Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน27 กันยายน 2547
"เฟรชมาร์ท" ขอแจ้งเกิดธุรกิจอสังหาฯปั้นแบรนด์นรินทร์ภิรมย์ทดสอบตลาด             
 


   
www resources

โฮมเพจ เฟรชมาร์ท อินเตอร์เนชั่นแนล

   
search resources

Real Estate
เฟรชมาร์ท อินเตอร์เนชั่นแนล, บมจ.




ร้านสะดวกซื้อ "เฟรชมาร์ท" น้องใหม่ขอแจ้งเกิดในวงการอสังหาฯ ซุ่มรุกธุรกิจบ้านจัดสรร หวังสร้างตัวเลขรายได้ให้สวย ก่อนเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯพร้อมเปิดตัวโครงการแรกภายใต้แบรนด์ "นรินทร์ภิรมย์" มูลค่า 50 ล้านบาท เจาะกลุ่มวัยทำงาน พร้อมกว้านซื้อที่ย่านสายไหม รอผุดโครงการ 2 อีก 200 หลัง

ถึงแม้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันจะอยู่ในช่วงชะลอตัว เนื่องจากความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์กับอุปทานในบางตลาด อย่างเช่น ตลาดคอนโดมิเนียม หรือตลาดบ้านระดับหรู (ไฮเอนด์) ที่บางทำเล มีการลงทุนเปิดโครงการจำนวนมาก ขณะที่กำลังซื้อในทำเลนั้นๆ มีข้อจำกัดอยู่ ขณะที่โครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภททาวน์เฮาส์ ยังมีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการบางรายเห็นโอกาสเข้ามาทำตลาดในส่วนนี้

นางสาวนรินทร์ จิยารมณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟรชมาร์ท อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อ "เฟรชมาร์ท" เปิดเผย "ผู้จัดการรายวัน" ว่า ขณะนี้บริษัทได้ขยายไลน์ไปสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจใหม่ โดยได้ลงทุนเปิดโครงการใหม่ ภายใต้ชื่อโครงการ "นรินทร์ ภิรมย์" รูปแบบทาวน์เฮาส์ ซึ่งจุดมุ่งหมายของการขยายธุรกิจ เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัท และสร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มนักลงทุนก่อนที่บริษัทจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ใน อีก 1-2 ปีข้างหน้า โดยต่อไปธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเป็นธุรกิจที่สร้างผลกำไรและรายได้หลักให้กับบริษัท

"ที่ผ่านมาธุรกิจร้านสะดวกซื้อเฟรชมาร์ท ไม่ได้คิดค่าส่วนแบ่งยอดขายของผู้ซื้อแฟรนไชส์เลย กำไรที่ได้จึงมาจากช่วงเริ่มแรกที่ขาย แฟรนไชส์เท่านั้น และรายได้แต่ละปีก็ไม่มากด้วย เฉลี่ยปีละ 100 ล้านบาทเท่านั้น ในขณะที่ธุรกิจบ้านจัดสรรสามารถสร้างเม็ดเงินและกำไรได้ทันที โดยมองว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังมีช่องว่างที่เติบโตได้อยู่ โดยเฉพาะตลาดประเภททาวน์เฮาส์ที่ยังมีผู้ทำตลาดน้อย เพราะช่วงปีที่ผ่านมา ตลาดบ้านเดี่ยวขยายตัวมากและมีอัตราการเติบโตสูงจนเกือบถึงขั้นอิ่มตัวแล้ว จึงเชื่อว่าตลาดทาวน์เฮาส์จะเติบโตแทนที่ และมีผู้ประกอบการหันมาให้ความสนใจในตลาดนี้มากขึ้นในปีหน้า อาทิ กลุ่มปริญสิริ ก็เริ่มหันมาขยายบ้านทาวน์เฮาส์มีโครงการแรก ถึง 200 หลัง" นางสาวนรินทร์กล่าว

สำหรับรายละเอียดโครงการนรินทร์ภิรมย์ จะมีจำนวน 29 หลัง ตั้งอยู่บนพื้นที่ย่านคู้บอน ถนนรามอินทรา มีมูลค่าโครงการประมาณ 50 ล้านบาท ราคาขายเบื้องต้น 1.55 ล้านบาท ขณะนี้เริ่มก่อสร้างไปบ้างแล้วคาดว่าจะก่อสร้างเสร็จในเดือนมีนาคม 2548 โดยจะเปิดตัวโครงการ และเริ่มการขายประมาณเดือนพ.ย.-ธ.ค.2547

"กลุ่มเป้าหมายจะเป็นวัยทำงาน ที่มีอายุงานตั้งแต่ 5 ปี อายุเฉลี่ย 27 ปีขึ้นไป ซึ่งกลุ่มนี้จะมีระดับเงินเดือน ประมาณ 12,000 บาท ก็สามารถผ่อน บ้านได้แล้ว หรือกลุ่มครอบครัวขนาดเล็กที่ไม่ต้องการบ้านหลังใหญ่ ก็ยังเป็นกลุ่มที่มีช่องว่างให้เจาะเข้าไปได้" นางสาวนรินทร์กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะลงทุนในโครงการ 2 รูปแบบทาวน์เฮาส์ จำนวน 200 หลัง ทำเลย่านสายไหม บนพื้นที่ 17 ไร่ แต่จะต้องรอดูผลของโครงการแรกก่อน หากสามารถขายให้หมดโครงการภายใน 1-2 เดือนหลังจากเปิดให้จองก็จะดำเนิน โครงการ 2 ต่อได้เลย แต่หากโครงการแรกไม่เป็นไปตามเป้าหมายก็จะปรับแผนการทำตลาดใหม่ เพื่อให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าและทำโครงการ 2 ได้อย่างต่อเนื่อง

นางสาวนรินทร์กล่าวถึงแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ ว่ายังมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีก แต่จะต้องหาช่องว่างในการเจาะตลาด ซึ่งรายได้จากธุรกิจบ้านจัดสรรจะเห็นได้ชัดเจนใน สิ้นปี 2548 ที่มาจากโครงการแรกประมาณ 50 ล้านบาท รวมรายได้ปกติจากขายแฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อเฟรชมาร์ทต่อปีเฉลี่ย 100 ล้านบาท เป็น 150 ล้านบาท และในปี 2549 หลังเปิดขายโครงการ 2 รายได้รวมจะเพิ่มเป็น 200-300 ล้านบาท เป็นสัดส่วนรายได้จากธุรกิจบ้านจัดสรร 80%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us