Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน27 กันยายน 2547
คลังชงเกณฑ์เครดิตบูโรเข้าครม.ดัน "TCB" ควบรวม "CCIS" ฉลุย             
 


   
search resources

ข้อมูลเครดิตกลาง - Central Credit Information Services : CCIS
ข้อมูลเครดิตไทย (TCB)




กระทรวงการคลังเสนอ ครม.พิจารณาแก้ข้อบังคับ บริษัทข้อมูลเครดิตไทย อังคารนี้ เพื่อเปิดช่องควบรวมกับบริษัทข้อมูลเครดิตกลางได้ ปลัดคลังคาดใช้เวลา 3-4 เดือน หลัง ครม.เห็นชอบ พร้อมเปิดให้บริการ รับประกันค่าบริการต่ำลง เชื่อหลังควบรวมช่วยควบคุมวินัยผู้กู้ และลดปัญหาเอ็นพีแอล

นายสมใจนึก เองตระกูล ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการควบรวมกิจการระหว่าง บริษัทข้อมูลเครดิตไทย จำกัด (TCB) และบริษัทข้อมูลเครดิตกลาง จำกัด (CCIS) ว่า ในวันอังคารที่ 28 กันยายน 2547 กระทรวงการคลังจะนำเรื่องนี้ เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อขอเปลี่ยนแปลงข้อบังคับต่างๆ ของ TCB ซึ่งได้จัดตั้งขึ้นตามมติ ครม. เพื่อให้สามารถดำเนินการควบรวมกับ กิจการกับ CCIS ได้

ทั้งนี้ หากได้รับความเห็นชอบจาก ครม. แล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ ดำเนินการควบรวมกิจการบริษัทข้อมูลเครดิตทั้งสองแห่งให้แล้วเสร็จ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน จึงจะสามารถเริ่มเปิดให้บริการได้

โดยในส่วนของค่าบริการในการใช้ข้อมูลนั้นจะลดต่ำลงจากเดิมอย่างแน่นอน ส่วนราคาจะเป็นเท่าใดนั้น ต้องขึ้นอยู่กับประเภทของข้อมูลที่ เรียกใช้ และเชื่อว่าการมีบริษัทข้อมูลเครดิตนี้จะทำให้ผู้กู้มีระเบียบวินัยมากขึ้น และจะสามารถช่วยแก้ไขเรื่องหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ด้วย

สำหรับสัดส่วนในการถือหุ้นของบริษัทใหม่ภายหลังจากการควบรวมนั้น กระทรวงการคลังจะเข้าไปถือหุ้น 19% ธอส. 30% บริษัททิพยประกันภัย จำกัด 2% และในส่วนของบริษัทข้อมูลเครดิตกลาง จำกัด จะเข้าไปถือในสัดส่วน 49% โดยบริษัทใหม่ที่จะตั้งขึ้นนั้น มีทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 253 ล้านบาท โดยในสัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังนั้น ได้มีการเตรียมวงเงินไว้ 40 ล้านบาท โดยในส่วนของกระทรวงการคลังนั้นอาจจะให้ทางธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และธนาคาร เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เข้ามาลงทุน

"ในอนาคตคาดว่ากลุ่มนอนแบงก์เข้ามาร่วม เป็นสมาชิกของบริษัทดังกล่าวด้วย ซึ่งจะต้องดูในกฎระเบียบต่างๆ ด้วยว่าเป็นอย่างไร แต่หากเข้ามาแล้วจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบข้อมูลเครดิต เนื่องจากปัจจุบันกลุ่มนอนแบงก์ยังไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิก ดังนั้นเมื่อมีการรวมกิจการแล้ว ก็อยากจะให้เข้ามาร่วมเป็นสมาชิก หรือหากไม่เข้าร่วม ก็อยากให้มีการแชร์ข้อมูลกันเพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบข้อมูลเครดิตไทย" นายสมใจนึก กล่าว

อนึ่ง TCB จัดตั้งขึ้นโดยมติ ครม. หลังจาก เกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของธนาคารอาคารสงเคราะห์ จำเป็นต้องแก้ไขข้อบังคับต่างๆ ในปัจจุบัน เพื่อเปิดช่องให้สามารถควบรวมกิจการกับบริษัทอื่นได้ ซึ่งการควบรวมดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ในการรวมศูนย์ ข้อมูลเป็น เพื่อลดต้นทุนทั้งด้านข้อมูล รวมทั้งยังเป็นการเสริมให้ NON-BANK สนใจเข้าร่วมเป็นสมาชิกในการใช้ข้อมูลหรือส่งข้อมูลเข้ามายังเครดิตบูโร

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทเครดิตบูโรทั้ง 2 แห่งได้มีการลงนามความร่วมมือ(MOU) ในการแชร์ข้อมูลร่วมกัน ซึ่งจะขยายขอบข่ายของข้อมูลที่กว้างทั่วถึงทั้งระบบ และกระทรวงการคลังได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ดำเนินการตั้งคณะกรรมการเข้ามาดูแลการเข้าตรวจสอบทรัพย์สินของทั้ง 2 แห่ง เพื่อประโยชน์ในการควบรวมต่อไป   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us