|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
CENTEL เดินหน้าขยายธุรกิจโรงแรมตามแผน 5 ปี ที่ประเมินว่าภายในปี 2551 รายได้จะถีบตัวสูงขึ้นเป็น 8 พันล้านบาท หลังเปิดตัวโรงแรม 4 แห่ง เล็งผุดโรงแรมหรูในลาว และกัมพูชาเพื่อหวังดันรายได้ ส่วนแนวทางการดำเนินงานในไตรมาส 3 คาดเพิ่มขึ้นกว่า 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้ทั้งปีขยับขึ้นเป็น 5 พันล้านบาท
นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) (CENTEL) เปิดเผยว่า ตามแผนการดำเนินธุรกิจ 5 ปีของบริษัทสำหรับธุรกิจในกลุ่มโรงแรม ระหว่างปี 2546-2551 บริษัทจะมีการลงทุนก่อสร้างโรงแรม 4 แห่งประกอบด้วยโรงแรมเซ็นทรัล กระบี่ เบย์รีสอร์ท ศูนย์ประชุมเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯโรงแรม เซ็นทรัลวงศ์อมาตย์ บีส รีสอร์ท พัทยา และโรงแรมเซ็นทรัล บีช รีสอร์ท ภูเก็ต ซึ่งทั้งหมดจะเปิดดำเนินการได้ในปี 2551 ซึ่งจะส่งผลให้ในปีดังกล่าวบริษัท จะมีรายได้แบบก้าวกระโดด โดยประเมินว่าภาพรวมของรายได้ของบริษัทจะเพิ่มเป็น 8 พันล้านบาท ภายในปี 2551 ซึ่งรวมกับการขยายตัวในส่วนของธุรกิจอาหารด้วย
สำหรับโรงแรมเซ็นทรัลกระบี่เบย์รีสอร์ท เป็นโรงแรมมาตรฐาน 5 ดาว ห้องพักจำนวน 200 ห้อง คาดว่าจะเปิดได้ภายในเดือนตุลาคม 2548 โรงแรมและศูนย์ประชุมเซ็นทรัล เวิลด์ กรุงเทพฯ มาตรฐาน 5 ดาว ห้องพักจำนวน 512 ห้อง คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในปี 2551 โรงแรมเซ็นทรัลวงศ์อมาตย์ บีชรีสอร์ท พัทยา มาตรฐาน 5 ดาว ห้องพักจำนวน 470 ห้อง คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในปี 2551 และเซ็นทรัลภูเก็ต บีชรีสอร์ท ภูเก็ต มาตรฐาน 5 ดาว ห้องพักจำนวน 308 ห้อง คาดว่าจะเปิดตัวได้ในปี 2552
นอกเหนือจากการเปิดตัวโรงแรมไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศแล้ว บริษัทยังมีแผนลงทุนในต่างประเทศ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดการเข้า ไปลงทุนในประเทศลาว และกัมพูชา ส่วนความคืบหน้าในการเข้าไปประมูล เพื่อบริหารโรงแรมในโครงการสนามบินสุวรรณภูมิ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอการประกาศผลรายชื่อบริษัทที่ผ่าน การประมูล ซึ่งมีบริษัทประมาณ 5 แห่งที่ยื่นซองแข่งขัน
ส่วนโครงสร้างแหล่งเงินทุนในการขยายธุรกิจโรงแรมทั้ง 4 แห่ง มีมูลค่าการลงทุนกว่า 8 พันล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากการกู้เงินจากสถาบันการเงินประมาณ 4 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือบางส่วนมาจากการออกพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ และจากเงินทุนหมุนเวียน เนื่องจากบริษัทมีนโยบายรักษาสัดส่วนหนี้สินต่อทุนไม่เกิน 1:1 ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วน 0.94 เท่า
สำหรับแผนการดำเนินงานระหว่างปี 2548-2551 ของธุรกิจอาหาร ตั้งเป้าที่จะขยายสาขาเพิ่มขึ้นปีละ 30 สาขา ซึ่งจะทำให้ในปี 2550 จะมีสาขารวมทั้งสิ้น 431 สาขา โดยยอดขายจะเพิ่มขึ้น 7-10% โดยธุรกิจอาหารประกอบด้วย มิสเตอร์ โดนัท,เคเอฟซี,พิซซ่าฮัท,บาสกิน รอบบิ้น,Auntie Anne's และสเต๊ก ฮันเตอร์
นายรณชิต กล่าวว่า แนวโน้มผล การดำเนินงานในไตรมาส 3 ของบริษัท คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้เกิน กว่า 5 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแบ่งเป็นรายได้ที่มาจากธุรกิจอาหาร 58-60% ส่วนที่เหลือจะเป็นธุรกิจโรงแรม
"ในส่วนของกลุ่มธุรกิจอาหาร จะมีการขยายสาขาต่อเนื่อง และจะมีการนำอาหารแบรนด์ใหม่มาเปิดตลาดเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีสินค้าในกลุ่มอาหารอยู่ทั้งหมด 6 แบรนด์"
ส่วนผลการดำเนินงาน CENTEL ในไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2547 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 89.57 ล้านบาท หรือ 0.50 บาทต่อหุ้น จากขาดทุนสุทธิ 305 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก มีกำไรสุทธิ 226.85 ล้านบาท หรือ 1.26 บาทต่อหุ้น จากกำไร 91.92 ล้านบาท หรือ 0.51 บาท ต่อหุ้นในงวดเดียวกันปี 2546
|
|
 |
|
|