|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แบงก์พาณิชย์แห่ปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจ หลังธปท. เปิดทางถือหุ้นบริษัทลูกได้ 100% ล่าสุด "นครหลวงไทย"ประกาศตัวเป็น Financial Bank Supermarket ชูนโยบายถือหุ้น 100% ไม่มีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น เล็งเทกโอเวอร์ "ลีสซิ่ง" ในปีหน้า "อดิศักดิ์" เผยเพื่อรองรับการเป็นสถาบันการเงิน ที่ให้บริการอย่างครบวงจร ขณะที่ก่อนหน้า "กสิกรไทย" ลุยซื้อบริษัทหลักทรัพย์ และเตรียมบุกธุรกิจลีสซิ่งเช่นกัน
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน)(SCIB) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจของธนาคารจะมุ่งเน้นการเป็นธนาคารที่ให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจร (Financial Bank Supermarket) โดยที่ผ่านมาธนาคารได้เข้าลงทุนในธุรกิจประกันชีวิต ประกันวินาศภัย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน และบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่เปิดทางให้ธนาคารพาณิชย์ถือหุ้นบริษัทในเครือได้ถึง 100%
สำหรับแผนในปี 2548 ธนาคารเตรียมที่จะเข้าซื้อกิจการในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อ (ลีสซิ่ง) เพื่อให้บริการของธนาคารครอบคลุมทุกรูปแบบ
"เราอยู่ระหว่างตัดสินใจเข้าไปลงทุนในธุรกิจลีสซิ่ง ซึ่งจะเข้าไปถือหุ้นในสัดส่วน 100% แต่ตอนนี้ดอกเบี้ยยังต่ำ ต้องรอดูทิศทางดอกเบี้ย ที่มีแนวโน้มขึ้นในปีหน้า ทำให้ปีหน้าแบงก์มีอำนาจต่อรองหรือต้นทุนในการซื้อต่ำกว่าช่วงดอกเบี้ยต่ำ"
สำหรับโครงสร้างธุรกิจในเครือของธนาคารนครหลวงไทยประกอบด้วย บริษัทแม็กซ์ประกันชีวิต ธนาคารนครหลวงไทยถือหุ้น 100% บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนนครหลวงไทยถือหุ้น 100% บริษัทหลักทรัพย์นครหลวงไทย 100% บริษัทนครหลวงไทยบริการ 100% และบริษัทประกันภัยนครหลวงไทย 45.5%
นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า ธนาคารนครหลวงไทยไม่มีนโยบายที่จะนำธุรกิจในเครือไปกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เนื่องจากต้องการอำนาจการบริหารงานเต็มที่ และที่สำคัญ การที่กระจายหุ้นออกไป จะทำให้เกิดปัญหาในทางการบริหาร เนื่องจากการทำธุรกิจของธนาคาร พาณิชย์ ที่ทำร่วมกับบริษัทในเครือหากถือหุ้นเต็มสัดส่วน การที่ธนาคารจะลดค่าธรรมเนียม หรือมีการต่อรองราคาต่างๆกับลูกค้า สามารถทำได้โดยไม่มีความขัดแย้งในการทำธุรกิจ (Conflict of Interest)
นางสาวอังคณา พูนสวัสดิ์ ผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) (SCIB) กล่าวว่า การที่ธนาคารไม่มีนโยบายนำหุ้นของบริษัทที่อยู่ในเครือเข้ากระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากจะกระทบต่อแผนการดำเนินธุรกิจ เพราะการที่จะเป็นธนาคารที่ให้บริการครบวงจรได้ จะต้องถือหุ้น 100% เนื่องจากกระบวนการขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้กับลูกค้า จะสามารถต่อรองราคาได้ หรือลดค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ให้กับลูกค้าได้
"ถ้าหากมีการกระจายหุ้น หรือธนาคารไม่ได้ถือเต็ม 100% การดำเนินธุรกิจตามแผนที่จะเป็นธนาคารที่ให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจรจะลำบากมาก เพราะการลดค่าธรรมเนียม หรือการลดราคาแต่ละครั้งผู้ถือหุ้นจะเกิดคำถาม เนื่องจากการลดราคาจะส่งผลกระทบโดยตรงกับผลการดำเนินงานของแบงก์ หรือบริษัทในเครือ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วแบงก์มีความจำเป็น ต้องรักษาผลประโยชน์ทั้งในส่วนของแบงก์เอง และธุรกิจในเครือ แต่ในความเป็นจริงแล้วผู้ถือหุ้นอาจไม่เข้าใจ"
ขณะที่ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) ก่อนหน้านี้ได้ประกาศขยายแผนการดำเนินธุรกิจลงไปในธุรกิจหลักทรัพย์ และเตรียมที่จะเข้าซื้อกิจการธุรกิจลีสซิ่งโดยล่าสุดได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับบริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส (ASP) และบริษัทหลักทรัพย์ แอสเซท พลัส (ASSET) เพื่อบันทึกความเข้าใจ ของแต่ละฝ่ายในการที่จะปรึกษาหารือกันต่อไปเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ธนาคารจะได้มาซึ่งหุ้นทั้งหมดที่ ASP ถืออยู่ใน ASSET โดยราคา ข้อกำหนดและเงื่อนไขของธุรกรรมดังกล่าว จะกำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายหุ้น ซึ่งจะต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการของคู่สัญญาที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าผลการตัดสินใจของคณะกรรมการธนาคารภายในปลายเดือนกันยายน ส่วนการเข้า ไปลงทุนในธุรกิจลีสซิ่ง เพื่อขยายช่องทางและโอกาสทำธุรกิจ คาดว่าจะเห็นภาพชัดเจนในปีหน้า
|
|
|
|
|