|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"เจมาร์ท" เดินหน้าเข้าตลาดหุ้น คาดเทรดได้ภายในเดือนธันวาคมนี้ พลิกแผนปรับราคาพาร์เหลือ 1 บาทต่อหุ้น จากเดิม 5 บาท หวังระดมเงินเป็นทุนหมุนเวียนและคืนหนี้ให้สถาบันการเงินบางส่วน
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เจ มาร์ท (มหาชน) เปิดเผยว่า การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นคาดว่าจะสามารถทำการซื้อขายได้ภายในเดือนธันวาคม โดยบริษัทได้ปรับราคามูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) จากเดิมกำหนดที่ 5 บาทต่อหุ้น เป็น 1 บาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับการซื้อขายหุ้น ซึ่งจะส่งผลให้หุ้นที่จะกระจายให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) เพิ่มเป็น 50 ล้านหุ้น จากเดิม 10 ล้านหุ้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาข้อมูลของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
สำหรับแผนการดำเนินงานของเจมาร์ทในปี 2547 บริษัทตั้งเป้าเพิ่มสาขาอีก 10 สาขา และหลังจากที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทมีแผนจะขยายสาขาเพิ่มอีก 40 สาขา ส่งผลให้มีสาขากระจายทั่วประเทศเพิ่มเป็น 250 สาขา จากปัจจุบันมีสาขาจำนวน 200 สาขาทั่วประเทศ โดยมีส่วนแบ่งตลาด (มาร์เกตแชร์) 10% และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 15% ในปี 2548
ก่อนหน้านี้เจมาร์ท แจ้งก.ล.ต. ว่า บริษัทมีทุนจดทะเบียนจำนวน 200 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 40 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 5 บาท และทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้ว 150 ล้านบาท หรือ 30 ล้านหุ้น การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ของบริษัท จำนวน 10 ล้านหุ้นคิดเป็นสัดส่วน 25% ของทุนจดทะเบียน ทั้งสิ้นของบริษัท โดยบริษัทจะเสนอขายต่อนักลงทุนทั่วไป จำนวน 980 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อกรรมการผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท จำนวน 0.20 ล้านหุ้น
ส่วนวัตถุประสงค์การระดมทุนครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และเพื่อใช้ชำระหนี้เงินกู้จากสถาบันการเงิน
สำหรับธุรกิจหลักของเจมาร์ท คือการจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์มือถือ และสินค้าประเภทเทคโนโลยีอื่นๆ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 90% ของรายได้รวม
นอกจากนี้ เจมาร์ท ยังได้ร่วมมือกับ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ จำกัด (มหาชน) เปิดบริการใหม่ล่าสุด "เจมาร์ท เพย์ พ้อยท์" (Jay Mart Pay Point) เพื่อให้บริการรับชำระค่าสินค้าและบริการ ต่าง ๆ โดยผู้ที่มาใช้บริการเจ มาร์ท เพย์ พ้อยท์ สามารถนำใบเสร็จการ ชำระค่าสินค้าและบริการมารับสิทธิพิเศษในการซื้ออุปกรณ์เสริม Jay Mart Accessories โดยจะได้รับส่วนลด 15% และส่วนลด 10% สำหรับการซื้ออุปกรณ์เสริมของแท้ของโนเกีย โมโตโรล่า และซีเมนส์
นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า การเปิดบริการ เจมาร์ท เพย์ พ้อยท์ ทำให้บริษัทเราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น เพราะในปัจจุบันหลายคนต้องเสียเวลากับการเดินทางเพื่อไปชำระค่าสินค้าและบริการต่างๆ ซึ่งในหลายครั้งไม่สะดวก ด้วยสาขาของร้านเจมาร์ท ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 200 แห่ง ซึ่งรวมถึงร้านเจมาร์ทบนเส้นทางรถไฟฟ้าบีทีเอส
ทั้งนี้ ในช่วงแรกจะเปิดให้บริการใน 100 สาขา โดยสามารถสังเกตได้จากสัญลักษณ์ เจมาร์ท เพย์ พ้อยท์ ลูกค้าสามารถแวะเข้ามาชำระเงินค่าสินค้า และบริการต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยคาดว่าในช่วง 3 เดือนแรกของการเปิดบริการจะมีผู้มาใช้บริการถึง 1 แสนราย
นายมาซาโอะ มิซูโน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (AEONTS )กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้รับความไว้วางใจจาก เจมาร์ท มาร่วม เปิดเจมาร์ท เพย์ พ้อยท์ในครั้งนี้ ด้วยความเชี่ยวชาญ และความเป็นมืออาชีพด้านการรับชำระค่าสินค้า และบริการแบบผ่อนจ่าย จึงทำให้มั่นใจว่าลูกค้าทั้งของอิออน และเจมาร์ท จะได้รับบริการ ที่สะดวก รวดเร็ว และแม่นยำ
|
|
|
|
|