|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ธนาคารกสิกรไทย เซ็นสัญญาเอ็มโอยูซื้อหุ้นบล.แอสเซท พลัส จาก บล.เอเซีย พลัส ทั้ง 100% เตรียมเสนอให้บอร์ดธนาคารอนุมัติปลายเดือนกันยายนนี้หลังจากศึกษาข้อมูลเรียบร้อย "ประสาร ไตรรัตน์วรกุล" หวังทำธุรกิจครบวงจรภายใต้คอนเซ็ปต์ "ยูนิเวอร์แซล แบงกิ้ง" ด้านนักวิเคราะห์ชี้ ยังประเมิน มูลค่าหุ้นไม่ได้ แต่หากเจรจาสำเร็จจะเกิดประโยชน์ต่อทั้ง 2 ฝ่าย
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ (KBANK)กล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา ธนาคารได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding) กับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด (ASP) และบริษัทหลักทรัพย์ แอสเซท พลัส จำกัด (ASSET) เพื่อที่จะเข้าไปซื้อหุ้นทั้งหมดที่บล.เอเซีย พลัส ถืออยู่ในบล.แอสเซท พลัส หรือคิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้นทั้ง 100% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลังจากลงนามในบันทึกความเข้าใจฉบับดังกล่าว ธนาคารจะหารือกับบล.เอเซีย พลัส ถึงรายละเอียดเกี่ยวกับราคาหุ้น ข้อกำหนดและเงื่อนไขของการซื้อขายหุ้น ก่อนจะนำเสนอให้คณะกรรมการของคู่สัญญาที่เกี่ยวข้องพิจารณาอนุมัติ โดยในส่วนของธนาคารคาดว่าจะนำเข้าที่ประชุมได้ประมาณปลายเดือนกันยายน 2547 นี้
นายประสาร กล่าวว่า การเข้าซื้อหุ้นของบล. แอสเซท พลัส ครั้งนี้ ธนาคารจะได้เงินทุนหมุนเวียนจากการดำเนินงาน ไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนของธนาคารแต่อย่างใด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ของธนาคารที่ต้องการเป็นยูนิเวอร์แซล แบงกิ้ง ให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจร โดยธนาคารมีเป้าหมายที่จะเข้าถือหุ้นเกือบทั้งหมดหรือทั้งหมด 100% ในบริษัทลูก เพื่อจะได้กำหนดนโยบายการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกัน
นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไซรัส กล่าวให้ความเห็นว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าทรัพย์สิน ของบล.แอสเซท พลัสได้ เพราะต้องพิจารณาถึงความต้องการของธนาคารกสิกรไทยว่าต้องการซื้อใบอนุญาตทั้ง 4 ประเภทหรือไม่ บวกกับธุรกิจหลักทรัพย์มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ทำให้บริษัทต่างๆ ต้องการเข้ามาทำธุรกิจหลักทรัพย์มากขึ้น ส่งผลให้บล.สามารถปรับราคาเพิ่มขึ้นได้อีกมาก
"การเข้ามาทำธุรกิจหลักทรัพย์จะส่งผลดีกับแบงก์กสิกรไทยเป็นอย่างมาก เพราะถือว่าธนาคารทำธุรกิจครบวงจรด้านการเงิน ประกอบกับธนาคารมีฐานลูกค้าในมือเป็นจำนวนมาก และมีสายสัมพันธ์ที่ดี ต่อกันอยู่แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่จะเข้ามาเป็นลูกค้าของธุรกิจโบรกเกอร์มากขึ้น"
สำหรับแนวโน้มธุรกิจหลักทรัพย์ในอนาคตนั้น นับว่าเป็นธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตที่ดี แต่ต้องขึ้นอยู่กับการบริหารงานของแต่ละแห่ง รวมทั้งจำนวนลูกค้า และการควบคุมต้นทุนและบุคลากร เป็นต้น
ด้านบล.ซีมิโก้ ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า หากการเจรจาสำเร็จจะส่งผลบวกต่อทั้งธนาคารกสิกรไทย และบล.เอเซีย พลัส (ASP) เพราะแผนการเข้าซื้อหุ้นบล.แอสเซท พลัส (ASSET) จะช่วยให้ KBANK ขยายขอบข่ายการทำธุรกรรมทางการเงินได้มากขึ้น จากปัจจุบันที่ยังขาดอยู่หลายประเภท ขณะที่การขายเงินลงทุนใน ASSET ออกไปภายในปีนี้ จะส่งผลดีต่อ ASP ในแง่ของการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี แต่ทั้งนี้ คงต้องขึ้นอยู่กับราคา และเงื่อนไขของการซื้อขายเป็นสำคัญ แนะนำ ทยอยสะสม KBANK ขณะที่ ASP อาจจะเก็งกำไรระยะสั้นได้
นายสุกิจ อุดมศิริกุล หัวหน้าหน่วยกลยุทธ์ การลงทุน บล.พัฒนสิน เปิดเผยว่า ASP ได้บันทึกรายได้จากการขายไลเซนส์ ASSET แล้วในงบการเงินงวดไตรมาส 2/47 ที่ผ่านมา ประมาณ 200 ล้านบาท ดังนั้นหากราคาขายมากกว่านี้ ASP จะมีรายได้เพิ่มขึ้นแต่คาดว่าคงไม่มากนัก และไม่ได้ส่งผล อย่างเป็นนัยสำคัญต่อผลการดำเนินงาน
ทั้งนี้ยังคงคำแนะนำเดิมในส่วนของหุ้น ASP คือ ซื้อ โดยมีมูลค่าที่เหมาะสมปี 2547 ที่ 121 บาท/หุ้น ขณะที่ราคาปิดวานนี้ (9 ก.ย.) อยู่ที่ 82 บาท เพิ่มขึ้น 2.50% มูลค่าการซื้อขายรวม 588.10 ล้านบาท ส่วน KBANK ปิดที่ 47.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.60% มูลค่าการซื้อขายรวม 244.04 ล้านบาท
|
|
|
|
|