|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ผู้ถือหุ้นเสียงส่วนใหญ่ N-PARK และ PA ไฟเขียว แผนปรับโครงสร้างควบ PA 3 ทั้งแลกหุ้น-จ่ายเงินสด แม้ "ศิริวัฒน์-แซนด์วิช" รายย่อยเข้าซักในที่ประชุม และไทยสมุทรฯถือหุ้น 5.5 ล้านคัดค้าน ขณะที่ "บอร์ด PA -เสริมสิน" รับศึกหนักรายย่อยซักละเอียดยิบจนต้องใช้เวลายาวนานในการประชุม แต่สุดท้ายก็โหวตผ่าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (14) บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) N-PARK และบริษัท แปซิฟิค แอสเซ็ทส์ จำกัด (มหาชน ) PA ได้มีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติการควบรวมกิจการและการดำเนินการตามแผนปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการของบริษัท ซึ่งที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ N-PARK ในช่วงเช้าได้อนุมัติให้บริษัทมีการควบรวมกิจการกับบริษัท PA ด้วยเสียงข้างมาก 5.4 พันล้านหุ้น ขณะที่มีเสียง คัดค้าน 1 ราย บริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต 5.5 ล้านหุ้น
อย่างไรก็ดีระหว่างการขออนุมัติ ได้มีนายศิริวัฒน์ วรเวทย์วุฒิคุณ นักลงทุนรายย่อย ได้ซักถามในประเด็นการแลกหุ้น 4 ต่อ 1 ซึ่งไม่ค่อยยุติธรรมกับผู้ถือหุ้นรายย่อย N-PARK ที่ถือหุ้นในราคาสูง ซึ่งภายหลังได้รับการชี้แจงจากนายวราห์ สุจริตกุล กรรมการผู้จัดการ บล.ฟินันซ่า ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการ N-PARK ในการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการของบริษัทว่า การแลกหุ้นเป็นทางเลือกหนึ่งซึ่งไม่รู้ว่าผู้ถือหุ้น PA จะใช้สิทธินี้แค่ไหน แต่ในภาพรวมการควบกันแล้วจะส่งผลดีกับ N-PARK ซึ่งการทำธุรกิจปัจจุบันอยู่ในช่วงของการลงทุนซึ่งต้องใช้เวลานานที่จะสร้างรายได้เข้าการรวมกับ PA ทำให้ N-PARK รับรู้รายได้ทั้งหมด จากเดิมที่สามารถรับรู้เพียง 63%
ขณะที่ในส่วนผู้ประชุมผู้ถือหุ้น PA มีการซักผู้บริหารแบบละเอียดก่อนมีมติให้ควบรวมกับ N-PARK ซึ่งในส่วนนี้บริษัท N-PARK ขอสละสิทธิ์ไม่ร่วมลงมติคิดเป็นจำนวนหุ้น 211,739,547 หุ้น หรือ 63.40% ขณะที่ผู้ถือหุ้นรายย่อยสัดส่วน 80.47% หรือคิดเป็น 59.07 ล้านหุ้นมีมติให้ควบรวม
นายเสริมสิน สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท N-PARK และประธานบริหาร PA เปิดเผยว่าที่ประชุมทั้งสองแห่งได้เห็นด้วยที่จะให้ดำเนินการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ PA ซึ่งการควบรวมเพื่อวัตถุประสงค์สูงสุดในการบริหารจัดการ และเพื่อประโยชน์ในการลดความซ้ำซ้อนในเชิงธุรกิจ ป้องกันปัญหาเรื่องความขัดแย้งทางผลประโยชน์อันอาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
