Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ตุลาคม 2547








 
นิตยสารผู้จัดการ ตุลาคม 2547
เทศกาลฤดูร้อน             
โดย ธีรัส บุญ-หลง
 





ก่อนอื่นต้องขอเรียนท่านผู้อ่านว่า ผมขอยุติการเขียนเรื่องเที่ยวอย่างไรดีแต่เพียงเท่านี้ เพราะว่าผมรู้สึกว่าเนื้อหาโดยคร่าวๆ ของการไปเที่ยวกับญาติผู้ใหญ่ผมได้เสนอไปหมดแล้ว เหลือแต่รายละเอียดที่ยังไม่ได้เขียน ซึ่งถ้าจะเขียนก็คงจะยาวและก็จะไม่เหมาะสม เพราะว่าจะเป็นคอลัมน์การท่องเที่ยวส่วนตัวของผมไป ต้องขออภัยผู้ติดตามทุกท่านในที่นี้ด้วย (แต่ถ้าใครสนใจก็ E-mail มาหาผมได้ ผมจะส่งที่ผมเขียนพิเศษเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปให้ท่านอ่านทาง E-mail)

ช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา Edinburgh ก็คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวเหมือนทุกๆ ปี ซึ่งก็เหมือนทุกๆ ปีอีกเหมือนกันที่จุดประสงค์หลักของผู้ที่เดินทางมานั้นมาเพื่อ Edinburgh Summer Festivals

Edinburgh Summer Festivals เป็นชื่อเรียกรวมของเทศกาลสำคัญต่างๆ ในเมือง Edinburgh ช่วงฤดูร้อน (เท่าที่จำได้ก็มี Fringe International Book Film Military Tattoo Jazz และ Mela) เทศกาลต่างๆ นี้คาบเกี่ยวในช่วงเวลากันจนสามารถ ที่จะเรียกเหมารวมได้เพื่อผลประโยชน์ในการจำ และการโปรโมต ซึ่งในความคิดเห็นส่วนตัวของผมมันก็เป็นกลยุทธ์ในการสร้าง Brand ของเมือง Edinburgh ในช่วงฤดูร้อนให้คนรับรู้ว่ามีหลายเทศกาล แล้วก็ทำให้แต่ละเทศกาลไม่แย่งลูกค้ากันเอง แถมยังช่วยสนับสนุนกันและกันอีกด้วย ค่าโปรโมตก็โปรโมตเหมาไปทีเดียวได้เลย ซึ่งเป็นการลดเงินลงทุนได้อีกอย่างหนึ่ง วันใดวันหนึ่งถ้ามีเทศกาลใหม่ๆ เข้ามาก็สามารถที่จะให้เทศกาลที่มีอยู่แล้วเกื้อหนุนกันได้เป็นกำไรเข้าเมืองต่อไป (เหมือนกรณีที่ Richard Branson ใช้ Virgin Records ช่วยในการโปรโมตสายการบิน...Virgin Atlantic ภายใต้ Brand Virgin)

ถ้าจะว่ากันไปจริงๆ แล้ว เทศกาลต่างๆ ของ Edinburgh Summer Festivals ก็มีจุดยืนและเอกลักษณ์ของตัวเอง แม้ว่าบางเทศกาลจะมีเนื้อหาที่คาบเกี่ยวกันและกันอยู่ เทศกาลที่เป็นตัวหลักหรือจะเรียกได้ว่าพระเอกของ Edinburgh Summer Festivals ก็คือ Fringe Festival หรือเทศกาล Art ที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ข้อมูลจาก Guinness book of records) เป็นที่รู้กันว่าถ้าอยากจะดูให้เห็นหรือรับฟังศิลปะแบบแปลกๆ โดดเด่นและมีเสน่ห์ต้องมาที่เทศกาลนี้ ทุกปีจะมีผู้คนนับพันมาแสดงโชว์ต่างๆ ในสถานที่จัดงานกว่า 200 แห่งในเมืองหลวงของ สกอตแลนด์แห่งนี้ ปี 2004 ที่ผ่านมามีตั๋วขายได้ 1,251,997 ใบ ซึ่งเป็นการทำลายสถิติการขายตั๋วของปีก่อนได้ถึง 13% ทีเดียว (ขนาดฝนตกบ่อยนะครับนี่) คาดกันว่าปี 2005 ตั๋วจะขายได้มากกว่าปี 2004 10% มันเป็น trend ที่ตั๋วจะขายได้มากขึ้นทุกๆ ปี

