อิออนฯ เดินหน้าเพิ่มฐานลูกค้าบัตรเครดิต ไม่หวั่นธปท. ออกกฎเหล็กคุมธุรกิจ คาดลูกค้าเพิ่มจาก 1.3 ล้านบัตร เป็น 1.6 ล้านบัตร ภายในปีนี้ ขณะที่หนี้เน่ามีแค่ 2.6%

นายมาซาโอะ มิซูโน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) (AEONTS) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าในปีนี้จะมีลูกค้าที่ถือบัตรเครดิตอิออนเพิ่มขึ้นเป็น 1.6 ล้านบัตร จากปัจจุบันมีลูกค้าบัตรเครดิตจำนวน 1.3 ล้านบัตร

สำหรับสัดส่วนของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) คาดว่าในปีนี้จะลดลงเหลือ 2.6% ลดลงจากปีที่ผ่านมาที่มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ประมาณ 2.8% และคาดว่าจะรักษาระดับนี้ต่อไป ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำมากเมื่อเทียบกับระบบ

นายมาซาโอะกล่าวว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 5 สาขาทั่วประเทศ จากปัจจุบันที่มีอยู่ 60 สาขา ซึ่งปัจจุบันอิออนฯ มีตู้เอทีเอ็ม ที่ลูกค้าสามารถกดเงินได้หลังจากกู้เงินแล้ว 240 ตู้ ซึ่งเป็นการขยายช่องทางในการเพิ่มฐานลูกค้า และการให้บริการมากขึ้น

สำหรับสัดส่วนลูกค้าของ AEONTS แบ่งเป็นลูกค้าเช่าซื้อสินค้า ซึ่งรวมถึงโทรศัพท์มือถือด้วยอยู่ที่ประมาณ 40% ลูกค้าสินเชื่อส่วนบุคคล ประมาณ 15% และลูกค้าบัตรเครดิตประมาณ 50%

นายมาซาโอะกล่าวถึงกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกกฎเพื่อควบคุมธุรกิจบัตรดิตว่า ส่งผลให้บริษัทต้องปรับตัวมากขึ้น โดยบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการสำรวจความต้องการของลูกค้า และเน้นการให้บริการที่ดีที่สุด

ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 2 ของปีนี้ สิ้นสุดวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรสุทธิ 198.34 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.79 บาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 159.47 ล้านบาท

ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกของปี 2547 มีกำไรสุทธิ 357.44 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 1.43 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 274.02 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.10 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง ออกบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานหุ้น AEONTS โดยระบุว่า ประมาณการกำไรสุทธิในปี 2547 คาดว่าจะอยู่ที่ 730 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากสินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการขยายสาขา และฐานลูกค้าต่างจังหวัดมากขึ้น ทำให้ความสามารถในการทำกำไรมีสูง

ทั้งนี้ คาดว่าอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) จะอยู่ที่ 33% ขณะที่อัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E ratio) จะปรับตัวลดลงเหลือที่ระดับ 5-6:1 หลังจากมีการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ (Securitization)

บล.กิมเอ็งระบุว่า AEONTS จะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากฐานลูกค้าที่กว้าง และผลกระทบจากมาตรการของภาครัฐในการควบคุมหนี้สินในภาคครัวเรือนจะมีผลกระทบกับบริษัทน้อยกว่าผู้ประกอบการรายอื่นๆ เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายบริษัทอยู่ในระดับกลางถึงล่าง