|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เวิร์คพอยท์ฯ เตรียม เข้าเทรด 29 ก.ย.นี้ กำหนดช่วงราคา 13-15 ก.ย. ตั้งเป้าปีนี้โกยกำไรเพิ่มขึ้น 100% เตรียมจ่ายเงินปันผลปลาย ปีให้ผู้จองซื้อหุ้น 0.60 บาทต่อหุ้นเพื่อ สร้างแรงจูงใจให้แก่นักลงทุนเข้ามาจองซื้อหุ้น
นายครรชิต ควะชาติ ผู้อำนวยการฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาติ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินหุ้นบริษัทเวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์เปิดเผยว่า หุ้นบริษัทเวิร์คพอยท์ฯ จะเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯภายในวันที่ 29 กันยายน 2547 ซึ่งเชื่อว่าภาวะตลาดหุ้นในขณะนี้เหมาะสมและบริษัทมีความพร้อมที่จะเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ทั้งนี้ บริษัทเวิร์คพอยท์ฯ จะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 40 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาทโดยจะเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปจำนวน 37 ล้านหุ้น ซึ่งแบ่งเป็นให้แก่นักลงทุนสถาบัน 14 ล้านหุ้น, ผู้มีอุปการคุณจำนวน 10 ล้านหุ้น และที่เหลือเสนอขายผ่านบริษัทหลักทรัพย์ 5 แห่ง คือ บล.ธนชาติ, บล.ไทยพาณิชย์, บล. เอเซียพลัส, บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) และบล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ส่วนอีก 3 ล้านหุ้นจะเสนอขายแก่กรรมการผู้บริหารและพนักงานจำนวน 2 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 5 บาท และอีก 1 ล้านหุ้นเสนอขายแก่กรรมการผู้บริหารและพนักงานในราคาจอง โดยในส่วนผู้ที่ได้รับการจัดสรรหุ้นในราคา 5 บาทจะเข้าเงื่อนไขในการกำหนดระยะเวลา ห้ามขาย 1 ปี 6 เดือนนับแต่วันที่หุ้นเริ่มเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ
โดยจะเสนอขายภายในวันที่ 20-22 กันยายน 2547 กำหนดช่วงราคาเบื้องต้นที่ระดับ 13-15 บาทจะมีการสำรวจความต้องการซื้อจากนักลงทุนสถาบัน (บุ๊กบิลด์) ภายในวันที่ 15 กันยายนนี้
นายครรชิตกล่าวต่อว่า ช่วงที่ผ่านมาคณะกรรมการบริษัทเวิร์คพอยท์ฯได้มีมติให้จ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นจำนวน 120 ล้านบาทและจะเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาโดยจะปิดสมุดทะเบียนรายชื่อผู้มีสิทธิ เข้าร่วมประชุมและรับเงินปันผลในวันที่ 22 ตุลาคมและจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 10 พฤศจิกายน ซึ่งจะสามารถจ่ายเงินปันผลได้ภายในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2547จะจ่ายในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท โดยผู้จองซื้อหุ้นก็จะได้รับเงินปันผล นอกจากนี้ บริษัทก็มี นโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ
สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัทเวิร์คพอยท์ฯ จะมีนายปัญญา นิรันดร์กุล และนายประภาส ชลศรานนท์ ถือหุ้นคนละ 46.25% ที่เหลืออื่นๆ 7.50% แต่หลังจากที่เสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปจำนวน 20%แล้ว จะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของนายปัญญาและนายประภาสจะลดลงเหลือคนละประมาณ 37%
ผู้อำนวยการฝ่ายวาณิชธนกิจบริษัทหลักทรัพย์ธนชาติกล่าวต่อว่า ขณะนี้บริษัทเวิร์คพอยท์ฯมีหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ระดับ 0.5 เท่าแต่หนี้สินของบริษัทนั้นเป็นหนี้สินจากการค้าเท่านั้นโดยหนี้ระยะยาวนั้นไม่มี ดังนั้น บริษัทจึงไม่มีภาระด้านดอกเบี้ยจ่าย แต่อย่างใด ส่วนปัจจัยเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้นเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทเพราะธุรกิจโทรทัศน์จะเป็นธุรกิจท้ายที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากบริษัทเอกชนจะให้ความสำคัญต่อสื่อโฆษณา เพราะจากวิกฤติเศรษฐกิจ ในปี 2541-2542 งบโฆษณษาผ่านสื่อโทรทัศน์ก็ยังไม่ได้ลดลง
นายปัญญา นิรันดร์กุล ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนต์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เงินที่คณะกรรมการบริษัทได้มีมติให้มาจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นนั้นเกิดจากผลประกอบการของบริษัทในงวด ปี 2546 และรวมกับ 6 เดือนแรกของปี 2547
ส่วนเงินที่ได้จากการระดมทุนประมาณ 504-580 ล้านบาทนั้นจะนำไปใช้ในการสร้างสตูดิโอและสำนักงานแห่งใหม่ ที่จังหวัดปทุมธานี โดยจะเริ่มสร้าง ภายในปลายปีนี้และจะใช้เวลาดำเนินการก่อสร้างประมาณ 2 ปีซึ่งใช้เงินในการก่อสร้างประมาณ 300 ล้านบาทที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายการดำเนินงาน
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2546 ที่ผ่านมามีรายได้ 415 ล้านบาท กำไรสุทธิ 109 ล้านบาท เทียบกับในครึ่งปีแรกของปี 2547 มีรายได้ 415 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 95 ล้านบาทซึ่งเกือบเท่าทั้งปีของปีก่อน และคาดว่าในปีนี้จะมีกำไรเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 100% โดยขณะนี้รายการของบริษัท 6 รายการที่สามารถขายโฆษณาได้เกินกว่า 100% และถ้าพิจารณาจากรายการทั้งหมด 14 รายการจะสามารถ ขายโฆษณาโดยเฉลี่ยประมาณ 80%
นางสาวสุวภา เจริญยิ่ง กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์ ธนชาติ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินกล่าวว่า ระดับราคาหุ้นที่กำหนด 13-15 บาทมีค่าพี/อี เรโชประมาณ 11 เท่า ซึ่งต่ำ กว่าค่าพี/อี เรโชของกลุ่มบันเทิงอยู่ในระดับ 20 เท่า
|
|
|
|
|