|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ร้านสะดวกซื้อ "เฟรชมาร์ท" น้องใหม่ขอแจ้งเกิดในวงการอสังหาฯ ซุ่มรุกธุรกิจบ้านจัดสรร หวังสร้างตัวเลขรายได้ให้สวย ก่อนเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯพร้อมเปิดตัวโครงการแรกภายใต้แบรนด์ "นรินทร์ภิรมย์" มูลค่า 50 ล้านบาท เจาะกลุ่มวัยทำงาน พร้อมกว้านซื้อที่ย่านสายไหม รอผุดโครงการ 2 อีก 200 หลัง
ถึงแม้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันจะอยู่ในช่วงชะลอตัว เนื่องจากความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์กับอุปทานในบางตลาด อย่างเช่น ตลาดคอนโดมิเนียม หรือตลาดบ้านระดับหรู (ไฮเอนด์) ที่บางทำเล มีการลงทุนเปิดโครงการจำนวนมาก ขณะที่กำลังซื้อในทำเลนั้นๆ มีข้อจำกัดอยู่ ขณะที่โครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภททาวน์เฮาส์ ยังมีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการบางรายเห็นโอกาสเข้ามาทำตลาดในส่วนนี้
นางสาวนรินทร์ จิยารมณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟรชมาร์ท อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อ "เฟรชมาร์ท" เปิดเผย "ผู้จัดการรายวัน" ว่า ขณะนี้บริษัทได้ขยายไลน์ไปสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจใหม่ โดยได้ลงทุนเปิดโครงการใหม่ ภายใต้ชื่อโครงการ "นรินทร์ ภิรมย์" รูปแบบทาวน์เฮาส์ ซึ่งจุดมุ่งหมายของการขยายธุรกิจ เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัท และสร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มนักลงทุนก่อนที่บริษัทจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ใน อีก 1-2 ปีข้างหน้า โดยต่อไปธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเป็นธุรกิจที่สร้างผลกำไรและรายได้หลักให้กับบริษัท
"ที่ผ่านมาธุรกิจร้านสะดวกซื้อเฟรชมาร์ท ไม่ได้คิดค่าส่วนแบ่งยอดขายของผู้ซื้อแฟรนไชส์เลย กำไรที่ได้จึงมาจากช่วงเริ่มแรกที่ขาย แฟรนไชส์เท่านั้น และรายได้แต่ละปีก็ไม่มากด้วย เฉลี่ยปีละ 100 ล้านบาทเท่านั้น ในขณะที่ธุรกิจบ้านจัดสรรสามารถสร้างเม็ดเงินและกำไรได้ทันที โดยมองว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังมีช่องว่างที่เติบโตได้อยู่ โดยเฉพาะตลาดประเภททาวน์เฮาส์ที่ยังมีผู้ทำตลาดน้อย เพราะช่วงปีที่ผ่านมา ตลาดบ้านเดี่ยวขยายตัวมากและมีอัตราการเติบโตสูงจนเกือบถึงขั้นอิ่มตัวแล้ว จึงเชื่อว่าตลาดทาวน์เฮาส์จะเติบโตแทนที่ และมีผู้ประกอบการหันมาให้ความสนใจในตลาดนี้มากขึ้นในปีหน้า อาทิ กลุ่มปริญสิริ ก็เริ่มหันมาขยายบ้านทาวน์เฮาส์มีโครงการแรก ถึง 200 หลัง" นางสาวนรินทร์กล่าว
สำหรับรายละเอียดโครงการนรินทร์ภิรมย์ จะมีจำนวน 29 หลัง ตั้งอยู่บนพื้นที่ย่านคู้บอน ถนนรามอินทรา มีมูลค่าโครงการประมาณ 50 ล้านบาท ราคาขายเบื้องต้น 1.55 ล้านบาท ขณะนี้เริ่มก่อสร้างไปบ้างแล้วคาดว่าจะก่อสร้างเสร็จในเดือนมีนาคม 2548 โดยจะเปิดตัวโครงการ และเริ่มการขายประมาณเดือนพ.ย.-ธ.ค.2547
"กลุ่มเป้าหมายจะเป็นวัยทำงาน ที่มีอายุงานตั้งแต่ 5 ปี อายุเฉลี่ย 27 ปีขึ้นไป ซึ่งกลุ่มนี้จะมีระดับเงินเดือน ประมาณ 12,000 บาท ก็สามารถผ่อน บ้านได้แล้ว หรือกลุ่มครอบครัวขนาดเล็กที่ไม่ต้องการบ้านหลังใหญ่ ก็ยังเป็นกลุ่มที่มีช่องว่างให้เจาะเข้าไปได้" นางสาวนรินทร์กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะลงทุนในโครงการ 2 รูปแบบทาวน์เฮาส์ จำนวน 200 หลัง ทำเลย่านสายไหม บนพื้นที่ 17 ไร่ แต่จะต้องรอดูผลของโครงการแรกก่อน หากสามารถขายให้หมดโครงการภายใน 1-2 เดือนหลังจากเปิดให้จองก็จะดำเนิน โครงการ 2 ต่อได้เลย แต่หากโครงการแรกไม่เป็นไปตามเป้าหมายก็จะปรับแผนการทำตลาดใหม่ เพื่อให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าและทำโครงการ 2 ได้อย่างต่อเนื่อง
นางสาวนรินทร์กล่าวถึงแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ ว่ายังมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีก แต่จะต้องหาช่องว่างในการเจาะตลาด ซึ่งรายได้จากธุรกิจบ้านจัดสรรจะเห็นได้ชัดเจนใน สิ้นปี 2548 ที่มาจากโครงการแรกประมาณ 50 ล้านบาท รวมรายได้ปกติจากขายแฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อเฟรชมาร์ทต่อปีเฉลี่ย 100 ล้านบาท เป็น 150 ล้านบาท และในปี 2549 หลังเปิดขายโครงการ 2 รายได้รวมจะเพิ่มเป็น 200-300 ล้านบาท เป็นสัดส่วนรายได้จากธุรกิจบ้านจัดสรร 80%
|
|
|
|
|