Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กุมภาพันธ์ 2545








 
นิตยสารผู้จัดการ กุมภาพันธ์ 2545
Breaking the Mold             
 

   
related stories

The Crystal Palace
The Golden Age of Flower Power
Aga Keeps on Cookin
Secrets of the China Trade
Back in the Bottle
The First Lady of Sole
Where Time Stands Still




สมาชิกทั้งเจ็ดคนของครอบครัว แย้ดโร (Lladro) อยู่กันพร้อมหน้าในสำนักงาน ใหญ่ของบริษัทแย้ดโรในเมืองวาเลนเชีย ประเทศสเปน พวกเขากำลังจะลงคะแนนลับ การเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่แต่ละชิ้นจะต้องได้ รับเสียงสนับสนุนอย่างเป็นเอกฉันท์ และเมื่อ มีผลิตภัณฑ์ใหม่ชิ้นใดที่ผ่านกระบวนการให้ ความเห็นชอบของกลุ่มผู้บริหารทั้งเจ็ดไปได้ แล้ว สินค้าตัวเก่าชิ้นหนึ่งก็มักจะถูกถอดออก ไปจากแค็ตตาล็อกสินค้าของบริษัท มองดู เป็นวิธีการบริหารที่ออกจะโบราณ แต่ระบบ การบริหารแบบครอบครัวของแย้ดโรเช่นนี้ก็ สามารถผ่านการทดสอบในเชิงธุรกิจมาแล้ว ครั้งแล้วครั้งเล่า

ในขณะที่ทุกวันนี้ บริษัทเครื่องเคลือบ ดินเผาจำนวนมากในเมืองวาเลนเชีย ต่างพา กันผลิตทุกอย่างนับตั้งแต่เครื่องถ้วยชามไป จนถึงกระเบื้องห้องน้ำ แต่แย้ดโรยังคงมั่นคง อยู่กับการผลิตรูปปั้นพอร์ซเลนที่สวยงามอย่าง ต่อเนื่องมาเป็นเวลาเกือบ 50 ปีแล้ว พอร์ซ เลนเนื้อละเอียดงดงามของแย้ดโรได้เดินทาง ไปประดับอยู่ในตู้โชว์นับร้อยนับพันทั่วโลก ความยืนยงของธุรกิจพอร์ซเลนตระกูลแย้ดโร เกิดจากความสามารถในการปรับวิธีการ ทำงานแบบเก่า ให้เข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ได้โดยแท้ โดยไม่ตกเป็นทาสของเทคโนโลยี หรือติดยึดกับวิธีการที่ล้าสมัย

แย้ดโรนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาพบ กับความชำนาญเฉพาะบุคคล ขั้นตอนใดใน กระบวนการผลิตที่สมควรเปลี่ยนไปใช้เทคโน โลยีให้ทันสมัยขึ้นก็จะได้รับการเปลี่ยนแปลง อย่างทันท่วงที ขั้นตอนใดที่ยังคงต้องใช้มือ และตาจึงจะสัมฤทธิผลเต็มที่ก็คงไว้ตามเดิม การเทพอร์ซเลนเหลวลงในแม่พิมพ์ต้องใช้มือ ที่ชำนาญ พอร์ซเลนเหลวจะถูกทิ้งไว้เพียงครู่ เดียวให้แข็งตัวเพียงบางส่วนตามที่ต้องการ เท่านั้น จากนั้นพอร์ซเลนเหลวส่วนเกินจะถูกเทออกไปเพื่อให้ได้รูปปั้นที่กลวง งานละเอียดอ่อนเช่นดอกไม้ก็จะทำด้วยมือทั้งหมดเช่น กัน รูปปั้นที่ประกอบเสร็จจะถูกส่งต่อไปยังช่างสีและช่างเคลือบ เพื่อพ่นสารเคลือบสีขาวชนิด พิเศษซึ่งมีความมันวาวสูง จากนั้นจึงนำไปเผาด้วยอุณหภูมิ 1300 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 20 ถึง 22 ชั่วโมง ด้วยเตาเผาทันสมัยซึ่งใช้แก๊ส ซึ่งคนในตระกูลแย้ดโรพิจารณาแล้วว่าเป็น เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สามารถแทนที่เตาเผาที่ใช้ถ่านและฟืนได้ งานผลิตพอร์ซเลนเป็นงานที่ ต้องอาศัยความชำนาญสูง ดังนั้น เคล็ดลับความสำเร็จของแย้ดโรก็คือ พนักงานที่มีคุณภาพสูง และการฝึกอบรมอย่างสม่ำเสมอ

3 พี่น้องตระกูลแย้ดโร ซึ่งขณะนี้มีอายุรวมกัน 215 ปีแล้ว คือกำลังหลักของตระกูล ฮวน แย้ดโร โดลซ์ วัย 74 ผู้พี่ใหญ่เป็นคนแรกของครอบครัวที่ตัดสินใจหันหลังให้กับอาชีพเกษตรกร อันเป็นอาชีพดั้งเดิมของพ่อแม่ปู่ย่า เพื่อไปเป็นเด็กฝึกงานของช่างทำกระเบื้องภายในหมู่บ้าน เมื่อน้องชายทั้งสองคือโฮเซ่และวิเซนติ ซึ่งอายุ 72 และ 69 แล้วในขณะนี้ ตัดสินใจเจริญรอย ตามพี่ชาย 3 พี่น้องก็สามารถเปิดโรงงานขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1953 กิจการเจริญรุดหน้าไปด้วยดี จนต้องย้ายโรงงานใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมในปี 1970

ฮวนเป็นคนที่คิดจะทำให้พอร์ซเลนลดความเป็นสินค้าที่ผู้ดีมีเงินเท่านั้นจึงจะครอบ ครองได้ "ผมต้องการจะทำให้สิ่งซึ่งเคยมีแต่คนใหญ่คนโตเท่านั้นถึงจะเป็นเจ้าของได้เป็นสิ่ง ที่คนเดินถนนก็สามารถจะมีได้เช่นกัน" ฮวนกล่าว ฮวนและน้องชายทั้งสองใช้เวลาไม่นาน ในการตัดสินใจซื้อเตาเผาทันสมัยที่ใช้แก๊สแทนถ่านและฟืนซึ่งล้าหลังไปแล้ว ทำให้ราคาของ ตุ๊กตาพอร์ซเลนที่ผลิตได้ลดลงเหลือเพียงตัวละ 30 ดอลลาร์เท่านั้น และตั้งแต่นั้นมาแย้ดโร ก็ติดปีก บริษัทเริ่มส่งออกในช่วงปลายทศวรรษ 1960 และมาถึงวันนี้แย้ดโรสามารถขาย พอร์ซเลนของตนได้ถึง 97 ล้านดอลลาร์ต่อปีในสหรัฐฯ และแคนาดา อีก 83 ล้านดอลลาร์ต่อปี ในยุโรป และอีก 50 ล้านดอลลาร์ต่อปีจากส่วนอื่นๆ ของโลก

"การจะนำหน้าคนอื่น คุณจะต้องมีความปรารถนาอย่างแรงกล้า การทำงานหนัก อย่างไม่ลดละ รู้จักคิดพลิกแพลงบ้าง และต้องไม่ละทิ้งสิ่งที่ฝัน" คือคำตอบสุดท้ายจากโฮเซ่ น้องชายคนกลางของตระกูล

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us