Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน7 กันยายน 2547
ดันเอ็มคอททีวีฮับข่าว ชงแผนขายหุ้น "อสมท" เข้าครม.วันนี้             
 


   
www resources

โฮมเพจ อสมท.

   
search resources

องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย (MCOT)
มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์
TV




"มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ" ปักธงรบปีหน้าดันเอ็มคอททีวี พร้อมฮับข่าวแห่งเอเชียเต็มแรง เดินหน้าเจรจาสำนักข่าวต่างประเทศพร้อมเดินเครื่องผนึกเป็น แลนด์เบส กับสถานีเป้าหมายหลัก เปิดผังใหม่โมเดิร์น ไนน์เฟส 5 ชูสังคมอุดมปัญญาเป็นแม่แบบทำรายการ เผยผู้จัดรายเก่ายักษ์ใหญ่อยู่พร้อมหน้า

นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นโยบายในปีหน้ามีแผนที่จะมุ่งเน้นโครงการเอ็มคอททีวี (MCOT TV) เต็มที่ซึ่งเป็นการช่องรายการภาษาอังกฤษ โดยเตรียมเดินทางไปต่างประเทศประมาณ 20 ประเทศ เป้าหมายหลักเพื่อเจรจากับพันธมิตร เพื่อให้เป็นแลนด์เบสในการนำช่องเอ็มคอททีวีไปเผยแพร่ ซึ่งจะทำให้รายการของชาวเอเชียเผยแพร่สู่ยุโรปได้มากขึ้น

พร้อมกับการมุ่งสู่การเป็นศูนย์ข้อมูลข่าวสารหรือฮับแห่งเอเชีย ซึ่งจะเดินหน้าเจรจากับสำนักข่าวต่างประเทศมากขึ้น เพื่อร่วมมือกันในด้านข่าว ซึ่งในเดือนนี้เตรียมเดินทางไปเจรจากับสำนักข่าว RAI INTERNATION ของอิตาลีและยังมีโรดโชว์ตามตลาดหลักทรัพย์หลัก ๆ ของโลกประมาณ 7 แห่ง

ขณะนี้มีสำนักข่าวต่างประเทศที่เป็นพันธมิตรกันแล้วเช่น ซีซีทีวีของจีน เคบีเอสของเกาหลี เอ็นเอชเคของญี่ปุ่นและทีวีไฟว์ของยุโรป ซึ่งเป้าหมายเพื่อต้องการให้เป็นหน้าต่างของโลกตะวันออก

นอกจากนั้น ในปีหน้าจะเป็นปีแห่งการลงทุนมากกว่าทุกปี ในแง่ของการสร้างความพร้อม ทั้งในแง่ของอุปกรณ์ อาคารทำการ ซึ่งล่าสุดเตรียมใช้งบประมาณกว่า 600 ล้านบาท สร้างอาคารจอดรถและอาคารสันทนาการต่างๆ ส่วนธุรกิจวิทยุจะมีการเพิ่มบุคลากรอีกมาก โดยเฉพาะระดับบริหารประมาณ 12 คน โดยมีตำแหน่งซีเอฟโอด้านการเงิน 1 ตำแหน่ง ส่วนระดับเจ้าหน้าที่จะรับเพิ่มทุกฝ่าย เนื่องจากว่าในสิ้นปีนี้อสมท จะได้รับวิทยุกลับคืนมาทำหมดทั้ง 7 คลื่นในกรุงเทพฯ จึงต้องเพิ่มคนเตรียมรองรับ

สำหรับผังรายการของโมเดิร์นไนน์เฟส 5 นั้นนายมิ่งขวัญกล่าวว่า จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ เป็นการปรับเปลี่ยนที่มากที่สุดเมื่อเทียบกับ 4 เฟสที่ผ่านมา โดยครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงมากกว่า 70% โดยมีคอนเซ็ปต์ Knowledge Base Society หรือสังคมอุดมปัญญา ซึ่งเป็นแนวโน้มใหม่ของโลกที่ให้ความสำคัญกับรูปแบบรายการประเภทนี้ จริง ๆ แล้วก็เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เฟสที่หนึ่งแล้ว เพียงแต่ว่าไม่ได้ใช้คำนี้เท่านั้นเอง ซึ่งสถานีอื่นจะเดินหน้าไปอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ทางโมเดิร์นไนน์จะเดินทางนี้

เขายอมรับด้วยว่า ผังใหม่นี้ยังคงเป็นผู้จัดรายการเดิมรายใหญ่ที่ทำกันมา แต่ก็มีบ้างที่เป็นรายย่อย รายใหม่ที่เข้ามาจัดผังรายการ ทั้งนี้รายใหญ่เก่านั้นถือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ทำกันมาตั้งแต่แรก เช่น เจเอสแอล เวิร์คพอยท์ โพลีพลัส จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ อาร์.เอส.เป็นต้น และคาดหวังว่าผังใหม่จะต้องได้ทั้งกล่องและได้ทั้งเงินด้วย เพราะเชื่อมั่นว่าจะมีความ แตกต่างจากผังรายการของสถานีโทรทัศน์ช่องอื่น

โดยช่วงเวลาที่มีการปรับเปลี่ยนมากที่สุด คือ ช่วงไพรม์ไทม์รายการใหม่ เช่น ปริศนาของเจเอสแอล เวลา 18.00-18.15 น. วันจันทร์-วันศุกร์ ส่วนรายการช่วงไพรม์ไทม์คือช่วงเวลา 20.30-21.30 น. วันจันทร์ วีไอพีของโพลีพลัส, วันอังคาร เล่านอกรอบของ ซีนาริโอเป็นบริษัทใหม่ของ ถกลเกียรติ วีรวรรณ, วันพุธ จอโลกไบโอกราฟฟี, วันพฤหัสบดี บันทึกโลกของมีเดียของออฟมีเดียส์, วันศุกร์ กบนอกกะลาของทีวีบูรพา ส่วนรายการข่าวจากสำนักข่าวไทย ทุกวันจันทร์-วันศุกร์จะมีช่วงเวลา 17.30-18.00 น., 18.45-19.30 น., 20.00-20.15 น.

