Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน22 กันยายน 2547
พารากอนงบบาน 4 พันล.ชี้ค่าเซ้งโหด2.2แสนบาท             
 


   
www resources

โฮมเพจ สยามพารากอน

   
search resources

สยามพารากอน ดิเวลลอปเม้นท์, บจก.
ศุภลักษณ์ อัมพุช
Shopping Centers and Department store




สยามพารากอน พร้อมอวดโฉม 1 พ.ย. 2548 มั่นใจโครงการเสร็จตามเป้า ล่าสุดงบประมาณพุ่ง 14,000 ล้านบาท ระบุกลุ่มผู้เช่าร่วมผุดคอนเซ็ปต์ "แฟลกชิป สโตร์" ดูดนักชอปไฮโซ แบรนด์นอกแห่เปิดสาขาแรกเพียบ ก่อนเปิดเตรียมอัดงบโปรโมตศูนย์ฯ ในต่างประเทศเต็มรูปแบบ วางแผนพบนายกฯ ดันกรุงเทพฯ ปลอดภาษีสู้ฮ่องกงอีกครั้งหลังเลือกตั้งใหญ่ปีหน้า

นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช รองประธานกรรมการ และนายเกรียงศักดิ์ ตันติพิภพ ผู้อำนวยการด้านการตลาด บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยความคืบหน้าโครงการศูนย์การค้าสยามพารากอนในงานประชุมผู้เช่าโครงการวานนี้ (21 ก.ย.) ว่า ขณะนี้โครงสร้างใต้ดินของสยามพารากอนเสร็จไปแล้ว 98%

ส่วนโครงสร้างระดับบนดินก่อสร้างไปได้ประมาณ 30% แล้ว สามารถที่จะแจกรายละเอียดการตกแต่งให้แก่ผู้เช่าแต่ละรายได้แล้ว เพื่อให้ผู้เช่าออกแบบร้านตามคอนเซ็ปต์ของสยามพารากอน โดยวางแผนที่จะส่งมอบพื้นที่และโอนห้องเช่าในเดือน มี.ค. - เม.ษ. 2548

ในเบื้องต้นบริษัทได้จัดเตรียมบริษัทออกแบบตกแต่งไว้ 4 ราย เพื่อรองรับความต้องการของผู้เช่าหลายราย โดยล่าสุดงบประมาณการลงทุนของโครงการนี้สูงกว่า 14,000 ล้านบาทแล้ว บนพื้นที่ในโครงการ 500,000 ตร.ม.เท่าเดิม จากงบประมาณที่เคยแจ้งมูลค่าโครงการในกลางปี 2546 ที่ผ่านมามีมูลค่า 10,000 ล้านบาท บริษัทวางกำหนดการเปิดให้บริการสยามพารากอนแล้วในวันที่ 1 พ.ย. 2548 ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่ในส่วนของพลาซาจะเสร็จเพียง 80-90% ส่วนห้างสรรพสินค้าจะเสร็จสมบูรณ์ 100%

โดยขณะนี้เซ็นสัญญาระยะยาว 25 ปี กับกลุ่มผู้เช่าพื้นที่ไปแล้ว 95% ภายใต้อัตราค่าเซ้ง 2.2 แสนบาทต่อตร.ม.ตลอดอายุสัญญา สำหรับพื้นที่ที่เหลืออีก 5% อาจจะเป็นพื้นที่ที่รอแบรนด์ใหม่ๆ ที่จะเข้ามา แต่คาดว่าจะปิดโครงการได้ภายในเร็วๆ นี้ และหากมีแบรนด์ใหม่เข้ามาเพิ่มเติมก็จะให้อยู่ในส่วนของห้างสรรพสินค้า

จำนวนร้านค้าที่จะเข้ามาเปิดให้บริการที่เป็นกลุ่มเสื้อผ้าแฟชั่น จิวเวลรีจะมีมากกว่า 280 ร้านค้า และส่วนใหญ่เป็นร้านที่ตกแต่งเพื่อให้เป็นสาขาต้นแบบหรือแฟลกชิป สโตร์ แห่งเดียวที่สยามพารากอน ประมาณ 30-40% อีกทั้งยังมีร้านค้าแบรนด์เนมชั้นนำจากต่างประเทศที่เข้ามาเป็นครั้งแรกในประเทศ ไทยอีกหลายแบรนด์ และมีแบรนด์ที่กลับมาเปิดในไทยใหม่อีกครั้งด้วย อาทิ โดเช่ กาบาน่า, โจโจ อามานี, ดี แอนด์ จี, ยาฟิโร, ดามาส, มิกิ โมโต, อิสเซ มิยากิ เป็นต้น

กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ของสยามพารากอนจะเป็นนักท่องเที่ยว สัดส่วนสินค้าที่จำหน่ายจึงเป็นแบรนด์นำเข้าจากต่างประเทศประมาณ 70% และแบรนด์ไทย 30%

เม็ดเงินในการลงทุนตกแต่งร้านค้ารวมค่าสินค้าของผู้ประกอบการแต่ละรายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 100-150 ล้านบาท ซึ่งหากนับเป็นค่าตกแต่งเพียงอย่างเดียว ร้านขนาดใหญ่ 300-500 ตร.ม. จะใช้งบ 50 ล้านบาท ระดับกลาง 160-300 ตร.ม. ใช้งบ 15-20 ล้านบาท และขนาดเล็กที่น้อยกว่า 160 ตร.ม.ใช้งบ 3-10 ล้านบาท

อัดเม็ดเงินโปรโมตต่างชาติ

ในช่วงปลายปีที่โครงการสยามพารากอนใกล้เปิด บริษัทวางแผนไว้ที่จะทุ่มเม็ดเงินจำนวนหนึ่งในการประชาสัมพันธ์ครบวงจรไปยังตลาดต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นการใช้สื่อมัลติมีเดียสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็น โฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านกลุ่มบริษัททัวร์ หรือผ่านสื่อโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ในประเทศเป้าหมายหลัก ซึ่งในการประชุมครั้งหน้าพร้อมจะกำหนดเม็ดเงินที่จะใช้ในการประชาสัมพันธ์

หลังจากเปิดสยามพารากอนแล้วคาดว่าถนนเส้นสุขุมวิทจะเปลี่ยนเป็นชอปปิ้ง สตรีทไปโดยปริยาย แต่ถึงอย่างไรก็ยังต้องอาศัยแรงกระตุ้นจากภาครัฐบาลในการสร้างการประชาสัมพันธ์ชูเป็นชอปปิ้ง สตรีทอย่างจริงจัง

ในส่วนของ ดิ เอ็มโพเรียมนั้นก็เตรียมที่จะปรับปรุงครั้งใหญ่ให้เป็นโฉมใหม่ทั้งหมดในปีหน้าเช่นกัน เพื่อสร้างความแตกต่างของภาพลักษณ์ระหว่างดิ เอ็มโพเรียมและสยามพารากอนให้ชัดเจน

ยันสุวรรณภูมิล่าช้าไม่กระทบ

โครงการสนามบินสุวรรณภูมิก็จะมีส่วนช่วยดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวให้เพิ่มมากขึ้น โดยโครงการ ดังกล่าววางเป้าที่จะเปิดในปีหน้า ซึ่งถึงแม้ว่าจะเสร็จ ไม่ทันตามกำหนดหรือเปิดให้บริการล่าช้ากว่าที่วางไว้ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มลูกค้าที่จะเข้าในสยาม พารากอน เนื่องจากมองว่าสยามพารากอนน่าจะเป็น แหล่งชอปปิ้งที่ดึงดูดความสนใจให้นักท่องเที่ยวมาเมืองไทยได้เช่นกัน

นอกจากนี้ การทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองปลอดภาษีก็จะยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวต้องการมาชอปปิ้งในเมืองไทยมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ค่าใช้จ่ายต่อหัวต่อคนของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างน้อยจากเดิมที่เฉลี่ยประมาณ 1,000 บาท ได้สัก 1 เท่าก็จะทำให้เม็ดเงินนอกไหลเข้ามาจากการท่องเที่ยวเป็นแสนล้านบาท และสู้กับคู่แข่งอย่างฮ่องกงที่มีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศมากถึง 10 ล้านคน โดยจะเข้าพูดคุยอย่างจริงจังกับรัฐบาลอีกครั้งหลังการเลือกตั้งใหญ่ในปีหน้า   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us