งานฝีมือที่มีเอกลักษณ์ของชิ้นงานแต่ละชิ้น ส่งผลให้เครื่องดินเผาของ Herend
ทรงคุณค่าเหนือกาลเวลาตราบจนปัจจุบัน
เมื่อครั้งที่ราชินีวิคตอเรียได้เสด็จเยือนนิทรรศการอันยิ่งใหญ่ที่คริสตัลพาเลสในกรุงลอนดอนในปี
1851 นั้น พระนางทรงประทับใจงานเครื่องเคลือบรูปผีเสื้อที่ผลิตโดยโรงงานฮังการีเล็กๆ
ที่ชื่อ Herend หลังจาก นั้น พระนางจึงสั่งซื้อเครื่องเคลือบแบบครบชุดจากที่นี่มาใช้ที่พระราชวังวินเซอร์
Mor Fischer เจ้าของบริษัท เล็งเห็นช่องทางที่ดีทันที จึงรีบตั้งชื่อเครื่องเคลือบชุดนั้นตามพระนามของพระองค์
จนถึงวันนี้ 175 ปีให้หลัง นับจากที่ กิจการได้ก่อตั้งขึ้นที่หมู่บ้าน
Herend ท่าม กลางหุบเขาสลับซับซ้อนใน Bakony ของ ฮังการี ชุดรับประทานอาหารรุ่น
"วิคตอเรีย" ยังคงเป็นแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของ เฮเรนด์
ปัจจุบันสินค้าของ Herend มีจำหน่าย ใน 58 ประเทศ เฉพาะในอเมริกา บริษัทฯ
มีช่องทางจำหน่ายมากกว่า 500 แห่ง Herend กลายเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมในฮังการี
ลูกค้าต่างประเทศของกิจการ มีทั้งกษัตริย์ และราชินี, พระจักรพรรดิ, สุลต่าน,
ประธานา ธิบดี ตลอดจนดาราฮอลลีวู้ดชื่อดัง ไม่น่า แปลกใจที่เมื่อปีที่แล้วบริษัทฯ
มียอดขายสูง ถึง 26 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 28% จากปี 1999
ลูกค้าบางคนชื่นชอบ Herend เพราะ โทนสี ลวดลายที่ละเอียดงดงาม ตลอดจน ผลงานที่สร้างสรรค์ด้วยมือ
บ้างก็ชอบเพราะรู้สึกว่าของเหล่านี้เป็นงานศิลปะ เมื่อได้ชม ก็มีความสุข
ย้อนหลังไปเมื่อปี 1839 Mor Fischer ซื้อ "Herend" กิจการเล็กๆ ที่ผลิตเครื่องใช้
ที่ทำจากหิน แล้วดำเนินการปฏิรูปปรับเปลี่ยน ให้เป็นธุรกิจผลิตชุดรับประทานอาหารแบบ
หรูหราเพื่อทดแทนเครื่องใช้ที่เสียหาย เพราะก่อนหน้านั้น โรงงานที่ผลิตชุดน้ำชาหรูๆ
แบบนี้พากันปิดตัวลง ทำให้สินค้าดังกล่าว ขาดแคลน เมื่อใดที่เจ้าของทำแตกหักเสีย
หาย ก็ไม่อาจหาชุดที่จะมาใช้แทนได้ Fischer จึงอาศัยช่องว่างนี้ในการสร้างแบบ,
ดีไซน์, รูปทรง และการลงสีที่สวยงามและมีคุณภาพ เทียบเท่างานสร้างสรรค์ของจีนและญี่ปุ่น
ไม่ช้าสินค้าของ Herend ก็ครองใจลูกค้า จน ไม่รู้ว่าอันไหนคือ ของแท้ อันไหนคือ
ของที่ ทำขึ้นใหม่ ไม่นานยอดสั่งซื้อก็ไหลมาเทมา โดยเฉพาะจากครอบครัวชนชั้นสูงในยุโรป
อาทิ Esterhazy, Liechtenstein, Windischgratz รวมถึงราชสำนักในเวียนนาด้วย
ขณะเดียวกัน บรรดาศิลปินของ Herend ก็สร้างสรรค์แบบ ใหม่ๆ ออกมา ซึ่งได้แก่
แบบที่ราชินีวิคตอเรียทรงโปรด ปราน
ทุกวันนี้ Herend ได้สร้างงานหลากหลายถึง 15,000 รูปทรง ด้วยรูปแบบต่างๆ
กันถึง 3,000 แบบ ด้วยสีสันต่างๆ นานา นับตั้งแต่สีชมพูสลับทอง ไปจน ถึงภาพดอกไม้ป่าเล็กๆ
และหมู่ภมรบนพื้นสีขาวบริสุทธิ์ ที่ได้แรงบันดาลใจจากทิวทัศน์แถบชนบทของ
