บิ๊ก MATCH เฉือนหุ้นขายกองทุน 2 ล้านหุ้น หลังเก็บในกระดานได้ไม่ครบ "ตี๋-แมทชิ่ง" ตัดใจขายหวังเพิ่มสภาพคล่อง ด้าน "เสี่ยปู่" ทิ้งหุ้นหมดพอร์ตหายวับจากหุ้นใหญ่ ด้านบริษัท ยอมรับกำไรอาจชะลอตัวเหตุลงทุนขยายธุรกิจ แต่ยืนยันแม็ทชิ่งมีพื้นฐานครบทั้งเงินทุนและพันธมิตรหลังร่วมทุนกับช่อง 7

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2547 ที่ผ่านมา นายสมชาย ชีวสุทธานนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทแม็ทชิ่ง สตูดิโอ จำกัด (มหาชน) (MATCH) ขายหุ้น MATCH จำนวน 1,000,000 หุ้น ที่ราคา 7.50 บาท และในวันเดียวกัน นายฐนิสสพงศ์ ศศินมานพ กรรมการขายหุ้น MATCH จำนวน 1,000,000 หุ้น ที่ราคา 7.50 บาท

นอกจากนั้น จากข้อมูลผู้ถือหุ้นของ MATCH ปรากฏว่ามีความเปลี่ยนแปลง โดย ณ วันปิดสมุดทะเบียนครั้งก่อน วันที่ 14 พ.ค. 2547 พบชื่อนายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล หรือเสี่ยปู่ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 14 ถือหุ้นอยู่จำนวน 812,500 หุ้น คิดเป็น 0.60% แต่ ณ วันปิดสมุดทะเบียนล่าสุด วันที่ 4 ส.ค. 2547 ปรากฏว่าไม่มีรายชื่อของนายสมพงษ์อยู่ในผู้ถือหุ้นรายใหญ่แล้ว

แหล่งข่าวจากบริษัทแม็ทชิ่ง สตูดิโอ กล่าวว่า การขายหุ้นของผู้บริหารดังกล่าวเป็นการขายให้กับนักลงทุนสถาบัน ที่ต้องการลงทุนในหุ้น MATCH ซึ่งมีการเข้ามาเก็บหุ้นในกระดานช่วงก่อนหน้านี้ แต่ไม่สามารถได้หุ้นครบตามที่ต้องการ ดังนั้นจึงมีการติดต่อเข้ามาเพื่อขอซื้อหุ้นในส่วนของผู้บริหาร ซึ่งที่ผ่านมามีนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศแสดง ความสนใจหุ้นของบริษัทมาก ในขณะที่สภาพคล่องในกระดานมีน้อย นักลงทุนส่วนใหญ่เป็นการซื้อหุ้นเพื่อถือลงทุน

สำหรับราคาขายที่ 7.50 บาท เป็นราคาตามราคาตลาดในขณะนั้น ซึ่งสาเหตุที่ผู้บริหารตัดสินใจขายหุ้นบางส่วนออกมา เพื่อต้องการเพิ่มสภาพคล่องให้กับหุ้น MATCH รวมทั้งผู้ซื้อเป็นนักลงทุนสถาบันที่มีนโยบายถือหุ้นในระยะยาว ซึ่งจะช่วยให้ราคาหุ้น ในกระดานของ MATCH มีเสถียรภาพ

"ผู้บริหารตัดสินใจขายหุ้นออกมาเพียง 2 ล้านหุ้น เพราะไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน ซึ่งการที่มีสถาบันมาถือหุ้นก็เป็นเรื่องดี ส่วนผู้บริหารเองก็เน้นการบริหารบริษัทเป็นหลัก และทำงานหนักมากเพื่อให้บริษัทมีการขยายตัว ไม่ได้มาสนใจในเรื่องของราคาหุ้น และไม่ได้เป็นนักเล่นหุ้น จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาแทบไม่มีความเคลื่อนไหวการซื้อขายหุ้นของผู้บริหาร MATCH เลยตั้งแต่หุ้นเข้าซื้อขายในตลาด" แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ในขณะนี้ MATCH ถือว่ามีพื้นฐานที่สำคัญครบหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของพันธมิตรทางธุรกิจ และเงินทุน หลังจากที่มีการ ประกาศร่วมทุนกับบีบีทีวี ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของช่อง 7 แต่ในส่วนของกำไรสุทธิที่ออกมาอาจจะยังไม่ สะท้อนถึงพื้นฐานดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบัน MATCH ยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจออกไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจำเป็นต้องใช้เม็ดเงินในการลงทุน

"เรายังไม่หยุดที่จะขยายธุรกิจ จึงต้องใช้เงินลงทุน ดังนั้น EPS อาจจะยังไม่สะท้อนพื้นฐานของบริษัทเท่าที่ควร แต่เราก็ยังเป็นบริษัทที่มีการจ่ายเงิน ปันผลอย่างต่อเนื่อง" แหล่งข่าวกล่าว

ส่วนประเด็นการขายหุ้นของนักลงทุนรายใหญ่ คือ นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล หรือเสี่ยปู่นั้น ทางฝ่ายบริหารไม่ทราบเรื่อง เพราะไม่เคยติดต่อกันเป็นการส่วนตัว

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/47 ของ MATCH มีกำไรสุทธิ 6.93 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 17.89 ล้านบาท ส่วนงวด 6 เดือน มีกำไรสุทธิ 24.03 ล้านบาท ลดลงจาก ช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 36.59 ล้านบาท สาเหตุที่กำไรสุทธิลดลง เนื่องจากบริษัทมีการลงทุนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดวันที่ 7 ก.ย. 2547 ราคาหุ้น MATCH ปิดตลาดที่ระดับ 7.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.35 บาท คิดเป็น 4.70% มูลค่าการซื้อขาย 0.43 ล้านบาท