Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กุมภาพันธ์ 2545








 
นิตยสารผู้จัดการ กุมภาพันธ์ 2545
The Golden Age of Flower Power             
 

   
related stories

The Crystal Palace
Aga Keeps on Cookin
Secrets of the China Trade
Back in the Bottle
The First Lady of Sole
Breaking the Mold
Where Time Stands Still




นี่คือตัวอย่างของการผสานวิทยาการทางการเกษตรเข้ากับกลไกการจัดจำหน่าย ที่ส่งให้เมืองเล็กๆ ในเนเธอร์แลนด์เป็นศูนย์กลางการค้าดอกไม้ของโลก

ณ เวลาหกโมงครึ่งเช้า ที่ห้องประมูลดอกไม้ของ AALSMEER FLOWER ในเมือง เล็กๆ นอกอัมสเตอร์ดัม แน่นขนัดไปด้วยผู้ซื้อกว่า 300 คนในห้อง ผู้ซื้อทุกคนนั่งประจำที่ ตั้งใจฟังเสียงเปิดประมูลผ่านหูฟัง พร้อมกดปุ่มตรงหน้าเพื่อยื่นขอประมูล ดวงตาทุกคู่จับจ้องไปที่นาฬิกาเรือนใหญ่บอกเวลา พร้อมข้อมูลชื่อผู้ปลูกดอกไม้, รายการดอกไม้ที่จำหน่าย, จำนวน, ราคาประมูลที่มีผู้ยื่นขอ และราคาซื้อขั้นต่ำสุดที่กำหนดไว้

ราคาประมูลซื้อที่สูงที่สุดจะปรากฏขึ้นบนหน้าจอ แล้วค่อยๆ เลือนหาย ผู้ซื้อใช้วิธีกดปุ่ม เพื่อหยุดเวลาของนาฬิกา ณ ราคาที่พร้อมจะจ่าย ระบบประมูลแบบ แข่งกับเวลาแบบนี้ผิดแผกไปจากระบบประมูลที่เราคุ้นเคย โดยวิธีเช่นนี้ ถ้าผู้ซื้อกดปุ่มเร็วไป ก็อาจจะจ่ายซื้อในราคาที่สูงเกิน แต่ถ้ากดช้าไป ก็อาจจะเสียสิทธิการซื้อ

AALSMEER FLOWER แห่งเนเธอร์แลนด์ เป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจไม้ดอกมาตั้งแต่ศตวรรษ ที่ 17 ปัจจุบันเป็นผู้จัดหาดอกไม้ตัดจำหน่ายถึง 60% ของตลาดโลก และเป็นผู้ผสานระบบประมูลในธุรกิจมาใช้กับการซื้อขายดอกไม้เป็นรายแรก ถือได้ว่านี่เป็นระบบที่ซับซ้อนที่สุดในโลก เพราะมีผู้ซื้อและผู้ขายมารวมกันมากที่สุด เรียกได้ว่าธุรกิจส่งออกดอกไม้ร่วมครึ่งของทั้งประเทศมารวมกันอยู่ที่นี่

ย้อนหลังไปในช่วงศตวรรษที่ 17 กระแสความนิยมดอกทิวลิปในเนเธอร์แลนด์ นั้นมีสูงมาก ทำให้ราคาเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ชนิดนี้สูงมากเทียบเท่าราคาบ้านหนึ่งหลังทีเดียว เมื่อประกอบกับรูปแบบการดำเนินธุรกิจ ของชาวดัตช์, การมีมหาวิทยาลัยด้านการ เกษตรที่โดดเด่น, ผืนดินที่อุดมสมบูรณ์และเป็นเอกลักษณ์, ความชื้น, ภูมิอากาศที่เหมาะ สม ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยทำให้ธุรกิจส่งออกดอกไม้ของเนเธอร์แลนด์ก้าวล้ำนำหน้า

ช่วงศตวรรษที่แล้ว ความนิยมเพาะดอกไม้ในเรือนกระจกเริ่มแพร่หลาย เพื่อให้สามารถเพาะดอกไม้ได้ตลอดปี ปัจจุบัน 75% ของดอกไม้ตัดจำหน่ายในเนเธอร์แลนด์ ล้วน ปลูกในเรือนกระจกทั้งสิ้น ทุกๆ วัน ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ จะมีผู้ส่งออกและผู้ขาย ส่งดอกไม้จาก 1,300 บริษัทมาซื้อดอกไม้จากชาวสวนกว่า 6,900 คนที่ AALSMEER รายการค้า 50,000 รายการเกิดขึ้นเป็นประจำ ทุกเช้า ในแต่ละวันมียอดขายดอกไม้ตัดจำหน่ายและพืชชนิดอื่นถึง 21 ล้านราย การเปิดประมูลเช่นนี้ทำให้เนเธอร์แลนด์กลายเป็น "วอลล์สตรีทของดอกไม้" และเป็นผู้กำหนดราคาดอกไม้ในตลาดโลก

