|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
กระทรวงการคลังเสนอ ครม.พิจารณาแก้ข้อบังคับ บริษัทข้อมูลเครดิตไทย อังคารนี้ เพื่อเปิดช่องควบรวมกับบริษัทข้อมูลเครดิตกลางได้ ปลัดคลังคาดใช้เวลา 3-4 เดือน หลัง ครม.เห็นชอบ พร้อมเปิดให้บริการ รับประกันค่าบริการต่ำลง เชื่อหลังควบรวมช่วยควบคุมวินัยผู้กู้ และลดปัญหาเอ็นพีแอล
นายสมใจนึก เองตระกูล ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการควบรวมกิจการระหว่าง บริษัทข้อมูลเครดิตไทย จำกัด (TCB) และบริษัทข้อมูลเครดิตกลาง จำกัด (CCIS) ว่า ในวันอังคารที่ 28 กันยายน 2547 กระทรวงการคลังจะนำเรื่องนี้ เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อขอเปลี่ยนแปลงข้อบังคับต่างๆ ของ TCB ซึ่งได้จัดตั้งขึ้นตามมติ ครม. เพื่อให้สามารถดำเนินการควบรวมกับ กิจการกับ CCIS ได้
ทั้งนี้ หากได้รับความเห็นชอบจาก ครม. แล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ ดำเนินการควบรวมกิจการบริษัทข้อมูลเครดิตทั้งสองแห่งให้แล้วเสร็จ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน จึงจะสามารถเริ่มเปิดให้บริการได้
โดยในส่วนของค่าบริการในการใช้ข้อมูลนั้นจะลดต่ำลงจากเดิมอย่างแน่นอน ส่วนราคาจะเป็นเท่าใดนั้น ต้องขึ้นอยู่กับประเภทของข้อมูลที่ เรียกใช้ และเชื่อว่าการมีบริษัทข้อมูลเครดิตนี้จะทำให้ผู้กู้มีระเบียบวินัยมากขึ้น และจะสามารถช่วยแก้ไขเรื่องหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ด้วย
สำหรับสัดส่วนในการถือหุ้นของบริษัทใหม่ภายหลังจากการควบรวมนั้น กระทรวงการคลังจะเข้าไปถือหุ้น 19% ธอส. 30% บริษัททิพยประกันภัย จำกัด 2% และในส่วนของบริษัทข้อมูลเครดิตกลาง จำกัด จะเข้าไปถือในสัดส่วน 49% โดยบริษัทใหม่ที่จะตั้งขึ้นนั้น มีทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 253 ล้านบาท โดยในสัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังนั้น ได้มีการเตรียมวงเงินไว้ 40 ล้านบาท โดยในส่วนของกระทรวงการคลังนั้นอาจจะให้ทางธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และธนาคาร เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เข้ามาลงทุน
"ในอนาคตคาดว่ากลุ่มนอนแบงก์เข้ามาร่วม เป็นสมาชิกของบริษัทดังกล่าวด้วย ซึ่งจะต้องดูในกฎระเบียบต่างๆ ด้วยว่าเป็นอย่างไร แต่หากเข้ามาแล้วจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบข้อมูลเครดิต เนื่องจากปัจจุบันกลุ่มนอนแบงก์ยังไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิก ดังนั้นเมื่อมีการรวมกิจการแล้ว ก็อยากจะให้เข้ามาร่วมเป็นสมาชิก หรือหากไม่เข้าร่วม ก็อยากให้มีการแชร์ข้อมูลกันเพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบข้อมูลเครดิตไทย" นายสมใจนึก กล่าว
อนึ่ง TCB จัดตั้งขึ้นโดยมติ ครม. หลังจาก เกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของธนาคารอาคารสงเคราะห์ จำเป็นต้องแก้ไขข้อบังคับต่างๆ ในปัจจุบัน เพื่อเปิดช่องให้สามารถควบรวมกิจการกับบริษัทอื่นได้ ซึ่งการควบรวมดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ในการรวมศูนย์ ข้อมูลเป็น เพื่อลดต้นทุนทั้งด้านข้อมูล รวมทั้งยังเป็นการเสริมให้ NON-BANK สนใจเข้าร่วมเป็นสมาชิกในการใช้ข้อมูลหรือส่งข้อมูลเข้ามายังเครดิตบูโร
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทเครดิตบูโรทั้ง 2 แห่งได้มีการลงนามความร่วมมือ(MOU) ในการแชร์ข้อมูลร่วมกัน ซึ่งจะขยายขอบข่ายของข้อมูลที่กว้างทั่วถึงทั้งระบบ และกระทรวงการคลังได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ดำเนินการตั้งคณะกรรมการเข้ามาดูแลการเข้าตรวจสอบทรัพย์สินของทั้ง 2 แห่ง เพื่อประโยชน์ในการควบรวมต่อไป
|
|
|
|
|