บางรายการก็เป็นรายการเก่าแค่มีการปรับรูปแบบและเวลาเช่น รายการคุยคุ้ยข่าว จะออกอากาศเวลา 21.30-22.00 น. วันจันทร์-วันศุกร์ โดยมีสรยุทธ สุทัศนะจินดา ร่วมกับนายกนก รัตน์วงศ์สกุล เป็นพิธีกรร่วมจากเดิมที่ออกอากาศในวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งก็ยังคงมีเหมือนเดิมอีกด้วยเป็นการเพิ่มเวลาขึ้นมา

ขณะเดียวกัน ช่วงเวลา 17.05-17.30 น.ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เป็นรายการเปิดโลกวัยซนของบริษัทมีเดียออฟมีเดียส์ โดยจะเป็นรายการแตกต่างกันไปทั้งห้าวัน เขาย้ำด้วยว่า โมเดิร์นไนน์ยังคงให้ความสำคัญกับรายการเด็กตามนโยบายของรัฐบาล เช่น โมเดิร์นไนน์การ์ตูน ไอทีจีเนียส เกมคนเก่งกับแอลจี เป็นต้น

"ที่ผ่านมาเราปรับผังรายการก่อน เมื่อแข็งแกร่งแล้วเราก็หันมาปรับปรุงเรื่องการตลาด ซึ่งเมื่อทั้งสินค้าคือรายการและการตลาดของเราพร้อมแล้ว รายได้ก็น่าจะเข้ามามาก ทำให้ผลประกอบดี" นายมิ่งขวัญ กล่าว

แผนเสนอขายหุ้นเข้าครม.วันนี้

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในการประชุม ครม.สัญจร ที่จังหวัดหนองคาย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ จะเสนอขอความเห็นชอบต่อครม.ในแผนการและแนวทางการเสนอขายหุ้นสามัญของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ตามมติการประชุมของคณะกรรมการกำกับนโยบาย ด้านรัฐวิสาหกิจ ครั้งที่ 2 /2547 เมื่อวันที่ 2 กันยายน ในการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 3,000 ล้านบาท เป็น 3,835 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน ไม่ เกิน 167 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท และแนวทางจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่พนักงาน อสมท ซึ่งผู้ที่มีสิทธิได้แก่ พนักงานและผู้บริหารระดับสูง ซึ่งปรากฏชื่อ ณ วันที่จดทะเบียนจัดตั้ง บมจ.อสมท โดยมีมูลค่ารวมและผลประโยชน์ ตอบแทนที่ได้รับจำนวน 8 เท่า ของเงินเดือนก่อนจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท หรือรวมประมาณ 256 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนระหว่าง 6.8-17.1 ล้านหุ้น หรือเทียบเท่าร้อยละ 1.0-2.2 ของหุ้นสามัญทั้งหมดที่เรียกชำระ

ทั้งนี้ รวมถึงการนำหุ้นสามัญที่กระทรวงการคลังถือจำนวนไม่เกิน 51 ล้านหุ้น เสนอขายให้นักลง ทุนทั่วไป และจัดสรรหุ้นส่วนเกินในจำนวนไม่เกินร้อยละ 15 เสนอขายให้นักลงทุนทั่วไป แต่กระทรวงการคลังจะยังคงสัดส่วนการถือครองหุ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่าย ส่วนกรอบโครงสร้างการเสนอขายหุ้น ประกอบด้วย การเสนอขายแก่นักลงทุนภายในประเทศสัดส่วนร้อยละ 70 ของหุ้นที่เสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไป แบ่งเป็นสัดส่วนนักลงทุนสถาบันร้อยละ 30-40 และสัดส่วนของนักลงทุนรายย่อยประมาณร้อยละ 30-40 ของหุ้นที่เสนอขายให้แก่นักลงทุนทั่วไป

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า มีการเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่นักลงทุนต่างชาติเป็นสัดส่วนร้อยละ 30 ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายให้แก่นักลงทุนทั่วไป และให้มีความยืดหยุ่นในจำนวนหุ้นสามัญที่เสนอขายระหว่างนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศ จำนวน ไม่เกินร้อยละ 10 ของหุ้นสามัญที่จะเสนอขายให้แก่นักลงทุนทั่วไป ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการระดุมทุน เป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ

แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า ทั้งนี้จะมีการขอความเห็นชอบจากครม.ให้กระทรวงการคลังและบมจ. อสมท ไม่ต้องนำสัญญา และ/หรือข้อตกลงต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการเสนอขายหุ้น เสนอต่อสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาก่อนลงนาม และขอให้การจำหน่ายหุ้นที่กระทรวงการคลังถืออยู่ ได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกฯว่าด้วย การจำหน่ายหุ้น และขอความเห็นชอบตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจำหน่ายและซื้อหุ้นของ ส่วนราชการ ซึ่งกำหนดให้การจำหน่ายหุ้นในกิจการใดที่ทำให้สัดส่วนของหุ้นที่ถืออยู่ต่ำกว่าร้อยละ 75 ของหุ้นทั้งสิ้นจะต้องขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us