เสียงกรี๊ดแสดงความพึงพอใจของชาวภูเก็ตนับพันคน ที่เปล่งออกมาทันทีที่ได้เห็นเหล่านางแบบและนายแบบ ปรากฏกายขึ้นบนแคทวอล์ค ภายในงานเปิดตัวศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัลภูเก็ตอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา เป็นเสมือนสิ่งยืนยันถึงการตอบรับของคนท้องถิ่นที่มีต่อศูนย์การค้าแห่งใหม่ ซึ่งใหญ่ที่สุดบนเกาะภูเก็ตแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี

"เราไม่เคยได้ดูการเดินแบบที่ใกล้ชิดแบบนี้มาก่อน ถือเป็นครั้งแรกของคนภูเก็ตที่มีโอกาสได้เห็นของจริง จากที่เคยดูแต่ในทีวี" เป็นเสียงสะท้อนที่ออกมาจากปากของคนภูเก็ตคนหนึ่ง

คงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลก เพราะแม้ว่าในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ภูเก็ตได้กลายเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่กลุ่มทุนทั้งหลายพากันขนเงินเข้าไปลงทุนก่อสร้างสถานที่สำหรับการจับจ่ายใช้สอย เพื่อรองรับกับการขยายตัวของการท่องเที่ยว

แต่การลงทุนดังกล่าว ก็มุ่งเน้นจับตลาดเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยว ในขณะที่คนท้องถิ่นกลับมีโอกาสน้อย ที่จะได้เข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ที่มีการจัดขึ้นมาแต่ละครั้ง

"ที่ผ่านมาแม้จะมีการจัดแฟชั่นโชว์ในภูเก็ตหลายครั้ง แต่ทั้งหมดไปจัดกันในโรงแรมหรูๆ ไม่เคยจัดในสถานที่ที่คนทั่วไป จะสามารถมาเข้ามาดูได้แบบนี้"

เซ็นทรัล เฟสติวัล จึงกลายเป็นสถานที่ชอปปิ้งแห่งใหม่ที่เปิดโอกาสให้คนภูเก็ตได้เข้ามาจับจ่ายใช้สอย โดยไม่ต้องเดินทางเข้ามาถึงในกรุงเทพฯ เพราะเป็นศูนย์การค้าครบวงจรแห่งแรกที่เปิดขึ้นในจังหวัดภูเก็ต

การก่อกำเนิดขึ้นมาของเซ็นทรัล เฟสติวัล มิได้เป็นเพียงการทำให้ "สมรภูมิค้าปลีกภูเก็ตดุเดือดขึ้น" ตามศัพท์ที่หนังสือ พิมพ์รายวันบางฉบับชอบใช้พาดหัวเท่านั้น

เพราะมองเพียงว่าการเข้ามาของเซ็นทรัล เฟสติวัล จะทำให้การแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกของภูเก็ตมีดีกรีร้อนแรงขึ้น เนื่องจากก่อนหน้านั้น ซูเปอร์สโตร์ชื่อดัง 3 แห่ง คือเทสโก้ โลตัส บิ๊กซี และแม็คโคร ได้เข้ามายึดหัวหาดเอาไว้อยู่แล้ว

โดยเฉพาะแม็คโคร เป็นรายล่าสุดที่เพิ่งเปิดให้บริการก่อนหน้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เพียงไม่กี่วัน

เซ็นทรัล เฟสติวัล มองถึงกลุ่มเป้าหมายคนที่จะเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในศูนย์การค้าแห่งนี้กว้างกว่าซูเปอร์สโตร์ทั้ง 3 แห่ง ที่เน้นจับเฉพาะคนท้องถิ่น หรือคนที่อาศัยอยู่ในภูเก็ตโดยเฉพาะ