นอกจากนี้ ยังได้ขออนุมัติเพิ่มทุนออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 489,041,812 หุ้น เพื่อรองรับการชำระค่าหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท PA ที่เลือกใช้ทางเลือกที่ 1 คือ แลกหุ้นในอัตราส่วน 4 หุ้นใหม่ของบริษัท มูลค่าที่ตราไว้ 10 บาทต่อ 1 หุ้นของบริษัท PA มูลค่าที่ตราไว้ 10 บาท และจัดสรรหุ้นใหม่จำนวน 1,000 ล้านหุ้น และเพื่อรองรับการใช้สิทธิ แปลงสภาพหุ้นกู้แปลงสภาพที่บริษัทจะออกมา
ส่วนทางเลือกที่ 2. บริษัทจะเสนอค่าตอบแทนเป็นเงินสด โดยราคาเสนอซื้อหุ้นจะเท่ากับ 5.86 บาทต่อหุ้น เป็นราคาตลาดฯถัวเฉลี่ยน้ำหนัก 5 วันทำการ ก่อนวันประชุมคณะกรรมการ ส่วนนี้ผู้ถือหุ้นต้องรับภาระค่าธรรมเนียมในการขายหุ้น 0.25% และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% ของค่าธรรมเนียมการขายหุ้น
สำหรับทางเลือกที่ 3 ขอรับเป็นเงินสด เมื่อมีการโอนทรัพย์และเลิกบริษัทของPA ในส่วนนี้บริษัท จะว่าจ้างผู้ประเมินจากต่างประเทศที่มีประสบการณ์จำนวน 2 รายมาประเมิน หากมีส่วนต่างจากการตีราคาทรัพย์ บริษัท N-Park จะเป็นผู้ชำระเงินส่วนต่างให้กับผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนหุ้นที่ถือหุ้นจากจำนวน หุ้นที่เหลืออยู่ และผู้ถือหุ้นต้องเป็นผู้รับภาระจ่ายภาษีเงินได้หากมี
ยันโครงการต่าง ๆ ราบรื่นให้บ.ลูกกู้เพื่อความคล่องตัว
ต่อข้อซักถามกรณีที่บริษัท N-PARK ได้มีการปล่อยให้บริษัทลูกกู้เงินไปหลายแห่งและอาจจะเกิดการยักย้ายถ่ายเทผลประโยชน์หรือไม่นั้น นายเสริมสินกล่าวว่าการนำเงินไปลงทุนหรือปล่อยเงินกู้ให้แก่บริษัทลูก ไม่ใช่กู้ไปเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งมีบางบริษัทลูกในอดีตที่ผ่านแผนฟื้นฟูกิจการ และมีหนี้อยู่ในส่วนนี้ได้มีการลงบัญชีและตั้งสำรอง ซึ่งในส่วนนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้น
"บริษัทลูกแต่ละแห่งอย่ามองว่าเป็นบริษัทกระดาษ และสาเหตุที่ไม่ให้บริษัทลูกเหล่านี้อยู่ใน N-PARK เพราะเราต้องการให้ธุรกิจมีความสะดวก ทำให้ภาระผูกพันอยู่ในบริษัทเดียว และหากในอนาคตต้องมีการปรับเปลี่ยนแผนก็สามารถขายบริษัท หรืออาจจะผลักดันเป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ เช่นเดียวกับการควบรวมกับ PA จะมีการนำทรัพย์สินหลังจากควบรวมเสร็จ จะนำทรัพย์สินของ PA มาปรับปรุงให้เกิดมูลค่าเพิ่ม และในอนาคตจะมีการระดมทุนผ่านการจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ โดยจะดำเนินการขายสินทรัพย์ของ N-Park ที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่จะทำการับโอนมาจาก PA เข้ากองทุนรวมอสังหาฯ เป็นต้น" นายเสริมสินกล่าว
สำหรับความคืบหน้าโครงการร้อยชักสามของกรมธนารักษ์ นายเสริมสินกล่าวว่าล่าสุดทางกรมธนารักษ์ได้สอบถามว่าบริษัทมีความพร้อมที่จะดำเนินการโครงการต่อไปหรือไม่ ซึ่งในเรื่องนี้ได้ยืนยันไปแล้ว อีกทั้งทางธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ได้ออกแบงก์การันตีวงเงิน 1,900 ล้านบาทให้กับบริษัท "เรื่องนี้ไม่มีใครบอกว่าจะชัดเจนแค่ไหน เพราะเป็นโครงการที่ใหญ่ซึ่งต้องเสนอต่อคณะรัฐมนตรี โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน ก็ต่อเมื่อมีการเซ็นสัญญา"