การเปิดประมูลดอกไม้เริ่มต้นขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1911 ที่ร้านกาแฟ Welkom Cafe' ใน AALSMEER เพราะความเบื่อหน่ายที่ต้องเห็นผู้ซื้อเดินต่อราคาซื้อดอกไม้จากชาวสวนคนแล้วคนเล่า ประกอบกับความต้องการให้ตลาดเป็นผู้มีอำนาจกำหนดราคา แทนผู้ซื้อ ชาวดัตช์ในแถบนั้นจึงร่วมมือกันจัดตั้งสหกรณ์ และมีการเปิดประมูลดอกไม้ตัดจำหน่ายเป็นรายวัน

90 ปีต่อมา ระบบนี้ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น ปัจจุบันตลาดประมูลดอกไม้ AALSMEER แปรสภาพเป็นคอมเพล็กซ์ เนื้อที่ 1 ล้านตารางเมตร มีห้องประมูลถึง 5 ห้อง นาฬิกาประมูลอิเล็กทรอนิกส์ 13 เรือน สถานที่จัดเก็บและขนถ่าย ดอกไม้ พนักงานที่นี่ใช้รถจักรยานขี่ไปมาระหว่างชั้น ทุกๆ วันมีดอกไม้หลากหลาย ทั้งดอกทานตะวัน, ดอกกุหลาบ, คาร์เนชั่น, ลิลลี่ และดอกทิวลิป ผ่านจากมือผู้ขายสู่ผู้ซื้อเป็นจำนวนถึง 25,000 กระบะ เพียงไม่กี่ชั่วโมงดอกไม้ที่ประมูลขายเสร็จในช่วงเช้าจะได้รับการแยกกลุ่ม ทำการหีบห่อ และลำเลียงไปที่รถบรรทุกเพื่อขนถ่ายไปยังสนามบิน Schipol ใกล้ๆ กันนั้น พร้อมที่จะโบยบินไปทั่วโลก พอ ตกเย็นดอกไม้เหล่านี้ก็พร้อมวางจำหน่ายในร้านดอกไม้ที่นิวยอร์ก "เวลาคือสิ่งที่สำคัญที่สุด" Dirk't Hooft ซีอีโอของ AALSMEER กล่าว "อินเทอร์เน็ตช่วยให้เราสามารถย่นเวลาการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็เป็นการขยายตลาดและทำให้การซื้อขาย มีความโปร่งใส"

ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ชาวสวนสามารถกำหนดสต็อก ดอกไม้ในแต่ละวันผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ นั่นหมายถึงผู้ซื้อจะทราบได้ก่อนประมูลว่า พรุ่งนี้จะมีดอกไม้อะไรขาย บ้าง ด้วยระบบซื้อขายทางไกลเช่นนี้ ทำให้ผู้ซื้อสามารถเข้าถึงการประมูลได้จากทั่วทุกมุมโลก

เทคโนโลยีแบบนี้ยังเป็นผลดีต่อผู้ซื้อด้วย เพราะช่วยลดความผิดพลาด และทำให้ผู้ซื้อสามารถซื้อโดยตรงจากรายการสต็อกสินค้าที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ พวกเขาได้เห็นภาพผลิตภัณฑ์ก่อนการตัดสินใจ ข้อเสียก็คือขาดการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย "คงเป็น เสน่ห์ตรงนี้ล่ะที่หายไป แต่ผมไม่คิดว่าเราจะไม่ได้สื่อสารกันเลยหรอกนะ เพราะนี่คือ ธุรกิจแห่งการสื่อสาร" 't Hooft ว่า

เขาเสริมว่า "ธุรกิจดอกไม้นั้นสำคัญที่ความไว้เนื้อเชื่อใจกัน และคุณต้องสร้างสิ่งนั้นให้เกิดขึ้นในระบบอินเทอร์เน็ต การค้าอิเล็กทรอนิกส์ควรจะขยายโอกาส มิใช่ปิดช่องทางที่เป็นอยู่"

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us