Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กุมภาพันธ์ 2545








 
นิตยสารผู้จัดการ กุมภาพันธ์ 2545
Back in the Bottle             
 

   
related stories

The Crystal Palace
The Golden Age of Flower Power
Aga Keeps on Cookin
Secrets of the China Trade
The First Lady of Sole
Breaking the Mold
Where Time Stands Still




เป็นการรอคอยที่ยาวนานเกือบตลอดชีวิตของ Radomil Hill ผู้มีอายุเพียง 24 ปี ในปี 1948 เมื่อกิจการโรงสุราที่กำลังทำกำไรของครอบครัว ถูกรัฐบาลคอมมิวนิสต์เชโกสโลวะเกีย ยึดเป็นของรัฐ ช่วงเวลา 40 ปีต่อมา ฮิลจำใจต้องใช้ความสามารถในการกลั่นสุราของเขาใน โรงสุราและโรงไวน์ของรัฐบาล แต่ตลอดระยะเวลาอันยาวนานนั้น ฮิลไม่เคยเปิดเผยสูตรลับ เมรัยของครอบครัวเลย สูตรพิเศษนั้นคงมีตัวตนอยู่แต่เพียงในความจำและในสมุดโน้ตเก่าๆ ที่เขาใช้จดบันทึกเมื่อครั้งเป็นเด็กฝึกงานในโรงสุราของพ่อเมื่อวัย 16 ปีเท่านั้น

โอกาสที่เขาจะได้พลิกฟื้นธุรกิจของครอบครัวมาถึงในปี 1989 ซึ่งเขามีอายุถึง 65 ปีแล้ว แก่พอที่จะคิดถึงการเกษียณ แต่อายุที่มากขึ้นไม่สามารถละลายความฝันของเขาลงได้แม้แต่ เพียงเศษเสี้ยว เขารอช่วงเวลานี้มา 40 ปีเต็ม ช่วงเวลาที่จะฟื้นคืนชีพธุรกิจของครอบครัวขึ้น มาอีกครั้ง ที่เขาจะได้ใช้ความสามารถทางการปรุงสุราของเขาได้อย่างเต็มที่ ฮิลขายรถมาเป็น เงินทุนตั้งต้น และโรงสุรา Hill's Liquere ก็ฟื้นคืนชีวิตในปี 1990

ในช่วงแรกๆ Hill ยังคงไม่ได้ใช้ความ สามารถอย่างเต็มที่ เพื่อความปลอดภัยไว้ ก่อน เขาจึงผลิตเครื่องดื่มที่มีพื้นฐานของสุรา แต่มีส่วนผสมต่างกันเพียง 5 ชนิดคือ รัม วอดกา เป๊ปเปอร์มินต์ มะพร้าว และกาแฟ แต่แล้วเขาก็ไม่อาจสะกดกลั้นใจไว้ได้ เมื่อ มีสูตรลับสุราสูตรเด็ดของตระกูลเต้นเร่าๆ อยู่ภายในหัว Hill เริ่มวางตลาดเหล้า absinthe น้ำอมฤตสีมรกตรสขมฤทธิ์แรง รวดเดียว หลายชนิด ภายใต้ชื่อ Hill's Absinth

นักดื่มส่วนใหญ่ต่างตระหนักดีว่า ส่วนผสมบางอย่างของเหล้าชนิดนี้สามารถ บันดาลความรื่นเริงบันเทิงใจเกินปกติ และลับประสาท สัมผัสของผู้เสพให้แหลมคมขึ้น แต่ดูเหมือนว่า ศิลปินในยุคศตวรรษที่ 19 จนถึงต้นศตวรรษที่ 20 จะเป็นผู้ที่ซาบซึ้งกับ "ความสามารถพิเศษ" ที่ว่าของเมรัยชนิดนี้ มากกว่าใคร ดังปรากฏเป็นหลักฐานในงานของ Edouard Manet ชื่อ "The Absinthe Drinker" และงานของ Edgar Degas ชื่อ "L'absinthe" อย่างไรก็ตาม เหล้าชนิดนี้ในภายหลังได้กลับกลายเป็นเครื่องทำลายศิลปินไปมาก มาย ในที่สุด ในช่วงต้นทศวรรษ 1900 absinthe ก็ถูกสั่งห้ามจำหน่ายในหลายประเทศ เช่น ฝรั่งเศส สวิตเซอร์ แลนด์ และสหรัฐอเมริกา แต่ไม่ใช่ในเชโกสโลวะเกีย

การที่ถูกจัดเป็นของต้องห้ามราวกับผลไม้ทิพย์ บนสวรรค์กลับทำให้เหล้า absinthe ในประเทศนั้นขายดี เป็นเทน้ำเทท่า อดีตสีดำของ absinthe ทำให้ผู้ดื่ม รู้สึกตื่นเต้นเหมือนได้เสี่ยงภัย การได้ดื่มเหล้าที่ทำให้สามารถสร้างภาพเพ้อฝันอันบรรเจิด เพริศแพร้วเหมือนช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ทุกวันนี้ ฮิลถึงกับผลิตไม่ทันขาย เขาสร้างสรรค์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้ง 54 ชนิด โดยมี absinthe เป็นสัดส่วนถึง 75% (หรือ 77,000 ลิตรต่อปี) และส่งออกไปยังประเทศออสเตรีย เยอรมนี อังกฤษ และรัสเซีย

แต่สิ่งที่นักร่ำ absinthe วันนี้อาจจะยังไม่รู้ก็คือ เหล้าชนิดนี้ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นของ Hill หรือผู้ผลิตรายอื่นๆ ในยุโรปที่ผลิตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หาได้มีคุณสมบัติในการ สะกดจิตใจนักเสพให้เคลิบเคลิ้มไปกับจินตนาการอันบรรเจิด เหมือน absinthe ในวันก่อนอีก ต่อไปไม่ ทั้งนี้เพราะกฎระเบียบอันเข้มงวดได้จำกัดปริมาณของทูโจน (thujone) สารที่สกัดได้ จากต้นเวิร์มวูด ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เหล้า absinthe ในอดีต มีฤทธิ์ต่ออารมณ์และจิตใจ และ บันดาลให้เกิดภาพลวงตาต่างๆ อย่างไรก็ตาม เหล้า สูตรเด็ดของ Hill ยังคงมีปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 70% และมีรสชาติแบบเชกที่แปลกแตกต่างไปจากที่ ผลิตในประเทศอื่น โดยมีอะนิสในปริมาณที่น้อยกว่า แต่มีเป๊ปเปอร์มินต์มากกว่า

ทุกวันนี้แม้ร่างกายจะอ่อนแอลงด้วยวัยที่เพิ่ม สูงขึ้น แต่ฮิลก็ยังคงกระฉับกระเฉงในการดูแลธุรกิจ ที่เขารัก และยังคงพร่ำสอนลูกๆ และหลานชายอยู่ เสมอ "นักปรุงอมฤตที่ดีเพียงแค่เห็นสูตรก็รู้ได้ทันทีว่า เมรัยนั้นจะมีรสชาติอย่างไร เช่นกันกับนักดนตรีที่ เพียงแค่มองตัวโน้ตก็ได้ยินเป็นเพลง"

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us