ส่วนเรื่องที่รัฐบาลยืนยันที่จะเข้าถึงหุ้นในบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (รฟม.) นายเสริมสินกล่าวว่าเหตุผลที่ราคาหุ้นของรฟม.ควรอยู่ที่ 3 บาทนั้น เนื่องจากเป็นราคาที่บริษัทผู้ประเมินได้คำนวณราคาเมื่อผลักดันบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯไม่ใช่ราคาที่จะเสนอขายให้แก่รัฐบาล ซึ่งราคาจะเป็นเท่าไหร่ไม่ใช่สิ่งที่รัฐบาลจะมาเสนอกับบริษัท N-PARK แต่ต้องไปเจรจาบริษัท บีเอ็มซีแอล จำกัด
อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกที่บริษัทเข้าลงทุนใน รฟม.ราคาอยู่ที่ 1.50 บาท ซึ่งขณะนี้โครงการรถไฟใต้ดินยังอยู่ในช่วงรอยต่อว่าจะสร้างหรือไม่ แต่เมื่อลงทุนแล้วโครงการเกิดเดินหน้าทำให้ราคาการลงทุน นั้นครั้งนี้ถือว่าคุ้มค่ามาก ทั้งนี้ ในช่วงเปิดเดินรถไฟใต้ดินจำนวนผู้โดยสารได้ถึง 2 แสนคนต่อวัน แต่เป็นราคาพิเศษ 10 บาท แต่หลังจากใช้ราคาพิเศษตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค. 47 แม้จำนวนผู้โดยสารลดลงเหลือ 1.5 แสนคนต่อวัน แต่รายรับปรับตัวสูงขึ้นถึง 2.5 ล้านบาทต่อวัน สูงกว่าช่วงที่ใช้ราคาพิเศษรายรับอยู่ที่ 2 ล้านบาทต่อวัน
ด้านนายวีระวงศ์ จิตต์มิตรภาพ กรรมการและประธานกรรมการตรวจสอบ กล่าวเสริมถึงกรณี ที่อดีตผู้บริหารถูกกล่าวโทษว่า ต่างคนต่างทำหน้าที่ ซึ่งหากฝ่ายควบคุมคือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เกิดข้อสงสัยและได้มีกล่าวโทษ ก็สามารถดำเนินการได้
ผู้ถือหุ้น PA ซักถี่ยิบผู้บริหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประชุมผู้ถือหุ้น PA ผู้ถือหุ้นบางรายได้ซักถามคณะกรรมการของ บริษัทฯในหลายประเด็นจนใช้เวลานานหลายชั่วโมง กว่าจะสามารถลงมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการบริษัทเสนอ โดยประเด็นที่ผู้ถือหุ้นมีการสอบถาม คือ การที่อดีตผู้บริษัท N-PARK ได้ถูกคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.)ได้กล่าวโทษผู้บริหาร ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งปัญหายังไม่จบจะมีเหตุผลอะไรที่จะมีการควบรวมกัน ,
นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นยังเสนอในเรื่องของการประเมินเพื่อทำการซื้อสินทรัพย์ของบริษัท PA ควรใช้มูลค่าราคาตลาดมากกว่าจะใช้มูลค่าทางบัญชี (Book Value) หรือการเสนอให้ขายธุรกิจในเครือของ PA บางส่วนเพื่อลดผลขาดทุนของบริษัท โดยในการซักถามได้มีการโต้เถียงระหว่างผู้ถือหุ้นและคณะกรรมการบริษัทฯ
นายวราห์ ได้กล่าวอธิบายว่า การที่จะตีราคาทรัพย์ตามมูลค่าบัญชีนั้น ต้องเข้าใจในเมืองไทยการที่จะให้คนอื่นเข้ามาเสนอราคาเพื่อผลักดันให้มูลค่าทางบัญชีสูงขึ้น จึงเป็นเรื่องที่ยาก เพราะตลาดในเมืองไทยมีขนาดเล็ก "อย่าลืมว่าตลาดของไทยไม่มีผู้ซื้อสินทรัพย์ตลอดเวลาไม่เหมือนที่ต่างประเทศ เพราะสภาพคล่องของสินทรัพย์ในไทยไม่เคลื่อนไหวมากนัก"
|
|
|
|
|