|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
CNT กลับมาเทรด หมวดปกติราคาพุ่งกว่า 1,587% ราคาปิด 13.50 บาท โบรกเกอร์เชียร์ให้เข้าลงทุน เนื่องจากเชื่อว่าธุรกิจของบริษัทมีโอกาสเติบโตในอนาคต คาดปีนี้กำไรก้าวกระโดดเหตุรายได้จากค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้น และกำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น
วานนี้ (22 กันยายน) หุ้นของบริษัท คริสเตียนี แอนด์นีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน) (CNT) กลับเข้ามาเทรดในหมวดปกติคือวัสดุก่อสร้าง หลังจากที่อยู่ในหมวดฟื้นฟูกิจการมานานหลายปี โดยเปิดตลาดวันแรกราคาหุ้นอยู่ที่ 23.80 บาท เพิ่มขึ้นจากการเทรดครั้งสุดท้ายที่ราคาอยู่ที่ระดับ 0.80 บาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 23 บาท ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายราคาหุ้นได้ไต่ระดับสูงสุดที่ 25.50 บาท
อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายราคาหุ้นเริ่มปรับตัวลดลง แตะระดับต่ำสุดที่ 12.30 บาท ก่อนปิดตลาดภาคบ่ายที่ 13.50 บาท เพิ่มขึ้น 12.70 บาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 1,587.50% มูลค่าการซื้อขาย 669.16 ล้านบาท
ขณะที่ทีมผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของ CNT โดยคณะกรรมการ บริษัท ซี เอ็น แอดไวซอรี่ จำกัด ในฐานะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า บริษัทได้กำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอน หุ้นเพื่อกำหนดสิทธิในการรับเงินปันผล ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 4 ตุลาคม 2547โดยบริษัทได้กำหนด วันจ่ายปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2547 วันที่ 12 ตุลาคม 2547
โดย CNT มีมติจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นเดิมแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ 1. จ่ายปันผลเป็นเงินสดหุ้นละ 0.034 บาท พร้อมจัดสรรหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 3.5 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก ออกบทวิเคราะห์ถึง CNT โดยระบุว่า เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างอีกรายหนึ่งที่ได้ รับผลกระทบจากวิกฤตฟองสบู่แตกอย่างหนักและประสบภาวะขาดทุนจนเข้าข่ายถูกเพิกถอนออกจากตลาด CNT ถูกย้ายไปอยู่หมวดฟื้นฟูกิจการ และใช้เวลา 6 ปีในการปรับโครงสร้างหนี้และฟื้นฟูกิจการจนกระทั่งมีคุณสมบัติพ้นเหตุเพิกถอนและได้ย้าย กลับมาซื้อขายในหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อีกครั้งหนึ่ง ท่ามกลางภาวะ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่มีแนวโน้มสด ใส ดังนั้น แนะนำซื้อโดยมีราคาเหมาะ สม 6.30 บาทสำหรับปี 47 และ 6.90 บาทสำหรับปี 2548
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา (AYS) กล่าวว่า CNT ผู้รับเหมาขนาดใหญ่ในอดีต ประกอบธุรกิจ รับเหมาก่อสร้างประเภทสาธารณูปโภค และโยธา หลังปรับโครงสร้างหนี้สำเร็จ ทำให้ฐานะการเงินดีขึ้นมา จุดเด่นในการ Trading หลักทรัพย์นี้คือ สามารถย้ายกลับสู่หลักโดยกระโดดข้าม 2 ขั้นเลย คือ กลับมาสู่หมวดหลัก แสดงว่ามีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ตามตลาดหลักทรัพย์กำหนด 4 ประการ และจะมีการจัดสรรเงินปันผลหุ้นสามัญให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราส่วน 3.5 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ นั่นหมายถึง ผู้ที่ซื้อหุ้นตั้งแต่วันนี้ยังได้รับเงิน ปันผล โดยขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 29 ก.ย. 47
สำหรับคาดการณ์ผลการดำเนินงาน ปีนี้มีกำไรปกติก้าวกระโดดเป็น 408% อันเป็นผลจากรายได้ค่าก่อสร้างที่มากขึ้น ค่าใช้จ่ายและบริหาร รวมทั้งดอกเบี้ยจ่ายลดลง ส่วนปี 48 อัตราการเติบโตคาดว่าเป็น 8% แม้รายได้ค่าก่อสร้างค่อนข้างคงที่ แต่อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น P/E-normalized และ P/BV ปี 47 และ 48 ที่ราคาปิดก่อน SP ต่ำมากๆ เพราะราคาหุ้นขณะนั้นยังไม่ได้สะท้อนปัจจัย พื้นฐานที่ดีขึ้นหลังปรับโครงสร้างหนี้
หากกำหนดให้ราคาเหมาะสมซื้อ ขายที่ 15 เท่าจะได้ราคาเป้าหมาย 3.30 บาท แต่หากใช้ P/E อุตสาหกรรมผู้รับเหมาที่ 26.4 เท่า จะได้ราคาเป้าหมายที่ 5.81 บาท คาดว่าจะได้รับความ น่าสนใจอย่างมากในระยะสั้น แต่ระยะกลางถึงยาว ไม่ถึงกับน่าสนใจมาก เพราะงานในมือมีจำนวนน้อย อัตรากำไรขั้นต้นอัตราการเติบโตของกำไรปี 48 ไม่สูง
ส่วนบริษัทหลักทรัพย์ไซรัส ระบุว่า CNTจะได้รับประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมก่อสร้างเช่นเดียวกับผู้รับเหมารายอื่น เนื่องจากความสามารถในการรับงานได้หลากหลาย ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทเคยมีรายได้ที่สูงถึง 1.2 หมื่นล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันคาด ว่ารายได้ปี 47 จะเท่ากับ 3.94 พันล้าน บาท หรือประมาณ 30% ของรายได้ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งเราคาดว่าสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของ CNT หลังปรับโครงสร้างหนี้และทุนแล้วจะช่วยให้รายได้เติบโตต่อเนื่อง
|
|
|
|
|