หลักสูตรอภิบาล การผสมผสานระหว่างคนกับท้องถิ่น
บราเดอร์อนุรักษ์ นิธิภัทราภรณ์ เพิ่งเข้ามาเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนมงฟอร์ต
เมื่อ 4 ปีก่อน แต่เขาได้เปลี่ยนแปลงหลายสิ่ง หลายอย่างในโรงเรียนแห่งนี้ให้ดีขึ้น
เขาจัดเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนที่ ยังหนุ่ม และมีแนวคิด แม้เขาไม่ใช่คนเชียง
ใหม่ แต่ก็เข้าใจถึงคุณค่าของขนบธรรมเนียม และวัฒนธรรม ที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดนี้ได้เป็นอย่างดี
"ในวัยเด็ก ผมโตมาโดยที่ไม่ค่อยได้พบเห็นวิถีแบบไทยๆ มากเท่าไร เมื่อได้มาเจอกับวิถีท้องถิ่นของคนเชียงใหม่แล้ว
จึงมีความรู้สึกชื่นชม และดื่มด่ำกับสิ่งที่ได้พบ" เขาบอก "ผู้จัดการ"
บราเดอร์อนุรักษ์ เป็นนักการศึกษา ที่เห็นว่าการศึกษาไม่จำเป็นต้องอาศัยห้องเรียนเพียงอย่างเดียวจึงจะประสบผลสำเร็จ
และสถาบันการศึกษาไม่ควรจะเคลื่อนไหวไปตามกระแสสังคมที่มีความเปลี่ยนแปลง
โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงที่มีผลกระทบต่อวิถีชีวิตของคนในชุมชน
แต่สถาบันการศึกษา ควรจะเป็นสถาบันหลักที่มั่นคง สามารถนำการศึกษาให้เข้าไปถึงชุมชนได้
โดยไม่ให้วิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวบ้านเปลี่ยนแปลง
"ระบบการศึกษาในช่วงที่ผ่านมา เป็นตัวแปรอย่างหนึ่งที่ก่อให้เกิดการแบ่งแยก
มีความเข้าใจกันว่าคนที่ไม่ได้เข้าโรงเรียน คือ คนไม่มีการศึกษา ขณะที่คนที่เข้าเรียนคือ
คนมีการศึกษา ทั้งๆ ที่ในวิถีชีวิตเดิมๆ ของเรา การเรียนรู้ไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าไปในระบบโรงเรียน
แต่เป็นความพยายามที่จะดึงศักยภาพของคนออกมาใช้ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด"
จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงที่บราเดอร์อนุรักษ์เดินทางขึ้นมารับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนมงฟอร์ตเมื่อ
4 ปีก่อน วิถีชีวิตของคนในสังคม ถูกเปลี่ยนไปจากรากฐานดั้งเดิม อย่างมาก
ตามกระแสโลกาภิวัตน์
เขามองว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เป็นเสมือนกับการยัดเยียดในสิ่งที่คนรับ
ไม่เต็ม ใจรับ แต่จำเป็นต้องรับ
สิ่งดีๆ ที่เคยมีอยู่ในชุมชนเชียงใหม่ในอดีต กำลังถูกพยายามลบเลือนให้หายไปจากแนวคิดของคนส่วนใหญ่
เพราะความกลัวที่จะถูกมองว่าไม่ทันสมัย
เขาถือว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น จะกลายเป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ หากคนในเชียงใหม่
ละทิ้งขนบธรรมเนียม ประเพณีดั้งเดิม และหันไปรับวัฒนธรรมจากส่วนกลาง ที่ถูกส่งต่อมาจากทางชาติตะวันตกแทน
เขาจึงต้องการจะปลูกฝังวิถีความเป็นเชียงใหม่ดั้งเดิมให้กลับคืนมาอีกครั้ง
โดยเริ่มต้นกับเด็กนักเรียนในโรงเรียนมงฟอร์ต
เขากำหนดกิจกรรมให้เด็กนักเรียนชั้นประถม ต้องเรียนรู้ประเพณีของท้องถิ่น
