|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"ชินคอร์ป" จ้างเฮดฮันเตอร์ สิงคโปร์หาผู้บริหารระดับสูงมาทำงานในสายธุรกิจต่างๆ หลังไม่พบคนไทยที่ถูกใจ เผยสเปกถูกใจ "บุญคลี" ต้อง smart-easy-work hard ระบุประทับใจมืออาชีพเมืองลอดช่อง
นายบุญคลี ปลั่งศิริ ประธานกรรมการบริหารบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่ากลุ่มชินคอร์ปเปลี่ยนกลยุทธ์ในการเฟ้นหาผู้บริหารระดับสูงตั้งแต่ Vice President ขึ้นไปโดยใช้วิธีจ้างบริษัท Head Hunter ในประเทศสิงคโปร์เพื่อหาผู้บริหารชาวสิงคโปร์ที่มีความเหมาะสมในการเข้าทำงาน ในกลุ่มชินคอร์ป
เนื่องจากที่ผ่านมา กลุ่มชินคอร์ปได้เฟ้นหาผู้บริหารระดับสูงที่จะมาเป็นเลือดใหม่เข้ามารับช่วงบริหารงานของกลุ่มในสายงานที่สำคัญต่างๆ มา ระยะหนึ่งแล้ว เริ่มจากที่เขาและทีมงานบางส่วนติดต่อนัดสัมภาษณ์เอง จนมาจ้างบริษัท head hunter ในประเทศไทยเพื่อดำเนินการมาช่วงหนึ่ง แต่ก็ยังไม่ได้ผู้บริหารที่ตรงกับคอนเซ็ปต์ที่ต้องการ
"ผมเปลี่ยนแผนใหม่แล้ว ตัวเลือกในประเทศมีน้อย และที่ผ่านมายังไม่เจอคนที่โดนมากๆ ผมอยากได้คนสิงคโปร์ ที่มีส่วนประกอบที่เราต้องการคือการเป็นคนเอเชียและมีทัศนคติในการทำงานเหมือนกันคือ easy, smart และ work hard"
นายบุญคลีกล่าวว่าที่ผ่านมาเคยประทับใจกับผู้บริหารจากสิงคโปร์ที่เคยร่วมงานในบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส เช่น นายอลัน ลิว ที่รับผิดชอบเรื่อง Customer Relation Management หรือ CRM ของเอไอเอสช่วงแรกๆ จนถึงขนาดที่อยากจะเสนอให้ทำงานในประเทศไทยต่อ แต่นาย อลัน ลิวซึ่งเป็นผู้บริหารที่สิงเทลส่งเข้ามา จำเป็นต้องโยกย้ายไปประจำประเทศออสเตรเลียแทน
"คุณสมบัติอย่างอลัน เป็นแบบที่กลุ่มชินคอร์ป ต้องการ"
รวมทั้งในช่วงต้นปีตั้งแต่ที่กลุ่มชินคอร์ปได้ทำงานร่วมกับธนาคาร DBS ในการร่วมทุนทำธุรกิจ บริษัท แคปปิตอล โอเค ก็ได้เห็นคนที่น่าสนใจในระดับกรรมการบริหารที่มาจากฝ่ายสิงคโปร์อีกเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เขาปฏิเสธว่าการที่มุ่งเป้าหมายไปที่ผู้บริหารชาวสิงคโปร์ไม่ใช่เป็นเพราะมีบริษัทสิงคโปร์เทเลคอมหรือสิงเทลเป็นผู้ถือหุ้นด้วย แต่มาจากวัฒนธรรมและธรรมชาติในการทำธุรกิจที่ตรงกับความต้องการมากกว่า
นายบุญคลีกล่าวว่า การที่กลุ่มชินคอร์ปแตกธุรกิจ (Diversify) ออกไปจากธุรกิจโทรคมนาคม เนื่องจากเป็นเพราะไม่มั่นใจในการเติบโตของธุรกิจโทรคมนาคมในอนาคตเนื่องจากการเกิดขึ้นของคณะกรรมการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) การเปิดเสรีโดยที่การเลือกแตกธุรกิจจำเป็นต้องทำในช่วงที่เอไอเอสมีความเข้มแข็ง
แต่หลังจากแตกธุรกิจแล้วปัญหาที่ตามมาคือการเฟ้นหาผู้บริหารที่จะเข้ามารับผิดชอบธุรกิจใหม่ๆ ที่กลุ่มชินคอร์ปเข้าไปร่วมทุน เพราะที่ผ่านมาผู้บริหาร จะเป็นกลุ่มที่ชำนาญด้านโทรคมนาคมมากกว่า
"ปัญหาด้านทรัพยากรบุคคลเป็นสิ่งที่เรากำลังเผชิญ ซึ่งไม่ใช่แค่กลุ่มชินคอร์ป แต่รวมทั้งอุตสาหกรรมโทรคมนาคม และรัฐวิสาหกิจบางที่เช่นกัน"
เขากล่าวว่ากรณีนายสรรค์ชัย เตียวประเสริฐกุล ผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มชินคอร์ปได้เข้ามาพูดคุยถึงการย้ายไปบริษัท สามารถ ไอ-โมบายเช่นกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นภาพการขาดแคลนผู้บริหารระดับสูงในอุตสาหกรรม
สำหรับนายสรรค์ชัย ปัจจุบันเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารชินนี่ ดอทคอม และกรรมการผู้จัดการแคปปิตอลโอเค เริ่มงานในกลุ่มชินคอร์ปในธุรกิจเปย์ทีวีของไอบีซีก่อนที่จะมีการควบรวมกิจการกับยูทีวีจนกลายเป็นยูบีซีในตอนนี้
หลังจากนั้น รับผิดชอบด้านการตลาดของ เอไอเอส ซึ่งประสบการณ์และความชำนาญที่โดดเด่น ของเขาคือการทำตลาดที่แหวกแนว สร้างความแตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่น รวมทั้งความรอบรู้เรื่องเทคโนโลยีบรอดแบนด์(อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง) ซึ่งตรงกับความต้องการของกลุ่มสามารถ ที่มีเป้าหมาย ให้บริษัท สามารถ ไอ-โมบายเป็นผู้นำในธุรกิจคอนเทนต์บรอดแบนด์ และคอนเทนต์บนโทรศัพท์มือถือทั้งระบบซีดีเอ็มเอและจีเอสเอ็ม
|
|
|
|
|