Olga Berluti ทายาทรุ่นที่ 4 และทายาทหญิงเพียงคนเดียวของตระกูลช่างทำ รองเท้าจากอิตาลี
ยังคงสามารถรักษาชื่อเสียงของตระกูลที่สั่งสมมาช้านานในปารีสได้ อย่างงดงาม
เมื่อเธอนำความโก้หรูโฉบเฉี่ยวอย่างแฟชั่นปารีส และดีไซน์ที่สนุกสนาน พิสดารจากไอเดียของเธอเอง
ผสมกลมกลืนเข้ากับฝีมือการตัดเย็บรองเท้าอันละเมียด ละไมไร้ที่ติอย่างช่างอิตาลีได้อย่างลงตัวที่สุด
นับตั้งแต่เข้าสืบทอดธุรกิจรองเท้า "Berluti" ของตระกูล ในปี
1980 เป็นต้นมา Olga ก็ไม่เคยหยุดสนุกกับการออกแบบรองเท้าด้วยความคิดที่โลดโผนพิสดารไม่มีใครเหมือน
ซึ่งปู่ของเธอ ผู้ผลักดันให้เธอก้าวเข้าสู่ธุรกิจการตัดเย็บรองเท้าตั้งแต่เธอเพิ่งจะพ้น
รั้วโรงเรียนคอนแวนต์มาหมาดๆ ไม่มีวันที่จะคิดไปถึง ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการฟอกหนัง
ที่ใช้การขัดถูอย่างรุนแรงจนหนังขึ้นลาย การใช้สีที่แปลกประหลาดที่ไม่เคยมีใครนึกจะใช้
เช่น สีแดงดินเผา สีเขียวหนังเซเบิล สีม่วงเข้มมัลเบอร์รี หรือสีม่วงองุ่นพันธุ์พิโนต์-นัวร์
การจับจีบ และการตอกรูให้เป็น "รอยสัก" ไปจนถึงการใช้เส้นหนังร้อยรอบข้างของรองเท้าอย่างหรูหรา
ราวกับในราชสำนักแวร์ซายส์
Olga ยังริเริ่มการ "ทุ่มเทเอาใจใส่" ต่อลูกค้าทุกรายละเอียดราวกับเธอมีมือสี่มือ
ชนิด ที่บรรพบุรุษของเธอไม่เคยทำมาก่อน แต่การทุ่มเทเอาใจใส่ของเธอห่างไกลกับการ
"ทุ่มเท เอาใจ" เธอจะไม่สนองความต้องการของลูกค้าอย่างผิดๆ โอลกาไม่เคยลังเลเลยที่จะคัดค้าน
อย่างหัวชนฝาหากความต้องการของลูกค้านั้นผิด เธอจึงโด่งดังในทางปฏิเสธลูกค้า
หากว่า รองเท้าที่ลูกค้าต้องการให้ตัดนั้นไม่เข้ากับรูปเท้าหรือไลฟ์สไตล์ของลูกค้า
ตำนานความสำเร็จของ Berluti เริ่มขึ้นเมื่อ Alessandro Berluti ปู่ทวดของ
Olga ช่างไม้ ผู้เบนเข็มมาเป็นช่างตัดรองเท้า ได้เดินทางมาที่ปารีสในปี 1895
ค่อยๆ สั่งสมชื่อเสียงในการ ตัดรองเท้าตามสั่ง บุตรชายของเขา Torello ตามมาที่ปารีสในปี
1928 และสานต่อความสำเร็จ ด้วยแบบรองเท้าที่โด่งดังหลายแบบ "รองเท้าของโป๊ป"
คือการปรับปรุงรองเท้าต้นแบบของ บิดา ซึ่งเป็นรองเท้าไร้ตะเข็บ และมีรูร้อยเชือก
3 รู "รองเท้าของเจ้าชายยุคเรอเนสซองซ์" เป็นรองเท้าแบบอินเดียนแดงที่เรียกว่ามอคคาซินไร้ตะเข็บ
และ "นโปเลียนที่ 3" เป็นรองเท้า ชั้นสูงซึ่งนำผ้ายืดมาใช้ ทำให้ไม่ต้องผูกเชือกเป็นครั้งแรก
เมื่อ Berluti ตกทอดมาถึงรุ่นที่สาม คือ Talbinio บุตรชายของ Torello เขาได้เพิ่มไลน์รองเท้าสำเร็จรูประดับหรูขึ้นมาอีกธุรกิจหนึ่ง
ทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าไปยังตลาด ต่างประเทศได้เป็นจำนวนมาก จนกระทั่งใน
