บอร์ด CPF ไฟเขียวออกหุ้นกู้วงเงิน 15,000 ล้านบาท เพื่อนำไปชำระหนี้เงินกู้และรับโอนกิจการของบริษัทย่อย 3 แห่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ และเข้าลงทุนในบริษัทใหม่ 3 แห่ง ที่จะเสริมสร้างศักยภาพการดำเนินงาน ขยายธุรกิจสัตว์น้ำไปยังประเทศที่มีศักยภาพส่งออก

นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (CPF) เปิดเผยมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2547 ว่าได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯออก และเสนอขายหุ้นกู้ โดยเป็นหุ้นกู้ทุกประเภทชนิดระบุชื่อผู้ถือ หรือไม่ระบุชื่อผู้ถือ ไม่มีประกัน มีหรือไม่มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสภาวะตลาดในขณะออก และเสนอขายหุ้นกู้ในแต่ละครั้ง

โดยหุ้นกู้นี้มีวงเงินไม่เกิน 15,000 ล้านบาท โดยจะออกเสนอขายครั้งเดียว หรือเป็นคราวๆ ไปก็ได้ ซึ่งจะเสนอขายในสกุลเงินบาท และ/หรือ ในสกุลเงินอื่นที่เทียบเท่าภายในวงเงิน ส่วนอัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดในขณะที่ออกและเสนอขายหุ้นกู้ในแต่ละครั้ง สำหรับหุ้นกู้ครั้งนี้มี อายุไม่เกิน 10 ปี นับจากวันที่ออกหุ้น กู้ในแต่ละครั้ง โดยสามารถกำหนดให้มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนดอายุของหุ้นกู้หรือไม่ก็ได้

ทั้งนี้ หุ้นกู้นี้จะเสนอขายภายในประเทศ และ/หรือต่างประเทศ ให้แก่ประชาชนทั่วไป และ/หรือเสนอขายแก่นักลงทุนโดยเฉพาะเจาะจง และ/หรือนักลงทุนประเภทสถาบันทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งอาจเสนอขายครั้งเดียวเต็มจำนวนวงเงินในคราวเดียว หรือเสนอขายเป็นคราวๆไป

สำหรับวัตถุประสงค์ของการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ CPF จะนำไปใช้ชำระคืนหนี้บางส่วน และใช้ในการขยายกิจการซึ่งบริษัทจะต้องเสนอการออกและขายหุ้นกู้ของบริษัทต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2547 เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป

นายอดิเรกยังกล่าวอีกว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติให้รับโอนกิจการของบริษัทย่อย 3 บริษัทเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งบริษัทถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมในสัดส่วน 99.99% ของทุนที่ออก และเรียกชำระแล้วทั้งหมด คือ บริษัท ซีฟู้ดส์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด บริษัท กรุงเทพเพาะเลี้ยงกุ้ง จำกัด และบริษัท แกลง จำกัด

โดยบริษัทฯ จะรับโอนกิจการแปรรูปสัตว์น้ำ รวมทั้งสิทธิประโยชน์ภายใต้บัตรส่งเสริมการลงทุนจากบริษัทย่อย สำหรับมูลค่าของรายการคิดเป็นประมาณ 1,052 ล้านบาท ซึ่งใช้เกณฑ์ในการพิจารณามูลค่าตามบัญชี และราคาตลาดเปรียบเทียบเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาราคาซื้อขาย และบริษัทจะใช้เงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ซื้อหุ้นดังกล่าว

ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับของบริษัท และพระราชบัญญัติบริษัท มหาชนจำกัด พ.ศ.2535 ซึ่งกำหนดให้ การรับโอนกิจการของบริษัทอื่นมาเป็นของบริษัทต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น จึงให้เสนอการรับโอนกิจการของบริษัทย่อย 3 บริษัทต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2547 เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป

นอกจากนี้ บอร์ด CPF ยังอนุมัติให้เข้าลงทุนในบริษัท Calibre Nature(M) Sdn Bhd ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ซึ่งบริษัทดังกล่าวดำเนินธุรกิจสายสัตว์น้ำ อันรวมถึงกิจการผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำ กิจการฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และกิจการแปรรูปสัตว์น้ำ เพื่อจำหน่ายทั้ง ในประเทศมาเลเซีย และส่งออก ตั้งอยู่ที่มาเลเซีย มีทุนจดทะเบียน 5,000,000 ริงกิตมาเลเซีย โดย CPF จะเข้าถือหุ้นทั้ง 100% เพื่อเป็นการขยายธุรกิจสัตว์น้ำไปยังประเทศที่มีศักยภาพในการผลิต และส่งออกสินค้าดังกล่าว

อีกทั้งยังให้ลงทุนในบริษัท พัฒนาพันธุ์กุ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินกิจการเพาะฟักลูกกุ้ง มีทุน จดทะเบียน 8 ล้านบาท แบ่งเป็น หุ้นสามัญจำนวน 792,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท และหุ้นบุริมสิทธิจำนวน 8,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท โดย CPF ถือหุ้น 51% และ Shrimp Improvement Systems, L.L.C. ถือหุ้น 49% การจัดตั้งบริษัทนี้ เพื่อวิจัยและพัฒนาปรับปรุงสายพันธุ์กุ้งและระบบการเพาะพันธุ์กุ้ง และผลิตลูกกุ้งคุณภาพเพื่อจำหน่ายภายในประเทศ

และให้บริษัท กรุงเทพค้าสัตว์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ CPF ถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมอยู่ในสัดส่วน 99.99% เข้าทำสัญญาซื้อเครื่อง จักรอุปกรณ์ ยานพาหนะ และอื่นๆ และการใช้สิทธิในเครื่องหมายการค้าทั้งหมดที่มีอยู่ขณะทำสัญญา กับบริษัท สตาร์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด

กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2547 ให้มีขึ้นในวันที่ 29 ตุลาคม 2547 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมฟอร์จูน 1 เอ 3 โรงแรมฟอร์จูน เลขที่ 1 อาคารฟอร์จูนทาวน์ ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400 และกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือหุ้นในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2547 ในวันที่ 11 ตุลาคม 2547 ตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป จนกว่าการประชุมจะแล้วเสร็จ

สำหรับราคาหุ้น CPF วานนี้ เปิดที่ 3.66 บาท และปิดที่ 3.64 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท คิดเป็น 0.55% มูลค่าการซื้อขาย 20.28 ล้านบาท