ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในเชียงใหม่ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ทำให้พัฒนาการของเมืองเชียงใหม่
มีลักษณะที่แย่ลง วิถีชีวิตของคนในเชียงใหม่ทุกวันนี้ต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ
นานา เนื่องจากความแออัดของผู้คน
การจราจรที่ติดขัด ไม่มีระบบขนส่งมวลชน ตลอดจนปัญหาขยะล้นเมืองจนไม่สามารถ
หาที่ทำลายหรือฝังกลบได้ ฯลฯ
ปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องที่ทุกคนรับรู้ และพูดกันมานาน แต่ก็ยังไม่สามารถหาแนวทางแก้ไขที่ยั่งยืนได้
นอกจากการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวันๆ
มีการวิเคราะห์กันว่าเหตุผลหนึ่งที่ก่อให้เกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้นมา เป็นเพราะการเจริญเติบโตของเชียงใหม่
เป็นการเจริญเติบโตในแนวดิ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างได้เข้ามาสุมกันอยู่ในเขตอำเภอเมือง
ไม่กระจายออกไปยังอำเภอรอบนอก เป็นผลมาจากการพัฒนาที่ขาดการวางแผน อย่างเป็นระบบ
วิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปของคนเชียงใหม่ ทำให้เสน่ห์ของเมืองนี้ นับวันยิ่งเลือนหายไป
เมื่อไปผนวกกับการเปิดรับวัฒนธรรมจากกรุงเทพฯ มากเกินไป ทำให้คนเชียงใหม่ทุกวันนี้
มีความเป็นอยู่คล้ายคนกรุงเทพฯ มากขึ้น
ภาษาพูดที่คนเมืองพูดกัน กลับนิยมใช้ภาษากลางเป็นส่วนใหญ่ เสื้อผ้าที่สวมใส่
ก็เป็นไปตามแฟชั่น ขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมถูกละเลย และทด แทนด้วยพฤติกรรมวัตถุนิยม
หลายคนลงความเห็นกันว่าในแต่ละวัน คนเชียงใหม่กำลังหลงลืมรากเหง้าของตัวเองลงไปเรื่อยๆ
ทั้งๆ ที่รากเหง้านั้น มีประวัติศาสตร์ความเป็นมา ยาวนานมากกว่า 700 ปี
ทำไมคนเชียงใหม่ถึงไม่ให้ความสำคัญกับรากเหง้าของตนเองเช่นนี้ คำตอบส่วนหนึ่ง
โทษไปที่นโยบายการศึกษา ในอดีต ซึ่งส่วนกลางเป็นคนกำหนด ทำให้คนเชียงใหม่ในช่วง
20 กว่าปีที่ผ่าน มา ไม่เคยถูกปลูกฝังให้สนใจศึกษาประวัติศาสตร์ของท้องถิ่นตนเองอย่างจริงจัง
ตั้งแต่เด็ก
"คนเชียงใหม่รู้จักประวัติของกรุงเทพฯ สุโขทัย หรืออยุธยามากกว่า จากแบบเรียนที่ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่เด็ก
แต่ประวัติศาสตร์ของบ้านเกิดเอง กลับไม่มีบรรจุไว้ในหลักสูตร ต้องมาศึกษาเอา
เองหลังเรียนจบ" เป็นเสียงสะท้อนที่ออก มาจากคนเชียงใหม่
มิหนำซ้ำช่วงระยะเวลาหนึ่ง ผู้กำหนดนโยบายการศึกษา ถึงกับบ้าจี้ออก นโยบายบังคับให้เด็กนักเรียนในเชียงใหม่
ห้ามพูดภาษาท้องถิ่นในโรงเรียน ทั้งๆ ที่รู้ว่าภาษาคือ จุดเริ่มต้นของวัฒนธรรม
ทำให้วัฒนธรรมของเชียงใหม่ ถูกกลืนโดยวัฒนธรรมจากที่อื่นได้ง่าย ทั้งที่วัฒนธรรมนั้นยังไม่ได้รับการพิสูจน์เลยว่าเหมาะสมกับเชียงใหม่หรือเปล่า
เป็นที่น่ายินดีว่าขณะที่กำลังมีการปฏิรูปการศึกษาอย่างในปัจจุบัน โรงเรียนหลายแห่งในเชียงใหม่
เริ่มตื่นตัว ที่จะปลูกฝังรากเหง้าดั้งเดิม กลับเข้าไปไว้ในตัวเด็กๆกันอีกครั้ง
ปรินส์ รอยแยล วิทยาลัย และมงฟอร์ต วิทยาลัย ถือเป็น 2 โรงเรียน ที่มีประวัติศาสตร์สัมพันธ์กับพัฒนาการเชียงใหม่
กำลังปรับความคิดครั้งสำคัญ