Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน27 กันยายน 2547
TMBลุยปล่อยกู้สุวรรณภูมิ             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารทหารไทย

   
search resources

ธนาคารทหารไทย
Banking




แบงก์ทหารไทยวางยุทธศาสตร์ ขยายธุรกิจใช้จุดแข็งของ 3 ธนาคาร รุกตลาดมุ่งปล่อยกู้ระบบสาธารณูปโภค SME และบัตรเครดิต ล่าสุดอนุมัติเงิน 1,700 ล้านบาท สร้างโรงแรมสนามบินสุวรรณภูมิ เผยเป้าหมายยอดบัตรเครดิต 2.4 แสนใบ ส่วนหนี้เสียปี 48 จะเหลือ 5% มั่นใจปีหน้าล้างขาดทุนสะสม 60,000 ล้านบาท พร้อมสร้างมูลค่าหุ้นจ่ายเงินปันผลได้ พร้อมทุ่ม 600 ล้านบาท เชื่อมระบบไอที IFCT-DTDB

หลังจากที่ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) (TMB) ได้เป็นแกนในการควบรวมกิจการกับธนาคารดีบีเอสไทยทนุ (DTDB) และบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (IFCT) โดยมีเป้าหมายเป็นธนาคารครบวงจรนั้น นายสุภัค ศิวะรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ TMB กล่าวว่าขณะนี้ธนาคารจะอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างองค์กร และขยายธุรกิจควบคู่กันไป ทั้งนี้ จะมีการเชื่อมและอาศัยจุดแข็งของทั้ง 3 ธนาคารเป็นกลยุทธ์หลักในการรุกตลาด

นายสุภัคเปิดเผยว่า ปี 2548 แนวทางของธนาคารทหารไทยจะเน้นทำตลาดใน 3 ด้าน คือ สนับสนุนผู้รับเหมาในการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคของภาครัฐ เนื่องจากตามนโยบายของรัฐบาลจะมีการลงทุนพัฒนาระบบสาธารณูปโภคอีก 5 แสนล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้ธนาคารมีฐานลูกค้าสินเชื่อผู้รับเหมาอยู่แล้ว เช่น บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (STECO) หรือแม้แต่การปล่อยสินเชื่อให้แก่บริษัท กัลฟ์ พาวเวอร์ เจเนอเรชั่น จำกัด วงเงิน 7,000 ล้านบาท ซึ่งเดิมบริษัทฯจะก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่บ่อนอก แต่ติดปัญหาในเรื่องการก่อสร้าง รัฐบาลจึงให้นโยบายไปก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ที่แก่งคอย จ.สระบุรี โดยรัฐบาลได้เพิ่มเพดานผลิตไฟฟ้าจาก 700 เมกะวัตต์ เป็น 1,400 เมกะวัตต์

ล่าสุดวันนี้ (27 ก.ย.) ธนาคารทหารไทยจะลงนามสัญญาสนับสนุนสินเชื่อก่อสร้างโครงการโรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิวงเงินกว่า 1,700 ล้านบาท เป็นโครงการโรงแรมระดับ 4 ดาว ขนาด 600 ห้อง

ในส่วนของธุรกิจวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ธนาคารจะใช้จุดเด่นของ IFCT มาเป็นฐานเพื่อดึงลูกค้า SME มาใช้ผลิตภัณฑ์ของธนาคารให้ครบวงจรยิ่งขึ้น เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาด้วยข้อจำกัดของ IFCT ทำให้การขยายธุรกรรมทำได้ลำบาก แต่ขณะนี้ธนาคาร ทหารไทยสามารถเสนอบริการที่หลากหลายให้กับลูกค้ากลุ่มนี้ได้กว้างขึ้น เช่น การใช้สินเชื่อวงเงินโอ/ดี เป็นต้น

"จุดเด่นอยู่อย่างของ IFCT จะมีการส่งเสริมและอบรมให้กับลูกค้า SME มาโดยตลอด ทั้งเรื่องการจัดทำระบบบัญชีที่ให้ได้มาตรฐาน นอกจากนี้ หากลูกค้าต้องการวงเงินในการขยายธุรกิจเพิ่มเติม อย่าลืมว่า IFCT ยังมีวงเงินช่วยเหลือจากธนาคารโลกอยู่ ทำให้สามารถปล่อยสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำได้"