Bakony
แต่ความลับที่แท้จริงของความสำเร็จที่เป็นอมตะของ Herend ก็คือ ผลิตภัณฑ์ที่ไร้ที่ติ
Simon-Pierre Cooper แห่งบริษัท Thomas Goode & Co. ที่เป็นผู้ดูแลจัดหาเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารให้แก่ราชวงศ์
อังกฤษมาตั้งแต่ปี 1963 กล่าวว่า ความโดดเด่นของ Herend นั้นอยู่ที่งานเครื่องเคลือบพื้นขาว
แวววาว ที่ทำให้สีสันและรูปแบบของภาพโดดเด่น และไม่ตกยุค
Herend มีโรงงานเครื่องเคลือบที่ใช้แรงงานคนที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยว่าจ้างคนงาน
ถึง 1,560 คน 700 คนในจำนวนนี้เป็นช่างสี อีก 35 คนเป็นช่างสีผู้เชี่ยวชาญ
ดินเหนียวที่ใช้ใน การปั้นเป็นดินเหนียวคุณภาพดี นำเข้าจาก Limoges ในฝรั่งเศส
นักปั้นต้องผ่านการฝึกอบรม จากสถาบันอบรมของ Herend เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 3
ปี แต่ละปี จะมีนักศึกษาเพียง 14-15 คน ที่ได้รับการคัดเลือกให้ทำงาน จากผู้สมัครทั้งหมดจำนวน
80 คน
Gyula Weber หัวหน้า แผนกสี ได้เริ่มต้นที่โรงเรียนแห่ง นี้เมื่อ 40 ปีที่แล้ว
ตอนนั้นเขา อายุเพียง 14 ปี เขาต้องใช้เวลา ถึง 10 ปีกว่าจะได้เข้ามาทำงาน
เป็นช่างสีเต็มตัว โดยต้องใช้เวลา ร่ำเรียนในสถาบันฝึกอบรม 3 ปี และทำงานในสายการผลิตอีก
7 ปี ช่างสีต้องเสนองานชิ้น สำคัญที่ตนออกแบบให้คณะกรรมการตัดสิน ถ้าผ่านการ
พิจารณา เขาจะได้รับอนุญาต ให้เซ็นชื่อไว้ที่ด้านล่างของงานแต่ละชิ้นที่พวกเขาสร้างสรรค์
เคียงคู่กับตราโลโกของ Herend งานดังกล่าวเป็นงานราคาแพงหายากสำหรับนักสะสม
ตัวอย่างเช่น ชุดน้ำชาที่มีลายเซ็น บางชุดมีราคาสูงถึง 650 เหรียญทีเดียว
Zsolt Bak ช่างสีผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง เล่าว่า "เนื่องจากงานลงสีเป็นงานทำมือ
แต่ละชิ้น งานจึงแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ แต่นี่ล่ะคือหัวใจของ Herend และทำให้งานแต่ละชิ้นมีเอกลักษณ์
เฉพาะ" ส่วนใหญ่แล้ว งานลงสีที่ละเอียดอ่อน เช่น รูปปลาตัวเล็กๆ หรือรูปชุดจำลองสัตว์
จะมอบให้ช่างสีผู้หญิงรับผิดชอบ เพราะใจเย็นกว่า ขณะที่บางงานอาจเป็นหน้าที่ของผู้ชาย
เพราะฝีแปรงจะแม่นยำกว่า
ก่อนหน้านี้ Herend ได้ประโยชน์จากค่าเงินที่แข็งแกร่ง ภายใต้ระบอบการปกครอง
แบบคอมมิวนิสต์ แต่หลังการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเมื่อต้นทศวรรษ 1990 รัฐบาลฮังการี
ตกลงลดจำนวนคนงานของกิจการลง 75% โครงสร้างบริหารแบบใหม่ทำให้คนทำงานต้อง
ทุ่มเทและมีแรงจูงใจมากขึ้น เนื่องจากมีการแบ่งปันผลกำไรให้กับพนักงาน ทุกวันนี้
Herend ภาคภูมิใจมากกับศูนย์รับแขกที่ครบครันด้วยภัตตาคารหรู, ร้านค้า, พิพิธภัณฑ์
และโรงงาน จำลอง เพื่อแสดงให้เห็นกระบวนการทำงานของ Herend ทุกปีมีผู้แวะมาเยี่ยมชมที่นี่ไม่ต่ำ
กว่า 100,000 คน