Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน17 กันยายน 2547
TCP ประกาศเพิ่มทุน 1 พันล้านบ. ซื้อเครื่องจักร-ลดต้นทุนการผลิต             
 


   
www resources

โฮมเพจ ไทยเคนเปเปอร์

   
search resources

ไทยเคนเปเปอร์, บมจ.
Pulp and Paper




บอร์ด TCP ไฟเขียวเพิ่มทุนอีก 1,000 ล้านบาท ด้วยการออกหุ้นใหม่จำนวน 100 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 10 บาท เพื่อนำเงินไปซื้ออุปกรณ์ในโครงการ Co-Generation Plant ที่โรงงานผลิตกระดาษคราฟท์ของบริษัทฯ และทำให้ประหยัดต้นทุนด้านพลังงานปีละถึง 300 ล้านบาท และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน คาดสั่งซื้อหม้อไอน้ำได้เดือนนี้ ส่วนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า และอุปกรณ์ประกอบซื้อได้เดือนตุลาคม

นายยรรยง พุทธาพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเคนเปเปอร์ จำกัด (มหาชน) (TCP) แจ้งว่าบริษัทได้ดำเนินการพิ่มทุนตามแผนที่บริษัทได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยบริษัทจะเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 2,584,158,410 บาท เป็น 3,584,158,410 บาท ด้วยการออกหุ้นสามัญจำนวน 100 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท รวมเป็นเงิน 1,000 ล้านบาท

โดยบริษัทจะทำการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน จะจัดสรรหุ้นสามัญ จำนวน 100 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท รวมเป็นเงิน 1,000 ล้านบาท พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ต้องจดทะเบียนการแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิข้อ 4 เพื่อเปลี่ยนแปลงทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ ต่อกระทรวงพาณิชย์ ดังนี้คือ จดทะเบียนลดทุนจาก 2,700,000,000 บาท เป็น 2,584,158,410 บาท โดยวิธีการตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังไม่ได้นำออกจำหน่ายและมิได้ถูกจัดสรรไว้เพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ จำนวน 11,584,159 หุ้น หลังจากนั้น บริษัทก็ต้องจดทะเบียนเพิ่มทุนจาก 2,584,158,410 บาท เป็น 3,584,158,410 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 100,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท

สำหรับวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุน และการใช้เงินทุนส่วนที่เพิ่มในครั้งนี้ คือ บริษัทจะนำเงินเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ในโครงการ Co-Generation Plant สำหรับโรงงานผลิตกระดาษคราฟท์ของบริษัทฯ ที่จังหวัดปราจีนบุรี มูลค่าประมาณ 1,500 ล้านบาท

ซึ่งภายหลังจากการเพิ่มทุนดังกล่าว จะทำให้บริษัทสามารถลดต้นทุนการผลิตด้านพลังงานประมาณปีละ 300 ล้านบาท อันจะส่งผลให้บริษัทมีศักยภาพในการแข่งขันเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ก็จะทำให้เกิดประโยชน์ที่ผู้ถือหุ้นจะพึงได้รับจากการเพิ่มทุน/จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน ด้านนโยบายเงินปันผล บริษัทฯ ยังคงนโยบายที่จะจ่ายเงิน ปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิในแต่ละปี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพคล่องทางการเงินภายในบริษัทฯ และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน(ดีอี เรโช)

สำหรับผู้จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้จะมีสิทธิรับเงินปันผล หลังจากบริษัทจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้ว หากเมื่อใดที่บริษัทฯ ประกาศจ่ายเงินปันผล ผู้ถือหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้จะมีสิทธิได้รับเงินปันผลเช่นเดียวกับผู้ถือหุ้นสามัญรายอื่นของบริษัทฯ

อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาการดำเนินการในกรณีที่คณะกรรมการบริษัทมีมติให้เพิ่มทุน/จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน ประกอบด้วย คณะกรรมการบริษัทมีมติ วันที่ 15 กันยายน 2547, ปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นวันที่ 1 ตุลาคม 2547, ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นวันที่ 21 ตุลาคม 2547 ส่วนการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนและชำระค่าหุ้นจะกำหนดภายหลัง

สำหรับ มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อ 15 กันยายนที่ผ่านมา ที่ประชุมบอร์ดได้ยกเลิกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญจำนวน 1,746,278 หน่วย ซึ่งบริษัทฯ ได้เตรียมไว้ให้แก่บริษัทบริหารสินทรัพย์ เอ็น เอฟ เอส จำกัด (NFS) ตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ แต่เนื่อง จากบริษัทฯ ได้ชำระหนี้ให้เรียบร้อยแล้ว จึงไม่ต้องออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญจำนวนดังกล่าวให้แก่ NFS พร้อมกับการลดทุนจดทะเบียน จาก 2,700,000,000 บาท เป็น 2,584,158,410 บาท โดยวิธีการตัดหุ้นสามัญจดทะเบียนที่ยังมิได้ออกจำหน่าย และมิได้ถูกจัดสรรไว้เพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญจำนวน 11,584,159 หุ้น คงเหลือหุ้นสามัญจำนวน 258,415,841 หุ้น ก่อนที่จะให้ดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวนดังกล่าว

สำหรับการเจรจาจัดซื้ออุปกรณ์ ในโครงการ Co-Generation Plant สำหรับโรงงานผลิตกระดาษคราฟท์ของบริษัทฯ นั้น คาดว่าจะสั่งซื้อได้หม้อไอน้ำได้ในเดือนกันยาน 47 นี้ ส่วนชุดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ ประกอบ (Turbine Generator and Equipment) ซึ่งคาดว่าจะสามารถสั่งซื้อเครื่องกำเนิดไฟฟ้า(Turbine Generator) ได้ภายในเดือนตุลาคม 2547

ทั้งนี้ คู่สัญญากับบริษัทฯ ในการจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์หม้อไอน้ำ (Boiler) คือ บริษัท Foster Wheeler Energia OY (ประเทศฟินแลนด์) และบริษัทฟอสเตอร์ วิลเลอร์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและติดตั้งอุปกรณ์หม้อไอน้ำชั้นนำ และมีความน่าเชื่อถือโดยดูจาก Re-ference List ของผู้ใช้งาน Boiler ในอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษทั้งในประเทศ และในระดับภูมิภาค

รวมทั้งคู่สัญญาดังกล่าวยังมีศูนย์บริการ (Workshop & Engineering) ในประเทศไทยอีกด้วย ทั้งนี้ผู้จัดหาอุปกรณ์ทั้งสองรายนี้เป็นคู่สัญญาที่ไม่มีความเกี่ยวโยงและไม่มีความสัมพันธ์กับบริษัทฯ

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้จัดหาอุปกรณ์ชุดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ประกอบ (Turbine Generator and Equipment) ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถสรุปรายละเอียดและเงื่อนไขได้ภายในเดือนตุลาคม 2547   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us