เซ็นทรัลพัฒนาเร่งเครื่อง มั่นใจเปิดอาคารสำนักงานได้ปลายปีนี้ พร้อมทั้งเตรียมปรับปรุงโฉมศูนย์การค้าใหม่ เผยมี 10 กว่าร้านค้าที่ยังดื้อไม่เปลี่ยนแปลง มั่นใจไม่ร้ายแรง ล่าสุดทุ่ม 260 ล้านบาท ทำสกายวอล์ก หวังดึงคนเข้าศูนย์จาก 2 สถานีรถไฟฟ้าสยามและชิดลม
นายกอบชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการเซ็นทรัล เวิลด์ พลาซาว่า ขณะนี้ ในส่วนของอาคารสำนักงานก่อสร้างโครงสร้างแล้วเสร็จ คาดว่าภายในเดือนตุลาคมนี้จะสามารถเปิดใช้งานได้ซึ่งเป็นไปตามแผนงาน ที่กำหนดไว้ตั้งแต่แรก เวลานี้มีบางบริษัทที่อยู่ระหว่างการตกแต่งพื้นที่ภายในแล้ว
ทั้งนี้ มีผู้เข้ามาเช่าพื้นที่แล้วประมาณ 40% ของพื้นที่ทั้งหมด เช่น บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรีอยุธยา กิมเอ็ง เป็นต้น โดยจะมีผู้ที่รับผิดชอบในการขายพื้นที่ 3 รายคือ ซีพีเอ็น โจนส์แลง ริชาร์ดเอลลิส
นอกจากนั้น ในส่วนของศูนย์การค้าก็มีแผนที่จะปรับปรุงใหม่ทั้งหมด แต่แบ่งเป็นโซนตามความเหมาะสม ซึ่งอาจจะมีการสร้างเป็นสกายไลต์เพื่อให้เหมือนกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลสาขาอื่นที่เป็นจุดเด่นของซีพีเอ็นไปแล้ว เพื่อสร้างบรรยากาศการชอปปิ้ง
ขณะนี้มีผู้เช่าประมาณ 10 กว่ารายที่ยังไม่ตกลงที่จะย้ายทำเลหรือจะมีการเปลี่ยนแปลงการตกแต่งเพื่อให้เป็นไปตามคอนเซ็ปต์ของศูนย์ แต่คาดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรเพราะเป็นจำนวนที่น้อย แต่เมื่อทั้งศูนย์หรือว่าร้านอื่นมีการปรับก็จะทำให้เกิดความแตกต่างกันเอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านค้าที่ไม่มีสาขาในศูนย์อื่นจึงทำให้ไม่คุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลง
นอกจากนั้นแล้วยังอยู่ระหว่างการปรับปรุงห้าง ZEN ด้วยการเพิ่มพื้นที่บริการซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างพื้นที่ด้านหน้าเพิ่มเติม คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการสมบูรณ์แบบภายในปี 2548
ทั้งนี้หลังจากที่ปรับปรุงทั้งศูนย์หมดแล้ว จะทำให้มีพื้นที่บริการเพิ่มขึ้นเป็น 241,000 ตารางเมตร จากเดิมที่มีเพียง 70,000 ตารางเมตร
นายกอบชัยกล่าวด้วยว่า ล่าสุดบริษัทได้ลงทุนประมาณ 260 ล้านบาท ในการก่อสร้างสกายวอล์ก เป็นทางเชื่อมระหว่างสถานีรถไฟฟ้าชิดลม และสถานีสยามและอาคารสำนักงานเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดใช้บริการได้ภายในเดือนธันวาคมนี้ โดยมอบหมายให้บริษัท PKET จำกัด เป็นผู้รับผิดชอบ โดยขนาดของสกายวอล์กมีความกว้าง 7.5 เมตร ความยาว 513 เมตร เพื่อสร้างความสะดวกสบายแก่ผู้คนที่จะเดินทางสัญจรในบริเวณดังกล่าว
อีกทั้งยังเป็นการดึงคนเข้ามาเดินในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์พลาซาอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันนี้มีคนเดินเข้าศูนย์ประมาณ 80,000 คนต่อวัน โดยหลังจากมีทางเดินเชื่อมนี้แล้วคาดว่าจะเพิ่มจำนวนคนขึ้นอีกประมาณ 20-30% ต่อวัน ทั้งนี้ จากตัวเลขของรถไฟฟ้าบีทีเอสระบุว่า สถานีชิดลมมีผู้เดินเข้าออกประมาณ 35,000 คนต่อวัน ส่วนสถานีสยามมีประมาณ 50,000 คนต่อวัน
สกายวอล์กจะเป็นจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของโครงการเซ็นทรัลเวิลด์ เพราะเป็นจุดเชื่อมของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ บริเวณชั้น 2 ของห้าง ZEN เพื่อให้ลูกค้าเกิดความสะดวกและยังเข้าถึงในส่วนของอาคารสำนักงานบริเวณชั้น 3 สร้างความสะดวกแก่พนักงานในการเดินทางมาทำงาน
สำหรับโครงการเซ็นทรัลเวิลด์พลาซานี้รวมทั้งหมดทุกส่วนจะมีมูลค่าประมาณ 15,000 ล้านบาท แบ่งเป็นศูนย์การค้า 10,000 ล้านบาทและโรงแรม 5,000 ล้านบาท
นายกอบชัยกล่าวถึงธุรกิจค้าปลีกโดยรวมด้วยว่า กฎหมายผังเมืองยังไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ธุรกิจค้าปลีกของไทยอาจจะหยุดชะงักจากนี้ เนื่องจากในช่วง 1 ปีมานี้ไม่มีโครงการที่เกิดขึ้นใหม่ อันเนื่องมาจากกฎหมายผังเมืองที่ประกาศใช้นวัตกรรมใหม่ๆ จะชะงักไปด้วย ซึ่งจะมีการร่วมมือกันศึกษารายละเอียดกับทางทีมงานของภาครัฐอีกครั้งเพื่อให้กำหนดมาตรการใหม่
|