เช่นการตีกลองสะบัดชัย การทำโคมกระดาษ และการเล่นสะล้อ ซอ ซึง ซึ่งเป็นการละเล่นพื้นเมือง
เด็กทุกคนจะต้องเรียนรู้ว่าในการใช้ชีวิตจริงของคนไทยในอดีตเป็นอย่างไร
โดยให้หัดทำสวนครัว เลี้ยงไก่ และการนำสมุนไพรตามธรรมชาติมาใช้ให้เป็นประโยชน์
เด็กทุกคนจะต้องรู้จักการปล่อยปลา การดูแลรักษาคุณภาพของแม่น้ำปิง และการ
นำขยะกลับมารีไซเคิล โดยทำเป็นกระดาษ หรือปุ๋ยหมัก และฟืน
"เรามีการตั้งธนาคารขยะให้เด็กได้บริหารกันเอง มีหลักออกมาเลยว่าใบไม้ห้ามเผา
กิ่งไม้เล็กห้ามเผา กิ่งไม้ใหญ่ใส่เตาหุงข้าว ส่วนที่เป็นของเล็กๆ เอาไปเก็บ
ไปกลบ สอนให้เด็กรู้ว่างานเก็บขยะคือ งานที่มีศักดิ์ศรี มีเกียรติยศ การเก็บขยะไม่ใช่การลงโทษ
เพราะที่ผ่านมาเราทำกันผิดๆ เด็กคนไหนทำผิด เราลงโทษให้ไปเก็บขยะ ทั้งที่ความจริงแล้วนั่นคือการทำความดี
แต่คอนเซ็ปต์การรับรู้ของเด็ก กลายเป็นการลงโทษ"
สำหรับเด็กชั้นมัธยม เขากำหนดกิจกรรมให้เด็กต้องออกไปสัมผัสกับชีวิตภายนอก
โดยจัดอาจารย์ 1 ชุด เป็นอาจารย์ ที่ไม่มีชั่วโมงการสอนในห้องเรียน ให้เข้ามารับผิดชอบงานนี้โดยเฉพาะ
"เราต้องการให้เด็กได้ไปสัมผัสกับชีวิตที่มีหลายมิติ และสามารถผสมผสานชีวิต
เหล่านั้น จนเกิดเป็นตัวตนของเด็กขึ้นมาให้ได้"
กิจกรรมที่จัดตามหลักสูตรนี้ เด็กจะได้มีโอกาสออกไปรู้จักกับชีวิตของผู้คนกลุ่มต่างๆ
ที่เขามีโอกาสได้สัมผัสน้อยมาก เช่นเด็กกำพร้า คนพิการ ผู้สูงอายุ แม้กระทั่งชาวนา
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่นำให้เด็กได้ไปศึกษาการใช้ชีวิตของชนเผ่าปะกาเกอ
ญอ หรือชนเผ่ากะเหรี่ยง เพื่อให้เด็กได้เรียน รู้ถึงการดำรงชีวิตของคนที่แตกต่างเผ่าพันธุ์กันว่าเป็นอย่างไร
การออกไปสัมผัสกับชีวิตของคนเหล่านี้ กระทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อเด็กจะได้มีเวลาศึกษาชีวิตของคนที่ได้ไปพบพอสมควร
ก่อนที่จะนำข้อมูลที่ได้รับกลับมารายงานให้อาจารย์ได้ทราบ
"สิ่งเหล่านี้ เป็นการศึกษาอีกแบบหนึ่ง เป็นการศึกษาแบบแอบแฝง"
กิจกรรมนี้ได้เริ่มทำมาหลังจากบราเดอร์อนุรักษ์เข้ามารับตำแหน่งเมื่อ 4
ปีก่อน โดยช่วงแรกเป็นเพียงกิจกรรม แต่เมื่อปีที่แล้ว นี้ได้ถูกบรรจุให้เป็นหลักสูตรของมงฟอร์ตที่จะต้องกระทำอย่างจริงจัง
ตั้งชื่อว่า หลักสูตร อภิบาล
นอกจากนี้แล้ว เขายังเตรียมเปิดหลักสูตรเชียงใหม่ศึกษา และภูมิปัญญาท้องถิ่น
ซึ่งกำหนดให้เด็กนักเรียนจะต้องเรียนรู้ประวัติความเป็นมา และเรื่อง ราวต่างๆ
ของจังหวัดเชียงใหม่ โดยกำหนดให้เป็นหลักสูตรประจำโรงเรียน หลังจากพระราชบัญญัติการศึกษาฉบับใหม่มีผลบังคับใช้
ตามหลักสูตรใหม่ที่เขาคิดไว้ ต่อไปเด็กนักเรียนมงฟอร์ต จะใช้เวลาในห้องเรียนเพียงครึ่งวัน
ส่วนที่เหลือเป็นการเรียนรู้โดยการทำกิจกรรม
เป็นกิจกรรมที่ดึงความเป็นคนเชียงใหม่ให้กลับคืนมาสู่เด็กนักเรียนมงฟอร์ตอีกครั้ง
ก่อนที่จะถูกกระแสโลกาภิวัตน์พัดจนเกือบหายไปเหมือนในอดีต