นายสุภัคกล่าวว่า ในส่วนของฐานลูกค้ารายย่อย ธนาคารจะอาศัยประโยชน์จากลูกค้าทั้งหมดของธนาคารมาทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด เนื่องจากขณะนี้ธนาคารมียอดบัญชีเงินฝากประมาณ 4 ล้านบัญชี (อายุเฉลี่ยส่วนใหญ่ 25-35 ปี) แต่ปริมาณการใช้ผลิตภัณฑ์หรือสินเชื่อของลูกค้ายังมีน้อย (Cost Sale) ประมาณ 2 แสนรายที่ใช้สินเชื่อของธนาคาร หรือลูกค้า 1 รายใช้ผลิตภัณฑ์ของธนาคารเพียง 1.1 ขณะที่ธนาคาร พาณิชย์อื่นลูกค้ามีการใช้ผลิตภัณฑ์ถึง 1.5 จะเห็นได้ว่าทั้งของธนาคารและธนาคารอื่นหากเทียบกับธนาคารต่างประเทศแล้วยังน้อยอยู่ ซึ่งในต่างประเทศจะใช้ผลิตภัณฑ์สูงถึง 2 กว่า

นอกจากนี้ ธนาคารจะพยายามฐานลูกค้าบัตรเครดิตมากขึ้น จากที่มีอยู่ประมาณ 120,000 ใบเพิ่มให้ได้อีก 1 เท่าหรือประมาณ 240,000 ใบ แต่หากเทียบกับฐานบัตรเครดิตของธนาคารกสิกรไทย (TFB) จะอยู่ที่ 600,000 ใบ นับว่าของธนาคารทหารไทยยังน้อยอยู่

ปีหน้าเห็น NPL ลดฮวบ

นายสุภัคกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ว่า ธนาคารให้ความสำคัญกับการจัดการหนี้อย่างมาก โดยพยายามจะเข้าไปช่วยเหลือลูกค้าที่มีปัญหาให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ และได้ตั้งเป้าปี 48 จะลดตัวเลข NPL จากระดับ 10% หรือ 50,000 ล้านบาท ลงมาเหลือ 5% ในปีหน้า ซึ่งโครงสร้างลูกหนี้ส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจ SME ที่เหลือจะเป็นลูกหนี้บุคคลประมาณ 14,000-15,000 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 10,500 ราย

"เรื่อง NPL ธนาคารจะพยายามคุยแบบเบ็ดเสร็จให้จบทีเดียว อย่างการให้รีไฟแนนซ์ไปยังธนาคารพาณิชย์อื่นหรือการขายหนี้ออกไป" นายสุภัคกล่าว

ขณะเดียวกัน ธนาคารได้เตรียมแผนที่จะล้างตัวเลขขาดทุนสะสมจำนวน 60,000 ล้านบาท หมดแน่ภายในปี 48 ซึ่งแนวทางชัดเจนแล้วและจะสามารถจ่ายเงินปันผลได้ในปีหน้า "ผมคุยกับผู้ใหญ่แล้ว เห็นด้วยแต่พูดไม่ได้"

ปัจจุบันธนาคารมีส่วนล้ำมูลค่าหุ้นประมาณ 5,000 ล้านบาท นายสุภัคกล่าวว่าในส่วนของการเชื่อมระบบการบริหารภายใน ธนาคารคงต้องมีการปรับเปลี่ยนระบบของ IFCT และ DTDB ใหม่ เพื่อให้สามารถทำงานเข้ากับระบบของธนาคารทหารไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ธนาคารทหารไทยได้ลงทุนระบบสารสนเทศไปกว่า 2,500 ล้านบาท และในส่วนที่ต้องปรับปรุงของ 2 ธนาคารอีกประมาณ 600 ล้านบาท คาดว่าภายในเดือนตุลาคมนี้จะเชื่อมระบบได้ทั้งหมด

"เราต้องมีการปรับเปลี่ยนพนักงานให้เข้ากับระบบงาน เราไม่สามารถหยุดนิ่งกับที่ได้ โดยแนวทางการให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเป็นสิ่งที่กระทำได้ รวมถึงการจัดฝึกอบรมพนักงานใน ด้านต่างๆ รวมถึงอาจต้องเพิ่มพนักงาน เนื่อง จากขณะนี้จำนวนพนักงานของธนาคารมีเพียง 8,500 คน แต่เทียบกับขนาดของธนาคารไทยพาณิชย์แล้วซึ่งใกล้เคียงกัน มีพนักงานกว่า 10,000 คน"   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us