กลุ่มเป้าหมายของเซ็นทรัล เฟสติวัล ยังรวมไปถึงนักท่องเที่ยวจากที่อื่นๆ ที่เดินทางเข้ามายังจังหวัดภูเก็ต รวมถึงนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่อาจบินตรงเข้ามาชอปปิ้งที่นี่โดยเฉพาะ

"ต่อไปเราอาจจะเห็นนักท่องเที่ยวจากสิงคโปร์ มาเลเซีย ที่นั่งเครื่องบินมาซื้อสินค้าที่นี่โดยตรง โดยไม่ต้องเข้าไปถึงในกรุงเทพฯ" ผู้บริหารบริษัทเซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) บริษัทแกนนำในธุรกิจค้าปลีกของเครือเซ็นทรัลผู้หนึ่งบอก

นอกจากการมองถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างกว่าแล้ว โครงการ เซ็นทรัล เฟสติวัล ยังกินความหมายในเชิงลึก เพราะโครงการนี้ถือเป็นการลงทุนก่อสร้าง และบริหารศูนย์การค้าด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกของ CRC เป็น model การขยายตัวแบบใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นภายในเครือเซ็นทรัล

ก่อนหน้านี้ที่บทบาทในการลงทุนขยายพื้นที่ของเครือเซ็นทรัล ทั้งเรื่องการก่อสร้าง รวมถึงการบริหารพื้นที่ จะตกเป็นภาระของบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา (CPN) โดยที่ CRC เป็นเพียงผู้เข้าไปเช่าพื้นที่ในห้างต่อจาก CPN

แต่สำหรับโครงการนี้ เนื่องจาก CRC ได้มองเห็นถึงศักยภาพการขยายตัวของจังหวัดภูเก็ต และมีความต้องการจะมาเปิดสาขาที่นี่มานานแล้ว แต่ติดอยู่ที่ CPN ซึ่งกำลังทุ่มเททั้งเงินทุน และทรัพยากรบุคคลไปกับโครงการเซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า ที่ต้องใช้เงินถึงกว่า 20,000 ล้านบาท ทำให้ไม่มีกำลังคนเพียงพอที่จะปลีกตัวเองออกมาลงทุนที่ภูเก็ต

ทำให้ CRC จำเป็นต้องรับบทบาทในการเป็นหัวหอกลงทุนโครงการนี้ด้วยตัวเอง

CRC ได้ทุ่มทุนกว่า 2,000 ล้านบาท ก่อสร้างศูนย์การค้า เซ็นทรัล เฟสติวัลขึ้นบนพื้นที่ 30 ไร่ ระหว่างถนนวิชิตสงคราม กับถนนเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญสำหรับการขยายตัวของเมืองในอนาคต

หน่วยธุรกิจที่มีเกือบทั้งหมดของ CRC ถูกบรรจุให้เข้าไป มีพื้นที่อยู่ในศูนย์การค้าแห่งนี้ โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ร้าน B2S, พาวเวอร์บาย, ซูเปอร์สปอร์ต, ออฟฟิศ ดีโป โฮมเวิร์ค ท็อปส์ ฯลฯ ขาดแต่เพียงห้างสรรพสินค้าโรบินสัน เพราะมีสาขา ที่เป็น stand alone อยู่แล้ว 1 แห่ง

นอกจากนี้ CRC ยังได้ขนบรรดาร้านค้าชื่อดังต่างๆ จาก กรุงเทพฯ ไปเปิดยังศูนย์การค้าแห่งนี้ รวมถึงยังมีพื้นที่ที่กันไว้เป็น ศูนย์รวมสินค้าหัตถกรรมตามโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ของท้องถิ่นอีกด้วย โครงการเซ็นทรัล เฟสติวัล จึงถือเป็นบทพิสูจน์ ฝีมือของ CRC ที่จะสามารถบริหารพื้นที่ศูนย์การค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่แตกต่างจากการบริหารสินค้า และพื้นที่ในห้างสรรพสินค้าแต่เพียงอย่างเดียว