|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"WORK" พร้อมลุยไฟท่ามกลางดัชนีขาลง บอร์ดประกาศปันผล 0.60 บาทอุ้มหุ้น พร้อมโชว์กำไรงวดครึ่งปี 95 ล้านบาท ด้านที่ปรึกษาทางการเงินมั่นใจพื้นฐานแน่น ชูจุดเด่นความสามารถผู้บริหาร นอกจากนั้นหวังสถาบันไล่เก็บในกระดานหลังจองล้น 10 เท่า ตลท.รับ TKT เทรดต่อวันที่ 30 ก.ย.
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย ประธานศูนย์ระดมทุนและตลาดหลักทรัพย์ใหม่ เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้อนุมัติรับหลักทรัพย์ของบริษัทเวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หลักทรัพย์ ของ บมจ.เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จะเข้าซื้อขายในกลุ่มบริการ หมวดบันเทิงและสันทนาการใช้ชื่อย่อว่า WORK
WORK มีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว 200 ล้านบาท ประกอบด้วย หุ้นสามัญเดิม 160 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 40 ล้านหุ้น (เท่ากับร้อยละ 20 ของหุ้นทั้งหมด) มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ซึ่งระหว่าง วันที่ 20-22 ก.ย. ที่ผ่านมา บริษัท ได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนรวม 38 ล้านหุ้น แก่ประชาชนทั่วไป รวมถึงกรรมการผู้บริหารและพนักงาน ในราคาหุ้นละ 15 บาท
สำหรับหุ้นเพิ่มทุนอีก 2 ล้านหุ้น ได้เสนอขายแก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานในราคาหุ้นละ 5 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ธนชาติ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ทั้งนี้ WORK มีแผนจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนประมาณ 580 ล้านบาท ไปลงทุนสร้างสตูดิโอและสำนักงานแห่งใหม่ขยายธุรกิจ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายใน
ในงวด 6 เดือนแรกของปี 2547 WORK มีรายได้รวม 412 ล้านบาท กำไรสุทธิ 95 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 23 ของรายได้รวม
นอกจากนั้น คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้อนุมัติรับหลักทรัพย์ของบริษัท ที.กรุงไทยอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2547 ในกลุ่มวัตถุดิบ และสินค้าอุตสาหกรรม หมวดยานพาหนะและอุปกรณ์ ในชื่อย่อว่า TKT
ด้านนายพงษ์กาญจน์ จันทรางกูร ผู้จัดการทั่วไป บริษัทเวิร์คพอยท์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการมีมติให้จ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการเข้าร่วมประชุมและรับเงินปันผลในวันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม 2547 เวลา 12.00 น. จนกว่าการประชุมจะแล้วเสร็จ และกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 4/2547 ในวันพุธที่ 10 พฤศจิกายน
นายครรชิต ควะชาติ ผู้อำนวยการฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาติ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินหุ้นบริษัทเวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ เปิดเผยว่า แม้ภาวะความผันผวนของดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจจะส่งผลต่อการซื้อขายหุ้นในเรื่องราคาบ้าง แต่ยังเชื่อมั่นในเรื่องปัจจัยพื้นฐานของบริษัท และการที่มีการจองล้นกว่า 10 เท่าของนักลงทุนสถาบันในช่วงเสนอขายก็อาจจะมีการมาซื้อในช่วงที่เข้าซื้อขายเป็นวันแรกก็ได้
ทั้งนี้ จุดเด่นที่สำคัญของบริษัทเรื่องความสามารถของผู้บริหาร ทำให้ขณะนี้มีรายการ 6-7 รายที่สามารถขายโฆษณาได้เต็มจำนวนซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัท
นางสาวสุทธาทิพย์ พีรทรัพย์ ของบล.กิมเอ็ง กล่าวว่า ราคาเป้าหมาย 12 เดือนข้างหน้าที่ 18.13 บาท เมื่ออิงค่า P/E Ratio ที่ 17 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มบันเทิง (ไม่นับรวม RS) เพราะมองว่า WORK มีพื้นฐานแข็งแกร่งทั้งฐานะทางการเงินและศักยภาพการเติบโต โดยเฉพาะจุดแข็งในเรื่องอัตราผลตอบแทนเทียบสินทรัพย์ และอัตราผลตอบแทนเทียบจำนวนหุ้นที่สูงกว่าบริษัทต่างๆ ในกลุ่มบันเทิง พร้อมเชื่อซื้อขายวันแรกน่าจะสามารถยืนเหนือราคาจองได้แม้ภาวะตลาดหุ้นช่วงนี้จะปรับลงก็ตาม
ทั้งนี้ ทั้งปีบริษัทเวิร์คพอยท์ น่าจะทำกำไรได้ 213 ล้านบาท หรือขยายตัวขึ้น 96% จากปีที่ผ่านมาโดยประเมินรายได้ทั้งปีบริษัท 885 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 42% จากการปรับขึ้นค่าโฆษณา และการได้เวลาผลิตรายการใหม่เพิ่ม และสามารถรับรู้รายได้จากรายการที่ผลิตเพิ่มขึ้น ในส่วนปีหน้า โดยมองว่ากำไรน่าจะขยายตัวเป็น 266 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัทยังจะสามารถขยายฐานรายได้จากนิตยสารและพ็อกเกตบุ๊กเพิ่ม
นางสาวเรณู บรรดาศักดิ์ จาก บล.กรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า จุดเด่นที่สำคัญของบริษัท เวิร์คพอยท์ เรื่องกำไรขั้นต้น (Gross Margin) ที่มากกว่าบริษัทที่ผลิตรายการโทรทัศน์ด้วยกันโดยกำไรขั้นต้นของ WORK อยู่ที่ 50% ไม่ว่าจะเป็น GMMM,MEDIAS ประมาณ 43%, MATCH (บมจ.แม็ทชิ่ง สตูดิโอ) ประมาณ 34% , หรือบีอีซี เทโร ประมาณ 28%
ทั้งนี้ ประเมินราคาเป้าหมายใน 12 เดือน ข้างหน้า ไว้ที่ 17.20 บาทต่อหุ้น เนื่องจากอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้นของ WORK อยู่สูงกว่ากลุ่ม ขณะที่บริษัทก็มีศักยภาพการเติบโตในระยะยาว
ด้านบทวิเคราะห์บล.ยูไนเต็ด แนะ "ซื้อ" หุ้น WORK โดยมีราคาเป้าหมาย 17.91 บาท มีส่วนต่าง จากราคา IPO 15 บาท ประมาณ 19.4% และมี ผลตอบแทนเงินปันผลจากการลงทุนระยะสั้นที่ 0.6 บาท/หุ้น ซึ่ง WORK ประกาศวัน XD ในเดือน ต.ค. 47
ส่วนบทวิเคราะห์บล.นครหลวงไทย ให้ราคาเป้าหมายปีนี้ของ WORK ที่ 17.50 บาท ส่วน ปีหน้าราคาเป้าหมายอยู่ที่ 22 บาท
|
|
|
|
|