สิ่งที่ผมสนใจมากที่สุดของ Fringe นอกจาก Show เจ๋งๆ คือ Venue หรือที่จัดงานกว่า 200 แห่ง ในเมืองที่มีทุกรูปแบบ มีตั้งแต่ที่เป็นโรงละครหรูหรา จนไปถึงเต็นท์กลางสวนสาธารณะ บางที่ก็จัดกลางแจ้ง แต่ที่ผมว่าความคิดดีจริงๆ คือการจัดบนตึกร้าง หรือช่องต่างๆ ในซอกซอย เขาใช้ผ้าใบกับไม้อัด หรือไม่ก็กระดาษแข็งบางๆ กั้นครับ ทําที่ว่างทุกที่ให้เป็น Venue ตามหลักแปลงทรัพย์สินให้เป็นทุน เสร็จแล้วก็เอาบาร์เหล้ากับตัวซุ้มขายตั๋วมาติดตั้งไว้ข้างหน้าขายเหล้าได้อีก โชว์ก็จัดกันง่ายๆ ใช้ฝีมือบวกกับความสามารถเฉพาะตัวซะมากกว่า ฉากไม่ต้องหรูเหมือนละครเพลงแถวลอนดอนเขามาดูไอเดียฝีมือและความแปลกใหม่กันล้วนๆ ละครใบ้เอย ละครเพลงฮิพฮอพเอย มายากล เดี่ยวไมโคร โฟน หรืออะไรแบบที่หลุดโลกมีทั้งนั้น เวลาดูก็มีตั้งแต่เช้าจนถึงอีกเช้าหนึ่ง เรียกว่าอยู่เมืองนี้ก็สามารถดูโชว์ได้เรื่อยๆ บางทีผมนัดเพื่อนตี 2 เพื่อไปดู Stand up comedy หลังจากจิบเบียร์เบาๆ ฟังดูไม่เลวเลยใช่ไหมครับ

Fringe มาทีไร มหาวิทยาลัยผมก็ยิ้มแป้นก็ทำไมจะไม่ยิ้มล่ะครับ ก็สถานที่ต่างๆ ในมหาวิทยาลัยทั้ง Sport Hall Lecture Theatre Student Unions ก็กลายเป็นที่จัดงานทำเงินให้มหาวิทยาลัยไปตลอดเชียว โดยเฉพาะแถบ Pleasant ซึ่งเป็นที่รวมเหล่าชมรมต่างๆ ในมหาวิทยาลัยก็จะกลายมาเป็น Venue ของ Stand up comedy ที่สุดยอดแห่งหนึ่งในโลก ที่นี่เป็นที่บ่มเพาะตลกเดี่ยวกันมานานแล้ว มีหลายๆ คนได้กลายเป็นดาราทีวี ดาราหนัง ก็เพราะที่นี่แหละครับ ตัวอย่างก็เช่น Graham Norton และ Jimmy Car ซึ่งก็มีชื่อเสียงในขณะนี้ที่อังกฤษ เนื่องจากมีโชว์มากหลาย บางทีผู้คนจะมาว่าอะไรดี อะไรไม่ดี ส่วนมากคนจะไปอยู่ที่เมือง Edinburgh ก่อนแล้วคอยให้หนังสือพิมพ์ลง review ว่าอะไรดีแล้วค่อยไปจองครับ เรียกว่ารีบซื้อหนังสือพิมพ์ตอนเช้าแล้วก็ต้องจองเลยไม่งั้นไม่ทันแน่ แต่ถ้าไม่ต้องการไปแย่งดูกับใครเขาก็ค่อยๆ ดูโปสเตอร์ใบปลิวเห็นอันไหนน่าสนใจก็ไปดูครับ เศรษฐกิจจะดีมากในช่วงเทศกาล Fringe Programs ขายได้อย่างดีเยี่ยม T-Shirt พวงกุญแจ อาหาร ลานเบียร์ มีมาเต็มไปหมด ค่าเช่าบ้านขึ้น 3 เท่าสำหรับนักท่องเที่ยว (ไม่มี ใครอยู่โรงแรมครับ ขืนอยู่ยาวก็หมดตัวกันพอดี) แม้กระทั่งสามล้อฝรั่งแบบเป็นจักรยาน (แบบบ้านเราที่เดียวนี้ไม่ค่อยได้เห็นกัน) ยังทำรายได้เป็นกอบ เป็นกำ เพื่อนผมหลายคนไปเช่าสามล้อมาให้บริการคนในเมืองหักค่าเช่าไว้แล้วยังมีกำไรถึง 6,000 ปอนด์ใน 3 สัปดาห์!

ที่ผมเขียนมาเกี่ยวกับ Fringe ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เทศกาลอื่นไม่สำคัญนะครับ แต่ Fringe เป็นอะไรที่มีชื่อเสียงที่สุดเท่านั้นเอง เทศกาลอื่นๆ เช่น Edinburgh Jazz Festival (อันนี้ผมชอบมาก) ก็ดี Military Tattoo การเดินสนามอันโด่งดังก็ดี รวมถึง Edinburgh Book Festival ซึ่งเป็นเทศกาลหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลกนั่นก็มีข้อดีของตัวเอง ซึ่งผมจะเขียนเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ในฉบับหน้าครับ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us