เวลาที่โอลการับสืบทอดกิจการเป็นรุ่นที่สี่ นั้น รายชื่อของลูกค้าที่อยู่ในมือของ
Berluti ก็ เป็นลิสต์ยาวเหยียดที่ดูราวกับเป็นสารบัญรายชื่อบุคคลสำคัญหนังสือ
"Who's Who" อย่างไรอย่างนั้น แถมเป็นฮูส์ฮูของทั้งวงการ ศิลปะ
วิทยาศาสตร์ และอุตสาหกรรมของ ศตวรรษที่ 20 ด้วย ลูกค้าเหล่านี้ก็เช่น โรเบิร์ต
เอฟ เคนเนดี้, ฟรองซัวส์ ทรูฟโฟต์, แอนดี้ วอร์ฮอล, เจมส์ เดอ รอธส์ชายด์,
กาสตง และคลอด กาลลิมาด์, คูร์ซิโอ มาลาปาร์ต, อัลแบร์โต โมราเวีย, อีดิธ
เพียฟ, ปิแอร์ ปาบโล ปาโซลินี, มาร์เซล ดาสโซต์ และ เซอร์จิโอ ลีโอน
เอกลักษณ์ที่รู้จักกันดีอย่างหนึ่งของ Berluti คือ วิธีการฟอกหนังซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ
Berluti วิธีที่เรียกว่า "วีนีเชีย" (Venetia) นี้ จะทำให้ได้หนังที่มีความนิ่มมาก
เป็นพิเศษ กระนั้นก็ตาม Olga ก็ยังพยายาม จะสร้างความแตกต่างด้วยวิธีการพิสดาร
ต่างๆ นานาที่เธอคิดขึ้น บางครั้งเธอนำหนัง ที่ฟอกแล้วไปซักล้างในลากูนในเวนิช
ฝังใน หิมะของเทือกเขาแอลป์ หรือบางทีก็เอาไปอาบ แสงจันทร์
โอลกากำลังจะเปิดสาขาที่สองในปารีสใน เดือนกันยายนนี้ ที่ st.Germain-des-pre's
แซงต์ แชร์แมงต์-เดส์-แพร์ ซึ่งเป็นที่ที่เธอจะใช้เปิดตัวคอล เลกชันใหม่ของฤดูใบไม้ร่วงด้วย
หนึ่งในนั้นคือ รองเท้าบู๊ตสั้นตัดเย็บด้วยหนังนิ่มพิเศษและเรียบ เป็นมัน
ทว่าทนทานอันเป็นเอกลักษณ์ของเบอร์ลูติ ความพิเศษของรองเท้าคู่นี้จะอยู่ตรงที่พื้นรองเท้า
ที่เป็นยาง ซึ่งนอกจากจะสลักเป็นลายที่เหมือนกับ ลายของยางรถโรลสรอยซ์ในช่วงทศวรรษ
1930 แล้ว ยังเป็นยางที่พัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถ รองรับแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นในขณะเดินโดย
เฉพาะ เพื่อทะนุถนอมสุขภาพเท้าและกระดูกของ ผู้เป็นเจ้าของ ในขณะที่ยังคงความหรูเฟ่อย่างรองเท้าแฟชั่นชั้นสูงไว้อย่างครบถ้วน
แม้ว่า Olga จะเป็นคนที่พิสดารโลดโผนเพียงใด ก็ใช่ว่าเธอจะไม่เคยทำอะไรที่เรียบ
ง่ายธรรมดา ในช่วงแรกๆ หลังจากที่เธอเริ่มเข้ากุมบังเหียนธุรกิจของครอบครัว
หนึ่งในความ คิดสร้างสรรค์ในยุคนั้นของเธอคือ การสอดแผ่นหนังบางๆ ไว้ใต้พื้นรองเท้าทุกข้าง
ซึ่งนอกจาก จะเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้แก่รองเท้าแล้ว ยังเป็นที่สำหรับเซ็นลายเซ็นของเธอด้วย
การ ปฏิบัติเช่นนี้แท้ที่จริงแล้วเป็นการทำตามประเพณีโบราณของช่างรองเท้าอิตาลีที่ปฏิบัติกัน
มานมนานแล้ว แผ่นหนังชิ้นบางนี้ถือเป็นตัวแทนของวิญญาณของรองเท้า ก็เช่นเดียวกับตัว
โอลกา ที่เปรียบเสมือนวิญญาณที่สดใสเปี่ยมพลังและเต็มไปด้วยชีวิตชีวาของกิจการรองเท้า
เบอร์ลูตินั่นเอง