขายรถสูงกว่าไทยถึง 5 เท่า หรือเฉลี่ยมีการผลิตรถยนต์ในเกาหลี 4 ล้านคันต่อปี จะผลักดันให้รายได้ของบริษัทเพิ่มตามมากรรมการผู้จัดการบริษัท เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ กล่าวอีกว่า นโยบายหลักของบริษัทให้ความสำคัญต่อการเป็นพันธมิตรกับนักลงทุนต่างประเทศเพื่อผลักดันยอดขายของบริษัท ซึ่งจะทำให้บริษัทมีความแข็งแกร่งขึ้น ส่วนเงินที่ได้จากการระดมทุนประมาณ 200-300 ล้านบาท บริษัทจะนำไปใช้ขยายไลน์การผลิต 35% เป็นเงินที่กันไว้สำหรับการร่วมทุนกับนักลงทุนต่างประเทศ 25% และเป็นเงินทุนหมุนเวียน 50% และจะพยายามรักษาสัดส่วน หนี้สินต่อทุนให้อยู่ในระดับ 1 เท่า